บทที่ 11

1661 คำ
มู่หรงเจวี๋ยกลับมาที่เรือนนอน ก่อนจะใช้ผ้าพันแผลบริเวณมือที่ถูกหนิงซือซือกัด แล้วจึงหันไปเอ่ยถามหานอวี้ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย "จวนตระกูลหนิงมีความเคลื่อนไหวหรือไม่?" หานอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้น จึงรีบเอ่ยตอบนายของตนในทันที "เรียนนายน้อย ไม่มีความเคลื่อนไหวใดใดจากจวนตระกูลหนิงเลยขอรับ เมื่อหลายวันก่อนมีกลุ่มบุรุษชุดดำสองสามคน มาลอบสังเกตการณ์บริเวณที่คุณหนูหนิงเซียนหายตัวไปขอรับ" "บุรุษชุดดำหรือ?" มู่หรงเจวี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่นพลางครุ่นคิด น่าแปลกยิ่งนัก บุตรสาวสุกที่รักหายไปทั้งคน แม่ทัพใหญ่หนิงจะไม่คิดออกตามหาเชียวหรือ? "ลูกพี่ขอรับ ลูกพี่" "เข้ามา" มู่หรงเจวี๋ยที่กำลังครุ่นคิดพลันหยุดชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของโจวเซิงเขาถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง โจวเซิงนี่ก็ดีไปหมดทุกอย่าง เสียเพียงทำสิ่งใดชอบโหวกเหวกโวยวายจนเป็นนิสัย "ลูกพี่" "จะแหกปากไปทำไมกัน?" "ตัวประกันหนิงเซียน นางจะตายแล้วขอรับ!!" "เจ้าว่าอย่างไรนะ?" "นางจะตายแล้วขอรับ ลูกพี่รีบไปดูเถิด!!" มู่หรงเจวี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบก้าวเดินมุ่งหน้าไปที่เรือนหลังเล็กที่เขาจับหนิงซือซือมาขังเอาไว้ในทันที เมื่อมาถึงก็พบว่ายามนี้นางกำลังนั่งหายใจเหนื่อยหอบ ตามใบหน้ามีผดผื่นแดงขึ้นเป็นจ้ำๆ มู่หรงเจวี๋ยยื่นมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างของนางเอาไว้ก่อนจะเอ่ยถาม "เจ้าเสแสร้งอันใดอีก!!" หนิงซือซือที่ได้ยินเช่นนั้น ก็จ้องมองมู่หรงเจวี๋ยคราหนึ่ง ให้ตายเถอะ นางคันไปทั้งตัว จนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว "ข้าจะตายแล้ว ท่านตาบอดหรือ?" "ยังจะปากดีกับข้า เจ้าเป็นอะไร!!" "เป็นสิ่งใดก็เรื่องของข้า ดีเหมือนกัน จะได้ตายๆไปเสีย อยู่ไปก็มีแต่ความบัดซบ" มู่หรงเจวี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้น จึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน "ข้าไม่ให้เจ้าตายง่ายๆเช่นนี้หรอก เจ้าต้องอยู่มองดูความล่มจมของตระกูลเจ้าเสียก่อน หากเจ้าจะต้องตาย ก็จะต้องตายด้วยมือของข้า" "ใจท่านนี่มันพิกลพิการเกินเยียวยาแล้วจริงๆ" มู่หรงเจวี๋ยคร้านจะใส่ใจคำพูดด่าทอของหนิงซือซืออีก เขาหันไปเอ่ยกับโจวเซิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล "โจวเซิง เจ้าไปตามจินเย่ว์มา นางมีความรู้เรื่องยา ให้นางมาดูสตรีอัปลักษณ์นี่เสียหน่อย" "ขอรับลูกพี่" โจวเซิงรับคำก่อนจะเดินจากไป หนิงซือซือในยามนี้นั้นนางคันตามร่างหาบยิ่งนัก นั่นเป็นเพราะนางแพ้ฝักจ้าวเจี่ยว นางพยายามไม่เกาตรงบริเวณที่เป็นผดผื่น เพราะเกรงว่ามันจะเกิดรอยแผลใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก ไม่นานนักจินเย่ว์ก็มาถึง นางรีบโผเข้าไปกอดแขนมู่หรงเจวี๋ยทันที "ท่านพี่เหล่ย จินเย่ว์มาแล้ว โอะ!!นี่สตรีที่ใดกัน พี่ฉุดนางมาเป็นเมียหรือ? พี่เหล่ย!!" "รีบดูอาการนาง" "พี่เหล่ย!!" "หากนางตาย ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายตามนางไปอีกคน" โจวเซิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบสะกิดจินเย่ว์ญาติผู้น้องของตนให้รีบทำตามคำสั่งของมู่หรงเจวี๋ยในทันที จินเย่ว์ที่ถูกขู่ฆ่าก็หวาดกลัวเป็นอย่างมาก นางจึงรีบตรวจดูอาการของหนิงซือซือทันที ในอดีตท่านพ่อของนางเคยเป็นหมอสมุนไพรในหมู่บ้าน สามารถตรวจโรคได้บ้างเล็กน้อย จินเย่ว์จึงได้วิชาความรู้มาบ้าง นางดูอาการชองหนิงซือซือคราหนึ่ง ก่อนจะหันมาเอ่ยกับหมู่หรงเจวี๋ย "ดูเหมือนว่านางจะแพ้ฝักจ้าวเจี่ยวเจ้าค่ะ ข้าจะต้มยาบรรเทาอาการคันตามร่างกายให้นางกิน และจะนำสมุนไพรที่บดเป็นยามาทาให้นาง ไม่เกินสองวันก็หายดีแล้วเจ้าค่ะ" "เจ้ารีบไปจัดการเถิด" "เจ้าค่ะ" ผ่านไปราวครึ่งชั่วยามจินเย่ว์ก็กลับมาพร้อมยาต้มสมุรไพรและยาทา มู่หรงเจวี๋ยให้นางจัดการทายาให้หนิงซือซือ แต่ทว่าหนิงซือซือกลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน "ข้ากินเองได้ ขอบใจเข้ามาก" "เรื่องของเจ้า ดีเหมือนกัน ข้าเองก็ไม่อยากทายาให้เจ้าเช่นกัน" จินเย่ว์เอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้มู่หรงเจวี๋ย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป หนิงซือซือที่เห็นเช่นนั้นจึงปรายตามองมู่หรงเจวี๋ยคราหนึ่งนางเห็นเพียงแววตาเย็นชาภายใต้หน้ากากของเขา ราวกับในโลกใบนี้เขาเฉยชาต่อทุกสิ่งจนเป็นนิสัย "ออกไปสิ ข้าจะทายา จะอยู่ดูหรือ?" มู่หรงเจวี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะในลำคอ เขาพลันนึกถึงเรื่องราวเมื่อครู่ที่นางทำผ้าหลุดต่อหน้าต่อตาเขาก็พลันรู้สึกสะอิดสะเอียนไม่น้อย "ดื่มยาให้หมด" "ข้าดื่มเองได้ ท่านออกไปเถิด" "ข้าสั่งให้กินต่อหน้าข้า!!" "ก็ข้าบอกว่ากินเองได้ อื้อ!!" มู่หรงเจวี๋ยหมดความอดทนแล้ว เหตุใดสตรีบัดซบนางนี้จึงดื้อรั้นได้เก่งกาจเช่นนี้กันนะ!! เขาทิ้งกายนั่งลงตรงหน้านาง ก่อนจะยกถ้วยยากรอกใส่ปากของหนิงซือซืออย่างไร้ความปรานี หนิงซือซือสำลักยาจนแทบจะอาเจียนออกมา เมื่อตั้งสติได้ นางจึงปัดถ้วยยาที่เหลือในมือของเขาทิ้ง แล้วฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของเขาอย่างเต็มแรง เพียะ! เพราะแรงตบของนางไม่ได้เบา ทำให้หน้ากากเหล็กที่เขาสวมใส่เพื่อปิดบังใบหน้าเอาไว้หลุดออกในทันที หนิงซือซือคล้ายชะงักไปเล็กน้อย เมื่อได้เห็นใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาของเขา เมื่อมู่หรงเจวี๋ยหันหน้ากลับมาและจ้องมองนาง หนิงซือซือก็พบว่าองคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าของเขาช่างหล่อเหลาราวกับภาพวาดของเทพสวรรค์ก็ไม่เกินจริงเท่าใดนัก "เจ้ากำลังทำให้เส้นความอดทนของข้าหมดลงหนิงเซียน" หนิงซือซือเมื่อตั้งสติตนเองกลับมาได้ ก็จ้องมองใบหน้าของเขาที่ฉายแววเหี้ยมเกรียม ยามที่มองใบหน้าของนาง หนิงซือซือที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว นางขยับกายจนติดกับผนังห้อง ไร้หนทางหนี ในขณะที่มู่หรงเจวี๋ยก็ขยับเข้ามาใกล้นางมากขึ้นเรื่อยๆ "อย่าเข้ามานะ ข้าตะโกนให้คนช่วยจริงๆด้วย" มู่หรงเจวี๋ยไม่เอ่ยสิ่งใด เขาขยับเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ พลางล้วงมือหยิบมีดสั้นออกมาถือเอาไว้ หนิงซือซือที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนดวงตาเบิกกว้าง นี่ถึงกับจะฆ่ากันเลยหรือ!!! "อย่าเข้ามานะ ปล่อยข้าไปเถอะ มันบาปนะท่านฆ่าคนน่ะ อย่านะ!!" มู่หรงเจวี๋ยไม่เอ่ยตอบสิ่งใด ดวงตาของเขาเย็นชาดุจน้ำแข็ง ในขณะที่มือก็เงื้อขึ้นสูงพร้อมกับมีดสั้นในมือที่ส่องประกายแวววาวคมกริบ "อย่านะ!!!ว๊าย!!" ฉึก!!! หนิงซือซือหลับตาลง นางกำลังรอรับความตายที่มู่หรงเจวี๋ยมอบให้ แต่ทว่าผ่านไปเนิ่นนานนางก็ไม่รู้สึกว่าร่างกายได้รับบาดเจ็บตรงที่ใด นางจึงค่อยๆหรี่ตามองดูมู่หรงเจวี๋ยที่นั่งอยู่ตรงหน้านางด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย "ไม่ได้ฆ่าข้าหรือ?" "แหกตาดูข้างหลังเจ้าสิ" เมื่อหนิงซือซือหันไปมองข้างหลังนางก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบกับแมงป่องตัวสีดำขนาดใหญ่ที่ถูกมีดสั้นของมู่หรงเจวี๋ยแทงเจ้าที่กลาวลำตัวจนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น "ว๊าย!!แมงป่อง ข้ากลัว!!" "โอะ!!ปล่อยข้านะ!!" "ข้ากลัว ข้ากลัว!!!" หนิงซือซือพุ่งกายเข้าไปกอดรัดรอบลำคอของมู่หรงเจวี๋ยเอาไว้ ทำให้เขาหงายหลังล้มลงไปนอนกับพื้น ในขณะที่หนิงซือซือกำลังนอนทับเขาอยู่บนร่างกายของเรา ริมฝีปากบางสวยของนางทาบทับลงมาบนริมฝีปากหนาใหญ่ของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทั้งมู่หรงเจวี๋ยและหนิงซือซือต่างหยุดชะงักทำสิ่งใดไม่ถูกทั้งคู่ "ลูกพี่!! โวยยย!! ขออภัยขอรับ ท่านทำกันต่อเถิด!!" โจวเซิงที่เปิดประตูเข้ามาไม่ดูทิศทางลม เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าเขาก็ยกมือขึ้นปิดปากพลางครุ่นคิดในใจ ที่แท้ลูกพี่ก็จะจับนางมาทำเมียนี่เอง!!! โธ่!!แล้วก็ทำหน้าดุใส่นางทั้งวัน หากเป็นเขานางงามขนาดนั้นมีหวังได้ 'ทำ' ทั้งวันเป็นแน่!! เมื่อตั้งสติได้ มู่หรงเจวี๋ยจึงผลักหนิงซือซือออก จนนางหงายหลังล้มลงไปนอนกองกับพื้นพลางส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด "บ้าจริง!! ผลักแรงเช่นนี้ข้าเจ็บนะ" "คิดล่วงเกินข้า หน้าไม่อายจริงๆ หากมีครั้งหน้าอีก ข้าจะฟันปากเจ้า!!" มู่หรงเจวี๋ยเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะหยิบหน้ากากขึ้นมาสวมใส่ แล้วเดินจากไปทิ้งให้หนิงซือซือลอบสบถด่าทอเขาตามหลังด้วยความโมโห เมื่อคิดถึงจูบแรกที่นางตั้งใจรักษาเอาไว้ให้คนที่นางรัก แต่กลับต้องมาเสียมันให้กับโจรป่าเถื่อนผู้นี้ นางก็รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก เหอะ!!หากมีครั้งหน้านางก็จะตบปากเขาเหมือนกัน ใครจะยอม!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม