บทที่ 15

1258 คำ
บทที่ 15 ศึกเสียเปรียบ สงครามกำลังดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด แคว้นไท่เหลียงและแคว้นม่อหยวนผลัดกันรุกผลัดกันถอย ยามนี้ต่างฝ่ายต่างสูญเสียกำลังทหารไปไม่ใช่น้อย หยางเซียวหลิ่นเองก็เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ออกรบทำศึกสงคราม เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แม่ทัพใหญ่หนิงไม่มีสิ่งใดสู้คนตระกูลมู่หรงได้เลยแม้แต่น้อย ทั้งการนำทัพ การวางกลศึก การวางแผนออกรบเทียบไม่ได้กับคนตระกูลมู่หรงที่วางแผนการได้อย่างแยบยลและรัดกุม น่าเสียดายยิ่งนัก ที่ไท่เหลียงต้องสูญเสียคนฝีมือดีไป เพียงเพราะเสด็จพ่อทรงหูเบาเชื่อคำคนตระกูลหนิงมากกว่า ในขณะที่หยางเซียวหลิ่นกำลังคิดไม่ตกว่าจะทำเช่นไรต่อไปดี ก็มีทหารผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามาด้านในกระโจม "ทูลองค์รัชทายาท ยามนี้เสบียงอาหารของเราขาดแคลน อีกทั้งเรายังสูญเสียทหารไปเกือบครึ่ง หากยังเป็นเช่นนี้ เห็นทีว่าศัตรูคงจะบุกตีประตูเมืองชายแดนแตกเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ" หยางเซียวหลิ่นที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที "เจ้าส่งคนกลับเมืองหลวงไปกราบทูลเสด็จพ่อ ว่าข้าต้องการเสบียงและกำลังคนเพิ่ม" "ยามนี้แม่ทัพใหญ่หนิงส่งคนไปแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ" "ดี ตรึงกองกำลังรับมือเอาไว้ก่อน รอกองกำลังเสริมมาถึง" "พ่ะย่ะค่ะ" หยางเซียวหลิ่นไม่รอช้า เขารีบเดินออกจากกระโจมเพื่อมุ่งหน้าไปที่กำแพงเมืองทันที ระหว่างทางที่ผ่านมีแต่เหล่าทหารที่บาดเจ็บบ้างก็ล้มตายอย่างน่าอนาถ หยางเซียวหลิ่นไม่ต้องการเห็นภาพเช่นนี้เลย เหล่าทหารที่ตายในสนามรบไม่รู้กี่มากน้อยที่มีครอบครัว ภรรยาและลูก ๆ รอพวกเขากลับบ้าน เมื่อมาถึงที่กำแพงเมือง เขาก็ขึ้นไปบนหอคอยสังเกตการณ์ในทันที และพบว่าแม่ทัพใหญ่หนิงกำลังยืนมองสถานการณ์เบื้องล่างด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าใดนัก หยางเซียวหลิ่นจ้องมองไปที่เบื้องล่างด้วยความหนักใจ ยามนี้เหล่าทหารเรือนแสนของแคว้นม่อหยวนกำลังฮึกเหิมฆ่าคน หากไม่เตรียมการรับมือให้ดี เห็นทีว่ากำแพงเมืองก็คงจะต้านกองกำลังม่อหยวนไม่อยู่เป็นแน่ "แม่ทัพใหญ่หนิง ท่านคิดเห็นเป็นเช่นไร?" หยางเซียวหลิ่นหันมาเอ่ยถามแม่ทัพใหญ่หนิง แม่ทัพใหญ่หนิงหันมาทำความเคารพหยางเซียวหลิ่นคราหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ "เราคงต้องส่งทหารออกไปต้านกองกำลังของแคว้นม่อหยวนเอาไว้ก่อน เพื่อรอกองกำลังเสริมพ่ะย่ะค่ะ" หยางเซียวหลิ่นที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น "จะทำเยี่ยงนั้นได้เช่นไรกัน ท่านก็เห็นว่ายามนี้ทหารของเราบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย หากส่งออกไปรบเพิ่ม มิเท่ากับส่งพวกเขาไปตายหรอกหรือ มิหนำซ้ำยังจะทำให้กองกำลังของเรายิ่งถดถอยลง!!!" "เช่นนั้นจะทำอย่างไรเล่าพ่ะย่ะค่ะ การรออยู่ที่นี่โดยไม่ทำสิ่งใดเลยก็เท่ากับรอความตาย หากไม่ส่งทหารออกไปต้านกองกำลัง อีกไม่นานประตูเมืองชายแดนถูกศัตรูตีแตกเป็นแน่!!!" หยางเซียวหลิ่นที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง พลางปรับอารมณ์และสีหน้าตนเองให้เป็นปกติ "ทางวังหลวงได้แจ้งกลับมาหรือไม่ว่าอีกกี่วันกว่าเสบียงอาหารและกองกำลังเสริมจะมาถึง" "ร่วมเดือนพ่ะย่ะค่ะ" หยางเซียวหลิ่นหลับตาลงอย่างคิดไม่ตก เขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีแล้ว ทั้งกลศึก วิธีการต่าง ๆ เขาก็หมดหนทางจะนำมาใช้แล้ว ทหารแคว้นม่อหยวนราวกับมดปลวก ยิ่งสังหารคล้ายจะยิ่งเพิ่มขึ้นมาไม่สิ้นสุด การจะสังหารแม่ทัพของแคว้นม่อหยวนนั้นก็ย่อมมิใช่เรื่องง่าย!!! "ข้าจะคิดหาหนทาง ท่านจงเฝ้าระวังประตูเมืองชายแดนให้ดี" "พ่ะย่ะค่ะ" แม่ทัพใหญ่หนิงปรายตามองหยางเซียวหลิ่นคราหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองกองกำลังทหารของแคว้นม่อหยวนด้วยแววตาที่ล้ำลึก บางคราหากเขาพบป้ายหยกสั่งการของจวนตระกูลมู่หรง เขาอาจจะมีแผนการรับมือที่ดีกว่านี้ก็เป็นได้! รังโจร ด้านหนิงซือซือในยามนี้นั้นอาการของนางดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังคงถูกโซ่ตรวนตรึงขาเอาไว้ทั้งสองข้าง มู่หรงเจวี๋ยไม่ยอมปล่อยให้นางหนีไปได้อีก หลายวันมานี้ นางไม่เห็นหน้าเขาเลย แต่การที่ไม่ได้พบเจอกับเขาก็นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับนาง จินเย่ว์ยังคงนำยาและอาหารมาส่งให้นางทุกวัน แม้จะเอ่ยวาจาเหน็บแนมนางบ้าง แต่หนิงซือซือเองก็ไม่ใส่ใจ นานวันเข้าจินเย่ว์ก็รู้สึกเบื่อหน่ายไปเอง "รีบกินเสียสิ ข้าจะได้รีบไปพัก" "รู้แล้ว ๆ" วันนี้ก็เป็นเหมือนเช่นทุกวันที่จินเย่ว์นำยามาส่งให้นาง หนิงซือซือยกถ้วยยาขึ้นดื่ม รสชาติขมฝาดของมันทำให้นางเบ้หน้าได้ทุกครา เมื่อดื่มยาหมดแล้ว นางจึงเอ่ยถามจินเย่ว์ด้วยความสงสัย "นี่จินเย่ว์ พี่เหล่ยของเจ้าหายไปที่ใด ข้าไม่เห็นเขามาตามด่าข้าเลย" จินเย่ว์ที่ได้ยินคำว่า พี่เหล่ยของนาง ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก นางจึงเอ่ยตอบหนิงซือซือทันที "ข้าก็ไม่รู้ พี่โจวเซิงบอกว่าพี่เหล่ยมีเรื่องด่วนต้องไปจัดการที่ต่างเมือง อีกร่วมเดือนจึงจะกลับ เจ้าถามทำไม หรือว่า..." "ข้าดีใจที่ไม่ต้องทนมองหน้าเขาต่างหาก!!!" "เจ้าคิดได้แบบนี้มันก็ดี พี่เหล่ยน่ะข้าจองแล้ว" หนิงซือซือพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้จินเย่ว์พลางครุ่นคิดในใจ เจ้าจองไปเถิด ข้าไม่แย่งกับเจ้าหรอก!!! ด้านมู่หรงเจวี๋ยในยามนี้เขากำลังควบม้าห้อตะบึงไปตามทิศทางที่คดเคี้ยวผ่านภูเขาและป่าไผ่ไปอย่างรีบร้อน ระหว่างทางเขาแวะพักเพียงไม่นานก็ออกเดินทางต่อทันที หานอวี้ที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามนายของตนด้วยความห่วงใย "นายน้อย ทำเช่นนี้จะดีหรือขอรับ หากคนพวกนั้นจับได้..." "ไม่มีวันจับได้ เจ้าเชื่อข้าเถิด ครานี้มีแต่ผลประโยชน์ ศัตรูมาหาถึงที่ เราก็ใช้โอกาสนี้ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อตัวเราไม่ดีกว่าหรือ?" "แต่มันเสี่ยงอันตรายมากเลยนะขอรับ" "ทำตามแผนที่วางไว้ เจ้าอย่าลืมสิว่าข้าคืออดีตแม่ทัพสงครามที่เจ้าเล่ห์ที่สุด อย่าว้าวุ่นใจเลย ตามคนมาครบหรือยัง ทำตามที่ข้าสั่ง" "เรียบร้อยขอรับ" "ดี รีบไป!!! ย้ะ!!!" หานอวี้จ้องมองดวงตาที่เย็นชาของมู่หรงเจวี๋ยผ่านหน้ากากเหล็กที่เขาสวมใส่เอาไว้ หานอวี้รู้ดีว่ามู่หรงเจวี๋ยมีนิสัยเช่นไร เจ้านายของเขาผู้นี้มีฝีมือที่ยอดเยี่ยม ผู้คนต่างเรียกขานเขาว่าแม่ทัพเทพสงครามจอมเจ้าเล่ห์ เอาเถิด เขาจะคุ้มครองนายน้อยให้ดีที่สุด!!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม