บทที่ 14 แผลเป็นในใจ
หนิงซือซือลืมตาตื่นขึ้นมาช้า ๆ แสงอาทิตย์ในยามเช้าที่เล็ดลอดผ่านเข้ามาทางผ้าม่านหน้าต่าง ทำให้นางต้องหรี่ตาลง ใบหน้าสวยหวานของนางฉายแววตื่นตระหนก เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
นางถูกฉุด!!!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หนิงซือซือจึงดีดกายขึ้นมานั่งบนเตียง ก่อนจะมองไปโดยรอบ ดวงตากลมโตของนางฉายแววตื่นกลัวเป็นอย่างมาก
ที่นี่คือที่ใดกัน?
หรือว่านางถูกพวกมันห้าคนย่ำยีไปแล้ว แล้วก็ถูกจับมาอยู่กับพวกมันหรือ?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงก้มลงมองดูเสื้อผ้าของตนเอง ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่ายามนี้เสื้อผ้าของนางถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด อีกทั้งข้อเท้าทั้งสองข้างของนางก็ถูกโซ่ตรวนรัดรึงเอาไว้ไม่ให้หนีไปได้
นี่มัน!!!
"กรี๊ดดดด!!!"
เมื่อคิดได้เช่นนั้นหนิงซือซือจึงกรีดร้องออกมาทันที จินเย่ว์ที่กำลังนำยาต้มเข้ามาก็ตกใจไม่น้อย ก่อนจะรีบเปิดประตูห้องเข้าไป
"แหกปากทำไมกัน ข้าตกใจหมด!!!"
เสียงที่คุ้นเคยทำให้หนิงซือซือต้องหันไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นจินเย่ว์นั่นเอง
อ้าว!!! เหตุใดจินเย่ว์จึงมาอยู่ที่นี่ เดี๋ยวก่อน!!!
"จินเย่ว์?"
"ใช่สิ!!! ข้าเอง ไม่ใช่พี่เหล่ยหรอก"
"พี่เหล่ย? ผู้ใดกัน"
จินเย่ว์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากใส่หนิงซือซือ ก่อนจะวางชามยาลงบนโต๊ะอย่างไม่พอใจเท่าใดนัก
"แหม เจ้านี่มารยาสาไถยเก่งจริงนะแม่คุณหนูสูงศักดิ์ พี่เหล่ยก็คือคนที่จับตัวเจ้ามาอย่างไรเล่า? อย่าคิดนะว่าข้าดูไม่ออก ว่าเจ้าน่ะพยายามยั่วยวนเขา คิดหาทางหนีหวังให้เขาสนใจ แต่กลับถูกพวกโจรฝั่งตรงข้ามฉุดไป โชคยังดีที่พี่เหล่ยไปช่วยเอาไว้ได้ทัน หึ!!! ไม่น่าช่วย น่าจะปล่อยให้เจ้าถูกพวกมันจับตัวไปเสีย"
หนิงซือซือที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก
โจรชั่วช้านั่นชื่อพี่เหล่ย?
แล้วเมื่อคืนเขาก็มาช่วยนางเอาไว้?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หนิงซือซือจึงหันไปเอ่ยถามจินเย่ว์ทันที
"โจรชั่ว!!! เอ่อ พี่เหล่ยของเจ้าน่ะ เป็นคนไปช่วยข้าจริงหรือ?"
"ก็ใช่น่ะสิ เหอะ เสนอหน้าคิดจะหนี แต่กลับไปไหนไม่รอด!!!"
"จินเย่ว์ เจ้าออกไปได้แล้ว!!!"
เสียงทุ้มของบุรุษที่แฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชาเอ่ยขึ้นมา ทำให้หนิงซือซือต้องหันไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นมู่หรงเจวี๋ยนั่นเอง
"พี่เหล่ย ข้ากำลังสมเพชในความโง่ของนาง"
"ออกไปก่อน อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง"
"เจ้าค่ะ"
จินเย่ว์หันมาถลึงตาใส่หนิงซือซืออีกครา ก่อนจะเดินออกไป ยามนี้จึงเหลือเพียงหนิงซือซือและมู่หรงเจวี๋ยเพียงสองคน เขาปรายตามองใบหน้าสวยหวานที่ยามนี้ซีดเซียว อีกทั้งยังมีร่องรอยของการถูกทำร้าย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
"เป็นอย่างไรเล่า เกือบได้เป็นเมียโจรฝั่งโน้นแล้ว เหตุใดจึงไม่บอกข้าดีดีเล่าว่าอยากมีสามี ข้าจะได้หาคนในรังโจรให้มาเป็นสามีเจ้าสักคน โจวเซิงเป็นอย่างไร?"
หนิงซือซือปรายตามองมู่หรงเจวี๋ยคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ
"หากช่วยแล้วมาเอ่ยวาจาปากสุนัขเช่นนี้ คราวหลังไม่ต้องช่วยก็ได้ ข้าไม่ได้อยากมีสามี ไม่ต้องเสนอหน้ามาคิดหาให้ข้า"
"ปากดีนักนะ ทีเมื่อคืนยับเยินจนแทบต้องหามกลับเรือนยังไม่สำนึก!"
หนิงซือซือที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองมู่หรงเจวี๋ยทันที แววตาที่ฉายแววตื่นตระหนกของนางมันทำให้เขานึกสนุกเป็นอย่างมาก
"ท่านหมายความเช่นไร ตอบข้ามานะ เมื่อคืนเกิดสิ่งใดกับข้ากันแน่!!!"
"เจ้าคิดว่าเกิดสิ่งใดเล่า?"
หนิงซือซือเริ่มใจเสียแล้ว หรือว่าเมื่อคืนนางจะถูกพวกนั้น...
มู่หรงเจวี๋ยแสยะยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
"เจ้ายังปลอดภัยดี พวกโจรนั่นมันคงเห็นสภาพทุเรศทุรังของเจ้าเลยไม่กล้าทำสิ่งใด"
หนิงซือซือค้านจะต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว นางจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายเงียบเสียเอง เมื่อรู้ว่าเมื่อคืนนางไม่ได้ถูกพวกมันล่วงเกินก็เบาใจลงไปไม่น้อย มู่หรงเจวี๋ยที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ข้าช่วยเจ้าครานี้นับว่าเป็นบุญคุณ เจ้าก็อย่าลืมตอบแทนบุญคุณข้าด้วยเล่า อ้อ อย่าใช้ร่างกายตอบแทนล่ะ ข้าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก"
เพียะ!!!
ฝ่ามือขาวเนียนฟาดลงมาบนใบหน้าของมู่หรงเจวี๋ยจนเขาหน้าชา เขาหันไปมองนางอย่างเอาเรื่อง แต่กลับพบว่านางเองก็จ้องมองเขาอย่างไม่เกรงกลัวเช่นเดียวกัน
"ข้าคงไม่ลดตัวเอาร่างกายไปตอบแทนท่านหรอก อย่าคิดว่าตนเองวิเศษอยู่ฝ่ายเดียวสิ!!! คนอื่นเขาก็รังเกียจท่านเหมือนกันยังไม่รู้ตัวอีก อ้อ!!! ในเมื่อเก่งกาจนัก เหตุใดจึงไม่ไปจัดการท่านพ่อข้าล่ะ มาจับตัวข้าเอาไว้ทำไม หรือว่าปอดแหกมิกล้าทำ จึงเอาความแค้นในใจมาลงที่สตรีเช่นข้า "
"หนิงซือซือ!!! เจ้าอย่าคิดว่าข้าใจดีกับเจ้านะ!!!"
"ข้าก็ไม่เคยมองท่านเป็นคนดีอยู่แล้ว อ้อ!!! เลิกล่ามโซ่ข้าเสียที ข้าเป็นคนไม่ใช่สัตว์!!!"
"ข้าจะล่ามเจ้า ล่ามเจ้าไปทั้งชีวิตเลยยิ่งดี!!! เหอะ! ต่อไปเจ้าจะต้องอยู่ใกล้ ๆ สายตาของข้า ที่นี่คือเรือนของข้า เจ้าอย่าได้คิดหนี"
"เจ้ามันคนใจทราม"
"ขอบใจที่เอ่ยชม"
"สารเลว!!!"
เขาอยากจะบีบนางให้แหลกคามือ แต่เมื่อเห็นสภาพที่บาดเจ็บของนางเขาจึงไม่อยากหาเรื่องทะเลาะกับคนใกล้ตายเช่นนางอีก
ยามที่ครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาไปพบเจอนางกำลังถูกโจรป่าฝั่งตรงข้ามกำลังจะทำมิดีมิร้าย โชคดีที่เขาไปพบเข้าเสียก่อน นางจึงยังปลอดภัย สภาพยามนั้นของนางย่ำแย่เป็นอย่างมาก ใบหน้าสวยเขียวช้ำ ริมฝีปากมีเลือดไหลออกมา ตามร่างกายก็มีร่องรอยถูกทำร้ายอยู่ไม่น้อย
โจรป่าพวกนั้นเป็นคู่อริของเขา ต่างฝ่ายต่างแย่งกันปล้น เดิมทีพวกมันมีที่ทางของตนเอง แบ่งอาณาเขตกับรังโจรของเขาอย่างชัดเจน แต่ทว่าเหตุใดพวกมันจึงมาโผล่หัวอยู่ที่นี่ได้
เขาจึงจัดการสั่งสอนพวกมันจนสะบักสะบอมปางตาย ก่อนจะแบกนางกลับรังโจรส่งให้จินเย่ว์ช่วยรักษานางต่อ
เมื่อมู่หรงเจวี๋ยออกไปแล้ว หนิงซือซือจึงค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก ก่อนจะมองเห็นบาดแผลและร่องรอยของการถูกทำร้ายจากเหตุการณ์เมื่อคืน
เมื่อนางไล่สายตามองไปที่กระจกด้านหลังเตียง แล้วจึงได้พบกับรอยแผลที่เกิดจากการถูกลงโทษในครานั้น
เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นนางมีอายุเพียงสิบสองขวบปี นางกับหนิงเซียนทะเลาะกันเรื่องเลือกผ้าที่จะเอาไว้ตัดชุด เดิมทีนางชอบสีชมพู แต่ทว่าหนิงเซียนกลับอยากได้ผ้าสีนั้นเช่นเดียวกันกับนาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นางก็ไม่เห็นว่าหนิงเซียนจะชื่นชอบสีชมพูเลยแม้แต่น้อย
เหตุการณ์วุ่นวายจนนางกับหนิงเซียนลงไม้ลงมือกัน
ท้ายที่สุดกลายเป็นนางที่ถูกลงโทษ ท่านพ่อเป็นคนโบยนางเองกับมือจนแผ่นหลังของนางแตกเป็นรอยเลือด มันกลายเป็นแผลเป็นทั้งบนร่างกายและในจิตใจของนาง
ไท่เหลียงถือเรื่องความงามเป็นที่สุด สตรีที่มีรอยแผลเป็นตามร่างกายมักจะไม่ได้พบเจอกับเรื่องที่ดีดี หากคิดจะเข้าวังไปเป็นสนมก็หมดวาสนา เพราะกฎระบุเอาไว้ชัดเจนว่าสตรีนางนั้นจะต้องงามพร้อมไร้รอยใดใดบนใบหน้าและผิวกาย หากจะแต่งเป็นภรรยาเอก ย่อมไม่มีผู้ใดต้องการเพราะถือว่าจะนำความอัปมงคลมาสู่ตระกูล อย่างมากก็คงจะเป็นได้เพียงอนุของพ่อค้าหาบเร่เพียงเท่านั้น ตั้งแต่เติบโตมาจนบัดนี้ นางจึงไม่เคยคิดที่จะมีความรักเลยสักครา เพราะนางไม่อยากเจ็บปวดอีก เพียงแค่ต้องพบเจอเรื่องราวในจวนนางก็เหนื่อยล้าเต็มทีแล้ว
โชคดีที่นางมีท่านย่าคอยดูแล ไม่เช่นนั้นชีวิตของนางจะต้องเดินไปในทิศทางใดนางก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกัน
หนิงซือซือถอนหายใจออกมา พร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้า แล้วหัวเราะออกมาอย่างเหนื่อยล้า
ร่องรอยของบาดแผลแต่ละจุดบนร่างกายนางล้วนมีเรื่องราว ก็เหมือนกับรอยแผลใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
ชีวิตนางจะพบเจอกับเรื่องดีดีเฉกเช่นผู้อื่นไม่ได้เลยหรือ?
สวรรค์!!! เหตุใดจึงกลั่นแกล้งกันได้ถึงเพียงนี้!