เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังก้องในห้องที่เงียบสนิท เธอไม่ได้เหลือบสายตามองบาดแผลที่น่ากลัว อลิเซียน่าได้แต่ร้องไห้ขณะที่เลือดสีแดงไหลอาบลงมาตามแขน ย้อมอาวุธคมกริบกับมือของแดนนี่ให้เป็นสีแดงฉาน
“ยอมแพ้เถอะเซียน่า” แดนนี่กระซิบ น้ำเสียงของเขาคล้ายแฝงด้วยความเจ็บปวด เพียงแต่อลิเซียน่ารู้สึกมึนเบลอไปหมด อาจเพราะต้องเสียเลือดจำนวนมากหรืออาจเพราะความกดดันหวาดกลัว จังหวะนั้นลมหายใจของเธอเหมือนจะสะดุด และรู้สึกเหมือนกำลังจะพ่ายแพ้อีกครั้ง
เขาย้ายคมมีดไปที่แขนอีกข้างหนึ่งเพื่อทำแบบเดียวกัน ความเจ็บปวดที่รับรู้กำลังเผาผลาญวิญญาณและร่างกายของเธอ ทำให้เธอกรีดร้องออกมาสุดเสียง จนกระทั่งคอแหบแห้ง
การทรมานนี้มันจะไม่ทิ้งรอยไว้ให้เห็นด้วยตาเช่นเดียวกับที่ลูก้าเคยพูด ‘รอยมีดจาง ๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถรู้สึกได้เมื่อสัมผัส’
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างที่เคยเป็น
หลังจากเกือบตายเนื่องจากความเจ็บปวดที่ทนไม่ได้ อลิเซียน่าก็ยอมแพ้ในที่สุด แดนนี่จึงละมือ วางมีดลงก่อนถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเธอ เขาก้าวถอยห่างจากอลิเซียน่า ส่วนเธอพยายามลุกขึ้นแต่ก็ล้มพับลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
หัวของเธอกำลังพร่าเบลอ ลำคอรู้สึกเหมือนอยู่ในกองไฟ แขนขาวเนียนอาบย้อมด้วยเลือดสีแดง ความเจ็บปวดทำให้เธอตัวสั่นเทา
แดนนี่ก้มลงอุ้มเธอขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เลือดของเธอยังไหลไม่หยุดทำให้เสื้อผ้าของเขาเปียกไปด้วย ดวงตาคู่สวยแทบปิดสนิท แต่มันจำเป็นที่เธอจะต้องเอ่ยขอโทษบิลลี่ก่อนที่เธอจะสลบ เพราะบิลลี่จะไม่หยุดการทรมานจนกว่าเธอจะคุกเข่าขอโทษเขา
ตอนนี้อลิเซียน่าดูอ่อนแออย่างที่สุด มิหนำซ้ำกลิ่นคาวเลือดยังทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้ แดนนี่ก้มลงมองดวงตาของหญิงสาวซึ่งปิดลงอีกครั้งด้วยหัวใจที่เจ็บปวดแม้เขาจะเป็นคนลงมือกับเธอด้วยตัวเองก็ตาม
แดนนี่คุ้นเคยกับความเจ็บปวดแบบนี้ เขาสามารถทนมันได้ แต่ไม่ใช่สำหรับอลิเซียน่า เธอเป็นผู้หญิงที่บอบบางและไร้เดียงสาไม่เหมือนเขา
ชายหนุ่มจึงเลื่อนสายตามองไปทางอื่นเพราะไม่สามารถทนเห็นอลิเซียน่าในสภาพนี้ได้ เขารีบอุ้มเธอไปที่ห้องทำงานของบิลลี่
ยามและบอดีการ์ดทุกคนต่างมองดูร่างกายอ่อนปวกเปียกของลูกสาวคนโตของผู้นำตระกูล ซึ่งชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสดและไหลมาตามทางเดิน ไม่มีใครกล้าแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา ยกเว้นแอนนาที่ยืนยิ้มเยาะเย้ยอยู่ที่บันได ขณะที่แอนเธียขมวดคิ้วเมื่อเห็นแดนนี่เป็นคนพาอลิเซียน่ามา
ไม่มีใครกล้าขยับตัว ยกเว้นแม่บ้านที่รีบมาเช็ดเลือดออกจากพื้น เพราะบิลลี่ไม่ชอบพื้นบ้านที่สกปรก
อลิเซียน่าปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย ประจวบเหมาะกับได้เห็นเหล่าแม่บ้านเร่งรีบทำความสะอาด เธอจึงหัวเราะออกมาเบา ๆ โดยไม่รู้ตัว นั่นเรียกความสนใจจากแดนนี่ได้เป็นอย่างดี
“ชีวิตช่างตลกเหลือเกินแดนนี่” เธอกระซิบด้วยเสียงอ่อนล้าที่ข้างหู ทำให้เขาต้องมองไปทางอื่น
เธอแตกสลายตั้งแต่เริ่มต้นและเขารู้เพราะเขามีบทบาทสำคัญในการทำลายเธอ
อารมณ์ขันและการพูดถากถางคือการซุกซ่อนตัวตนจริง ๆ ของเธอ สิ่งที่เธอตั้งใจจะพูดคือชีวิตโหดร้ายมาก
เมื่อเขามาถึงห้องทำงานของบิลลี่ เขาก็เหลือบมองเธออีกครั้งแล้วมองกลับไปยังแม่บ้านที่กำลังรีบทำความสะอาดรอยเลือดบนพื้นตามทาง
“เคาะประตู!” เขาสั่งสาวใช้คนหนึ่ง เธอก็รีบเดินไปที่ประตูก่อนจะเคาะมันสองครั้ง รอสักพักเขาจึงส่งสัญญาณให้แม่บ้านเปิดประตู
ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องทำงานของบิลลี่ยกเว้นหัวหน้าระดับสูง
แดนนี่เดินเข้าไปข้างใน แต่จังหวะหนึ่งก็หยุดเท้าพร้อมกับขมวดคิ้ว เขาเงยหน้าขึ้นมองบิลลี่ ฝ่ายอลิเซียน่ายังไม่สามารถรับรู้ได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เธอเจ็บปวดมากเกินกว่าจะให้ความสนใจกับสิ่งอื่นรอบตัว ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้มากกว่าเดิมขณะเธอหลับตาเพื่อเตรียมตัวสำหรับความอัปยศอดสูอีกครั้ง
“เธอยอมรับผิดแล้ว และต้องการที่จะขอโทษ” แดนนี่เอ่ยเสียงเครียด บิลลี่จึงเหลือบมองเลือดสีแดงที่ไหลลงมาตามแขนของหญิงสาว มันหยดลงบนเสื้อผ้าของแดนนี่ก่อนร่วงลงสู่พื้น
“ดีมาก!” บิลลี่พยักหน้าด้วยท่าทางสบายตามปกติ เขาดูสงบเมื่อเห็นสภาพของอลิเซียน่า แม้ใบหน้าของเธอจะซีดเซียวเพราะเสียเลือดมาก จนดูเหมือนกำลังจะตายก็ตาม
ฝั่งอลิเซียน่า เธอลืมตาขึ้นหลังได้ยินประโยคนั้น พลางมองตรงไปที่เขา แดนนี่จึงค่อย ๆ วางเธอลงแต่เขายังจับเอวเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอล้ม
หญิงสาวกลับมาเผชิญหน้ากับแด๊ดด้วยท่าทางอ่อนแอกับดวงตาบวมแดง ลมหายใจเริ่มสั่นอีกครั้งยามมองเห็นลูก้าอยู่ในห้องนี้ด้วย ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ตอนนี้ แค่นี้เธอยังอับอายไม่พอเหรอ?
เธอไม่สามารถแปลความหมายจากแววตาของชายหนุ่มได้ ผ่านไปสักพักอลิเซียน่าถึงพบว่าตัวเองกำลังจ้องมองเขาอยู่และเกือบลืมทุกอย่างไปแล้ว
เธอกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ละสายตาออกจากร่างลูก้า จากนั้นดันตัวแดนนี่ออกไปโดยพยายามอย่างที่สุดที่จะประคองสติและร่างกายไม่ให้ล้มลง เธอเงยหน้าขึ้นมองบิลลี่ซึ่งเขาก็กำลังมองดูเธอเช่นกัน
ทำไมบิลลี่จะต้องใส่ใจว่าเธอจะอยู่ในสภาพโหดร้ายแค่ไหน เขาเป็นคนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ น้ำตาของเธอไหลออกมาขณะที่ริมฝีปากสั่นเทาโดยพยายามจะกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหล
หัวใจของเธอหนักอึ้ง หญิงสาวปฏิเสธที่จะสนใจลูก้า ทั้งหมดนี้มันน่าอายมาก และมันคือความอัปยศของเธอ
“ฉันกำลังรออยู่เลย อลิเซียน่า!” เสียงเย็นชาของบิลลี่ดังขึ้นมา ตอนนี้เขาต้องการให้เธอขอโทษเขาต่อหน้าลูก้า เธอพยายามคุกเข่าลงแต่เพราะเธอกำลังอ่อนแรงและอ่อนแอมาก ทำให้เธอล้มฟุบลงไปกับพื้น
หญิงสาวครางออกมาด้วยความเจ็บปวด พลางเหลือบมองแขนที่ยังมีเลือดไหล อลิเซียน่าเกลียดชังทุกคนที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพที่น่าอดสู
เธอรู้ว่าลูก้าคงเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านี้ ครั้นเงยหน้าขึ้นมองไปที่บิลลี่ เสียงหนึ่งในใจก็ร้องตะโกนว่า เขาไม่ใช่แด๊ดของเธอ คนตรงหน้าไม่ใช่มนุษย์
“ฉัน… ฉันขอโทษที่ไม่เชื่อฟังคุณ” เธอพูดออกมาเบา ๆ เสียงนั้นเบามากไม่ต่างจากเสียงกระซิบ แต่พวกเขาทั้งหมดสามารถได้ยินเธอได้อย่างชัดเจน
เธอรู้สึกอับอาย แต่ดูเหมือนว่าบิลลี่จะพอใจมาก นั่นหมายความว่าเธอได้รับการให้อภัยแล้ว
“ฉันยกโทษให้!” บิลลี่โบกมือ ท่าทีที่แสดงออกราวกับว่าเขาเป็นราชาและเธอเป็นแค่ชาวนา
“พาเธอไปรักษา” บิลลี่สั่ง
“ครับบอส” แดนนี่ตอบรับชัดเจนและให้ความเคารพเช่นเคย
อลิเซียน่าบังคับให้ตัวเองลุกขึ้นก่อนที่แดนนี่จะเข้ามาช่วยประคอง ด้วยกลัวว่ามันจะทำให้เธอดูน่าสมเพชมากขึ้น ถึงกระนั้นเธอกลับสะดุดครั้งหนึ่งเพราะสมองเริ่มมึนงง
ช่วงเวลาต่อมาหญิงสาวก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองกระแทกลงพื้นอย่างแรง ดวงตาเธอยังคงจ้องมองลูก้า และสิ่งสุดท้ายที่เธอเห็น คือดวงตาสีฟ้าของเขาซึ่งจ้องมองเธออย่างว่างเปล่า
เขาห่วงใยเธอไหม? เขาเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่นี่หรือเปล่า?
เขาเป็นปีศาจ! เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ?
แต่ทำไมฉันถึงต้องสนใจเขาด้วย?
ทำไมการจ้องมองด้วยสายตาว่างเปล่าของเขาถึงทำให้เธอเจ็บมากกว่าบาดแผลบนร่างกาย?
……