บทที่ 13 หนีจอมมารปะปีศาจ
หนิงซือซือมองฝ่าความมืดเบื้องหน้าด้วยหัวใจที่เต้นถี่ระรัวอย่างบ้าคลั่ง นางไม่เคยออกมาพบเจอความน่ากลัวเช่นนี้มาก่อนเลยสักครา ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ในจวน นางเคยออกจากจวนไปเที่ยวเล่นเพียงไม่กี่ครา ชีวิตนางราวกับวิหคปีกหัก ที่ถูกคนกักขังเอาไว้ในกรงทอง ไม่ให้ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน
หนิงซือซือที่วิ่งอย่างสุดชีวิต ยามนี้รู้สึกเหนื่อยหอบเป็นอย่างมาก นางจึงหยุดวิ่งก่อนพิงกายกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง พลางมองไปโดยรอบที่เป็นป่ามืดมิด มีเพียงแสงจันทร์สลัวรางจากบนฟ้าที่พอให้มองเห็นได้บ้าง
น่ากลัวเสียจริง!
ในขณะที่หนิงซือซือกำลังมองไปโดยรอบด้วยความสิ้นหวัง แต่แล้วนางกลับได้ยินคล้ายเสียงคนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลนัก นางตั้งใจเงี่ยหูฟัง ก่อนจะค่อย ๆ เดินตามเสียงนั้นไปอย่างช้า ๆ นางหวังว่าเสียงที่ได้ยิน อาจจะเป็นเสียงของเหล่าชาวบ้านที่ออกมาหาของป่าหรือสัตว์ป่าในยามวิกาล แต่ทว่าเมื่อเข้ามาใกล้ นางก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่นางคิด
ภาพที่นางเห็นคือบุรุษราวสี่ถึงห้าคน กำลังล้อมวงดื่มสุรากันอยู่ท่ามกลางกองไฟที่ลุกโชน ทำให้นางสามารถมองเห็นใบหน้าของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน มันช่างดูเหี้ยมโหดและน่ากลัว เสียงหัวเราะและพูดคุยดูราวกับเสียงสัตว์ป่าที่กำลังคำราม สัญชาตญาณของหนิงซือซือบอกกับนางว่า ที่นี่ไม่ปลอดภัยและอาจจะอันตรายต่อชีวิตของนางเป็นอย่างยิ่ง โชคดีที่นางแอบอยู่หลังต้นไม้พวกมันจึงไม่เห็นนาง
หนิงซือซือพยายามทำตัวให้เงียบมากที่สุด ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเดินออกมาจากตรงนั้น
กรอบแกรบ!!!
"ผู้ใดน่ะ!!!"
หนิงซือซือหลับตาพลางสบถด่าทอตนเองอยู่ในใจ อย่างที่นางเคยคิด ชีวิตของนางเหมือนถูกลิขิตเอาไว้ให้พบเจอแต่เรื่องราวบัดซบจริง ๆ!!!
"สตรี!!! ลูกพี่ สตรี นางงดงามยิ่งนัก!!!"
"สตรีหรือ จับนางมา วันนี้ข้าต้องได้นางมาแก้ขัดความเหงา!!!"
หนิงซือซือที่ได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือดในทันที นางตัดสินใจวิ่งหนีกลับทางเดิมอย่างไม่คิดชีวิต จะให้นางทำเช่นไรได้ ทางใดก็ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตของนางทั้งสิ้น
"อย่าหนีนะ!!!"
พวกมันยังคงวิ่งไล่ตามนางมาติด ๆ เพียงเวลาไม่นานพวกมันก็ตามนางทันและจัดการล้อมนางเอาไว้ได้สำเร็จ หนิงซือซือจ้องมองชายฉกรรจ์ห้าคนที่ล้อมนางเอาไว้ตรงกลางด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก ในขณะที่ชายฉกรรจ์เหล่านั้นก็จ้องมองนางด้วยแววตาแทะโลมอย่างไม่ปิดบัง
"แม่นาง กลับไปกับพวกข้าเถิด ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำรุนแรงกับเจ้า"
"เจ้าช่างงามนัก มาจากที่ใดหรือ?"
"แม่นาง เจ้านี่ช่างโชคดีไม่น้อยที่คืนนี้จะได้สามีถึงห้าคน ฮ่า ๆ!!!"
"แม่นาง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว แก้ผ้าให้พวกข้าดูเสียหน่อยจะเป็นไรไป!"
"มา ๆ มาหาความสุขกัน กลางป่าเช่นนี้อารมณ์ข้าพลุ่งพล่านยิ่งนัก"
วาจากล่าวอ้างแทะโลมสารพัด ทำให้หนิงซือซือรังเกียจเป็นอย่างมาก ให้ตายเถิด นี่นางสู้อุตส่าห์หนีจากจอมมาร เพื่อมาพบเจอกับปีศาจเช่นนั้นหรือ!!!
"พี่ชาย ท่านปล่อยข้าไปเถิด ข้าก็เป็นเพียงสตรีตัวเล็ก ๆ ข้ามาเก็บยาไปรักษาท่านแม่ ท่านปล่อยข้าไปเถิดนะ"
หนิงซือซือพยายามใช้ไม้อ่อนเรียกร้องความสงสารเห็นใจจากพวกมันเพื่อหาทางรอด แต่ทว่าแทนที่พวกมันจะนึกสงสารเวทนานาง พวกมันกลับแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างไร้ความปรานี
"เป็นเมียพวกข้าก่อน แล้วเจ้าถึงจะได้กลับบ้าน!"
"อย่านะ ว้าย!!! ช่วยด้วย!!!"
หนิงซือซือตะโกนก้องป่าเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่คล้ายกับโชคชะตาจะไม่เข้าข้างนางเอาเสียเลย หนึ่งในชายฉกรรจ์ยื่นมือมาปิดปากของนาง นางกัดมือของมันเต็มแรงจึงถูกมันตบเข้าที่ใบหน้าจนนางมึนงง ก่อนที่จะต่อยเข้ามาที่หน้าท้องของนาง จนนางทิ้งกายลงนอนกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
"ชอบความรุนแรงเหตุใดจึงไม่บอกพวกข้าเล่า ฮ่า ๆ!!!"
"จับนางไว้ คืนนี้นางจะต้องตกเป็นเมียของพวกเรา!!!"
"อย่านะ!!! อย่า!!!"
ราวกับภาพทุกอย่างตัดลงอย่างเชื่องช้า มีเพียงความดำมืดก่อนที่หนิงซือซือจะหมดสติไปเพราะความหวาดกลัว
จวนตระกูลหนิง
เช้านี้อากาศค่อนข้างสดใสเป็นอย่างมาก ยามนี้เริ่มมีสายฝนโปรยปรายลงมาไม่น้อย เพราะเข้าสู่ช่วงต้นวัสสานฤดูแล้ว
งานอภิเษกสมรสระหว่างหยางเซียวหลิ่นและหนิงเซียน ถูกเลื่อนออกไปเป็นปลายวัสสานฤดูแทน เนื่องจากแคว้นม่อหยวน ยกทัพมารุกรานชายแดนทางเหนือของไท่เหลียง ฮ่องเต้หยางเฉวียนจึงมีคำสั่งให้หยางเซียวหลิ่นนำทัพออกรบในครานี้ร่วมกับแม่ทัพใหญ่หนิง สงครามอาจจะใช้เวลาร่วมสามเดือน จึงต้องเลื่อนงานอภิเษกในครานี้ออกไปเสียก่อน แต่หนิงเซียนเองก็ไม่กังวลใจ ยามนี้ไร้เสี้ยนหนามหัวใจ อย่างไรเสียตำแหน่งไท่จื่อเฟยและมารดาของแผ่นดิน ย่อมต้องตกเป็นของนางอยู่ดี
"คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ได้ยินว่าคุณชายใหญ่จะกลับจวนวันมะรืนนี้"
หนิงเซียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด นางเพียงพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อรู้ว่า หนิงอวี้หรง พี่ชายของนางจะกลับจวน
หนิงอวี้หรงเป็นบุตรชายคนเดียวของตระกูล เขาเป็นบุตรชายที่เกิดจากอดีตฮูหยินคนก่อน ซึ่งก็คือภรรยาเก่าของแม่ทัพใหญ่หนิง หนิงเซียนไม่ค่อยจะลงรอยกับพี่ชายต่างมารดาผู้นี้สักเท่าใดนัก เนื่องจากหนิงอวี้หรงมักจะชอบเข้าข้างแต่หนิงซือซือ
แต่ยามนี้หนิงซือซือตายจากโลกนี้ไปแล้ว นางก็จะได้ไม่ถูกแย่งความรักความสำคัญไปอีก
"พี่ชายใหญ่กลับมาก็ดีเหมือนกัน ข้าจะรอดูสีหน้าพี่ชายใหญ่ ว่าถ้ารู้เรื่องที่หนิงซือซือตายอยู่ในป่า ใบหน้าของเขาจะไม่น่าดูเพียงใด หึ!!!"
หนิงเซียนส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะหยิบปิ่นปักผมหรูหราอันหนึ่งส่งให้สาวใช้นำไปปักบนผมของนาง ยามนี้นางจะออกไปดูเครื่องประดับเสียหน่อย ได้ยินว่าร้านเครื่องประดับหงชุย มีสินค้ามาใหม่
เมื่อแต่งกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว หนิงเซียนก็นั่งรถม้ามุ่งหน้าตรงไปที่ร้านเครื่องประดับหงชุยในทันที
เมื่อนางมาถึงก็เลือกเครื่องประดับราคาแพงหลายอย่างส่งให้เถ้าแก่ร้านห่อใส่กล่องเพื่อนำกลับจวน ทุกการเคลื่อนไหวทุกการกระทำของนาง สร้างความริษยาและชื่นชมในหมู่สตรีไม่น้อย บ้างก็ชื่นชมนางว่ามีบารมีงดงาม สมกับตำแหน่งว่าที่ไท่จื่อเฟยชายาขององค์รัชทายาท
บ้างก็ริษยาในวาสนาของนาง ที่เกิดมาในตระกูลที่สูงศักดิ์ อีกทั้งยังเก่งเรื่องการเรียนเขียนอ่าน เป็นแบบอย่างให้แก่สตรีไท่เหลียงอย่างมาก หากให้เอ่ยถึงสตรีที่งามพร้อมสรรพ ย่อมต้องมีชื่อของนาง หนิงเซียนเป็นคนแรก
ท่ามกลางสายตาชื่นชม ยังมีสายตาคู่หนึ่ง ที่เฝ้ามองนางด้วยความเกลียดชัง ปะปนไปกับความคั่งแค้นภายในจิตใจ
หนิงเซียน!!! สักวันข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!!! ตอบแทนความจอมปลอมเสแสร้งที่เจ้าเคยตีสองหน้าเอาไว้กับข้า!!!