ความมืด… มืดสนิทจนทำให้เธอรู้สึกเหมือนกลายเป็นคนตาบอด
หัวใจของเธอยังคงเต้นเร็วขึ้น ขณะกล้ามเนื้อไหล่รู้สึกเจ็บปวดมากกว่าทุกส่วนของร่างกาย
แขนของเธอถูกล่ามโซ่ไว้กับผนังด้านหลัง แต่เพราะสองขาแทบไร้เรี่ยวแรงพยุงตัว อลิเซียน่าจึงทิ้งร่างนั่งลงกับพื้น ฉะนั้นคงไม่แปลกถ้าแขนทั้งสองจะต้องเหยียดจนสุดราวกับถูกดึงรั้งให้แยกออกจากร่างกาย และหัวเข่าของเธอก็ฟกช้ำจากการนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้นานเกินไป
ช่างเป็นเรื่องน่าตลกที่เธอคิดจะหลบหนี! อลิเซียน่าส่ายศีรษะพร้อมหัวเราะเบา ๆ ให้กับความโง่เขลาของตัวเอง ก่อนจะเปล่งเสียงครางดังออกมาเมื่อรู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ไหล่ของเธอถูกดึงอีกครั้ง
ทั่วทุกสรรพางค์กายสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด ...ความเจ็บปวดที่คิดว่าน่าจะเคยชิน ความเจ็บปวดที่ทำให้น้ำตาหลั่งไหลออกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
เธอรู้สึกเหมือนอยากหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกันซึ่งนั่นคงไม่ใช่เรื่องปกติ
เมื่อยามแจ้งกับบิลลี่ว่าเจออลิเซียน่าอยู่บนถนนติดกับป่าด้านหลัง เขาก็เข้าใจทุกอย่าง
ตอนนั้นเขากำลังจะประกาศเรื่องการหมั้นหมายระหว่างลูกสาวกับแดนนี่ในงานปาร์ตี้ แต่เธอดันหลบหนี บิลลี่จึงต้องเลื่อนงานหมั้นออกไปก่อนเพื่อสั่งสอนเธอ
เช่นเคย แดนนี่เป็นคนไปพาเธอกลับมาด้วยใบหน้าปราศจากอารมณ์ใด ๆ
ตอนนี้เขาคงจะเกลียดเธอมากยิ่งขึ้น?
บิลลี่ไปไหน? นั่นคือสิ่งที่อลิเซียน่าสงสัย เพราะเธอยังไม่เห็นหน้าเขาเลยตั้งแต่กลับมา มีแค่แดนนี่ที่เป็นคนพาเธอตรงมายังชั้นใต้ดิน และล่ามโซ่เธอไว้ในห้องมืด
อลิเซียน่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอทำไม่ได้
เขาทิ้งเธอไว้ หญิงสาวถูกขังอยู่ในความมืดมาเนิ่นนานจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่เธอรู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะถูกปล่อยออกไปจากที่นี่ นั่นคือวันที่เธอสำนึกผิดและคุกเข่าขอร้องบิลลี่ มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา
เธอพยายามทบทวนถึงสาเหตุแห่งความล้มเหลวของแผนการหลบหนีในครั้งนี้ ใครกันที่เป็นตัวการ ใครกันที่ฆ่ายามเพื่อขัดขวางเธอ
ต้องเป็นซีโม่แน่! เธอเกลียดเขา และถ้าเธอสามารถฆ่าเขาได้ เขาจะเป็นคนเดียวที่เธอต้องการฆ่าในชีวิตนี้
หัวใจของหญิงสาวเริ่มดำมืดจากความเจ็บปวดก่อนจะหมดสติไป
เมื่ออลิเซียน่าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนสมองกำลังถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน เบื้องหน้าคือแสงไฟสว่างจ้าซึ่งคล้ายกำลังสาดแทงทำร้ายเธอ กล้ามเนื้อในร่างกายทุกตารางนิ้วราวกับส่งเสียงร้องเพราะความเจ็บปวด หญิงสาวพยายามที่จะขยับตัวแต่เธอทำไม่ได้
เธอบังคับให้ดวงตาเปิดออกพลางมองลงไปที่พื้นแล้วหายใจเข้า จิตใจหนักอึ้งขณะเดียวกันก็พร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ วินาทีต่อมาอลิเซียน่าสังเกตเห็นว่าตนเองไม่ได้ถูกผูกติดกับกำแพงอีกต่อไป
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ ตอนนี้เธอถูกผูกติดอยู่กับเก้าอี้แทน นรก! ชีวิตช่างน่าขันและแสนโหดร้าย
“มีเรื่องอะไรตลกมากงั้นเหรอลูกสาว” เสียงของบิลลี่ดังขึ้นในห้องส่งผลให้อลิเซียน่าหยุดหัวเราะทันที
เธอเงยหน้าขึ้นมองไปยังบิลลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยมีแดนนี่ยืนอยู่ข้างหลัง บิลลี่สวมชุดสูทเหมือนปกติ แต่เนกไทของเขาหายไป บนใบหน้าดูจริงจังมาก การปรากฏตัวของเขาก็หมายถึงเวลาแห่งความทรมานของเธอ หญิงสาวจึงส่ายศีรษะพร้อมยกยิ้มบางโดยไม่รู้ตัว
“มันคือ...” อลิเซียน่าพยายามจะพูดและหันไปจ้องมองบิลลี่ที่ดูเย็นชาเหมือนเคย
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด” เธอเอ่ยเสียงเบา ดวงตาเริ่มแสบร้อน เอ่อนองเต็มไปด้วยน้ำตา
บิลลี่จ้องมองใบหน้าลูกสาว เธอดูอ่อนแอเสมือนว่ากำลังจะแหลกสลายซึ่งเขารู้ดีว่าทำไม
“ทำไมแกถึงคิดหนีอีก” บิลลี่ถามคำถามเดิม
เขายังต้องการเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องการหลบหนีไปจากที่นี่
“คุณมักจะถามคำถามนี้กับฉัน และคำตอบที่ฉันมักจะบอกกับคุณคือฉันไม่อยากอยู่ที่นี่” เธอเอ่ยเบา ๆ ด้วยรู้ว่าพ่อไม่เคยคิดจะตั้งใจฟังคำตอบของเธอเลย
“แกโกหกฉัน แกพยายามหลบหนีและต่อต้านการตัดสินใจของฉัน ในฐานะแด๊ดของแกและเป็นผู้นำ แกมีอะไรจะพูดไหม” บิลลี่ลูบคางขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยน้ำตานองหน้า
เขาไม่สนใจคำตอบของเธอเช่นเคย
“ฉันเกลียดคุณ!” เธอตะโกน
“แกอยากขอโทษฉันตอนนี้หรือในภายหลัง” บิลลี่กลับพูดไปอีกเรื่องพร้อมส่งสัญญาณให้แดนนี่ซึ่งกำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า จากนั้นจึงเดินไปที่โต๊ะข้างหลังที่ซึ่งอลิเซียน่ารู้ว่าเครื่องมือทั้งหมดถูกวางไว้ที่นั่น
เธอก้มหัวต่ำอย่างยอมแพ้ เธอควรขอโทษเขาแต่ด้านที่มีเหตุผลกลับต่อต้านว่าตนเองไม่ผิด ราวกับเป็นความดื้อรั้นชอบที่จะถูกทรมาน แม้สุดท้ายเธอจะต้องคุกเข่าให้กับความพ่ายแพ้เหมือนเดิม
บางทีเธออาจจะแค่อยากทดสอบขีดจำกัดของตัวเอง
“…” ฉะนั้นเท่ากับว่าความเงียบของเธอคือคำตอบให้กับบิลลี่
“สั่งสอนเธอให้หลาบจำ” บิลลี่สั่งแดนนี่
แดนนี่ปรากฏตัวกลับมาพร้อมกับมีดคมกริบเล่มเล็กในมือ ตัวด้ามมีสัญลักษณ์เป็นรูปงู เพราะงูเป็นตัวแทนของครอบครัวบรูโน
แดนนี่หยุดอยู่ข้างหน้า ลำตัวของเขาขนานกับใบหน้าของเธอ อลิเซียน่าเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความพ่ายแพ้ในดวงตา ใจของเธอกรีดร้องให้ตัวเองคุกเข่าลง ร้องขอการให้อภัยจากบิลลี่ เพราะแดนนี่ดูเจ็บปวดจากการที่ต้องเป็นคนทรมานเธอ
ขณะที่อีกใจหนึ่งก็คล้ายจะยอมรับชะตากรรม เธอก้มศีรษะลงต่ำ ‘ปล่อยให้พวกเขาทดสอบความอดทนของฉัน ว่าฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว’ จิตใต้สำนึกกระซิบก่อนเธอจะหลับตาลง
หญิงสาวรู้สึกได้ว่าแดนนี่นั่งอยู่ข้างหน้า รู้สึกได้ว่ามือของเขาวางไว้ที่หัวเข่าด้วยท่าทีเหมือนขอให้เธอลืมตาขึ้นมา
เธอบังคับตัวเองให้ลืมตามองใบหน้าไร้อารมณ์ของเขา
เขาถือมีดที่จะทำให้เลือดของเธอไหล และทำให้เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
แดนนี่วางมีดไว้ใต้แขนเสื้อของเธอแล้วตัดมันออกจากข้อศอก การกระทำเชื่องช้าทำให้หัวใจของอลิเซียน่าเต้นแรง เหงื่อผุดซึมก่อนไหลลงไปตามกรอบหน้า ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่กระนั้นเธอก็ยังดื้อรั้นเกินไปที่จะเอ่ยคำขอโทษด้วยคิดเสมอว่าตัวเองไม่ผิด
เขาใช้มีดกรีดผิวใต้แขนของหญิงสาวในแนวนอนอย่างเชี่ยวชาญขณะมองสบตาเธอ ดวงตาของเขาสื่ออารมณ์บางอย่างแต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว
เขาออกแรงกดจนมีดเจาะเข้าไปในผิวหนังชั้นแรก ก่อนหยุดชะงักยามได้ยินอลิเซียน่ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เธอรู้สึกแสบร้อนเหมือนผิวกำลังไหม้เมื่อเห็นเลือดไหลลงมาอาบปลายมีด หญิงสาวเริ่มร้องไห้เบา ๆ แต่ทีท่าคล้ายยังไม่ยอมแพ้ แดนนี่หลุบตามองปลายแหลมคมของมีด จากนั้นออกแรงลากช้า ๆ ให้อีกฝ่ายค่อย ๆ ทรมาน