อีกด้านหนึ่งที่กลางป่า มีสองร่างยืนอยู่ข้างต้นไม้กำลังมองไปในทิศทางของคฤหาสน์ซึ่งบิลลี่เป็นผู้ครอบครองอยู่ คนทั้งคู่ต่างสวมใส่เสื้อผ้าสีดำและสวมหน้ากาก
“เรามาทำอะไรที่นี่” ทานอสถามอย่างข้องใจ เจ้าตัวดึงหน้ากากลงก่อนส่งช็อกโกแลตเข้าปาก
พวกเขาได้แต่ยืนรออยู่ ณ ตำแหน่งนี้มานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ซึ่งมันทำให้เขาเริ่มจะหงุดหงิดกับการอยู่เฉย ๆ อย่างไร้จุดหมาย
“นายกำลังจะได้เห็น!” ซีโม่กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูมีความสุข โดยรอยยิ้มดังกล่าวถูกซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากาก
เมื่อเห็นใครบางคนกำลังวิ่งมา ทานอสก็ยืนตรงและดึงปืนออกมาถือ
“ชู่!” ซีโม่ดันปลายกระบอกปืนของอีกฝ่ายลงกับพื้น “เธอไม่ใช่ตัวอันตราย” เขาหัวเราะเบา ๆ ทานอสจึงรู้ทันทีว่าคนคนนั้นคืออลิเซียน่า นั่นส่งผลให้เขาถึงกับอ้าปากค้าง ทำตาโต
“เธอกำลังหนีอีกครั้งใช่ไหม!?” เขาหันไปหาซีโม่ที่กำลังจ้องมองตามการเคลื่อนไหวของอลิเซียน่า เธอสะดุดล้มหลายครั้งแต่กระนั้นก็ยังเคลื่อนไหวอย่างระแวดระวัง
“แน่นอน! เธอไม่เคยยอมแพ้ มันสนุกมากที่ได้เห็นความพยายามของเธอ!” ซีโม่ลูบใบหูขณะจับตามองอลิเซียน่าซึ่งท่าทางการเดินของหญิงสาวผิดจากปกติ เหมือนเธอจะบาดเจ็บ ภาพที่เห็นทำให้เขายิ้มกว้างมากกว่าเดิม
‘เธอกระโดดลงมาจากระเบียง? เธอโง่มากจริง ๆ’ ซีโม่คิด
“แล้วเรามาทำอะไรที่นี่” ทานอสหาว เมื่อไม่มีเรื่องตื่นเต้น ความเบื่อหน่ายย่อมเข้ามาแทนที่อย่างช่วยไม่ได้
อาจเพราะบรรยากาศในป่าเงียบเชียบเกินไปประกอบกับระยะระหว่างอลิเซียน่ากับพวกเขาทั้งสอง ห่างกันไม่ไกลนัก รวมทั้งทานอสไม่ได้จงใจลดเสียงพูดให้เบาลง หญิงสาวจึงได้ยินเสียงของเขา แม้ไม่ชัดเจนแต่นั่นมากพอที่จะทำให้เธอหยุดเท้าด้วยความระแวง ก่อนหันไปมองรอบ ๆ เพื่อสำรวจตรวจตราที่มาของเสียง แต่เนื่องจากรอบด้านค่อนข้างมืดมิด มีใบไม้ปกคลุมหนาแน่น บดบังแสงสว่างจากดวงจันทร์จนทำให้เธอมองเห็นทุกอย่างรอบตัวเป็นเพียงเงาตะคุ่ม ๆ อลิเซียน่าจึงได้แต่ละความสนใจจากนั้นก้าวเท้าไปเบื้องหน้าอีกครั้งเพราะมีเวลาแค่สามสิบนาทีในการออกไปจากที่นี่ แม้เธอจะเจ็บข้อเท้ามากแต่ก็ทำได้แค่ทิ้งน้ำหนักตัวไปทางขาอีกข้างที่ยังปกติดี
ทางฝั่งซีโม่กับทานอส ชายหนุ่มเป็นเจ้านายหันไปจ้องมองลูกน้องเขม็งข้อหาที่เกือบจะทำให้แผนของเขาล้มเหลว
“นายต้องได้รับโทษ สามสิบนาทีในการเป็นถุงกระสอบทรายให้ฉันเตะ” ซีโม่กระซิบเปล่งเสียงข่มขู่และหันกลับไปมองอลิเซียน่า
“คุณเป็นเจ้านายที่ไม่ยุติธรรม” ทานอสโอดครวญด้วยเสียงเบาไม่แพ้กัน
“เพิ่มเป็นหนึ่งชั่วโมง!” ซีโม่พูด สายตาจับจ้องมองยังร่างของหญิงสาวซึ่งเดินกะเผลกไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดพัก พริบตาต่อมาก็เห็นเธอเดินชนกับต้นไม้ด้านหน้า
เธอบ้าหรืออย่างไร? ซีโม่อุทานในใจพลางส่ายศีรษะ
“สามสิบนาทีดีกว่า...” ทานอสบ่นและเตรียมใจให้ตัวเองถูกเตะ
อลิเซียน่ายังคงเดินต่อไปก่อนลงเอยด้วยการชนต้นไม้อีกครั้ง ทำให้เธอเปล่งเสียงครางด้วยความเจ็บปวด พลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาถูศีรษะ รอบด้านมันมืดมากและสายตาของเธอก็ยังไม่ชินกับความมืดรอบตัวเสียที จังหวะนั้นหญิงสาวคล้ายได้ยินเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ดังแว่วมา ทว่ามองหาไปก็เท่านั้น มืดขนาดนี้เธอจะมองหาที่มาของเสียงเจอได้อย่างไร
หญิงสาวตัดสินใจละความคิดจากเสียงนั่นก่อนขยับฝีเท้าให้เร็วมากขึ้น
ซีโม่ผละออกจากต้นไม้ที่เขาพิงอยู่พร้อมส่งสัญญาณให้ทานอสเดินตามโดยห้ามทำเสียงใด ๆ พวกเขาทั้งคู่เดินตามหญิงสาวไปห่าง ๆ
อลิเซียน่าเดินต่อไปเรื่อย ๆ กระทั่งมองเห็นถนนอีกด้าน เธอเห็นยามยืนอยู่ใต้แสงไฟที่ปลายถนนฟากหนึ่ง ด้วยระยะทางที่ผ่านมาในที่สุดสายตาของอลิเซียน่าก็ชินกับความมืดเสียที เธอหาที่ซ่อนตัวด้านหลังต้นไม้จากนั้นล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูเวลา เหลืออีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาเปลี่ยนกะ เธอจึงนั่งรอให้ยามเหล่านั้นเดินกลับไปเปลี่ยนกะกับยามคนอื่น ๆ
เธอวางแผนที่จะไปตามถนนอีกสายแล้วมุ่งตรงไปเมืองอื่น เธอจับจ้องไปยังยามที่เริ่มเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยไม่รู้ตัวว่ามีดวงตาสองคู่กำลังเฝ้าดูเธอจากความมืด
“เราจะปล่อยเธอไปไหม” ทานอสกระซิบถามซีโม่ เขาเห็นอลิเซียน่าลุกขึ้นและเดินไปที่ถนนอย่างรีบเร่ง
“แน่นอนว่าไม่!” ซีโม่หยิบปืนออกมาก่อนถอดเครื่องเก็บเสียงออก ชายหนุ่มเล็งปืนไปทางอลิเซียน่า รอจนกระทั่งเธอเดินไปถึงกลางถนน
“มันสนุกมากที่เห็นเธอพยายามที่จะได้ลิ้มรสชาติของอิสรภาพและชัยชนะ...” เขาหันไปหาทานอส ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายสามารถเดาได้เช่นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
“ฉันอยากทำให้เธอตระหนักว่า เธอจะไม่สามารถวิ่งหนีหรือซ่อนตัวจากฉันได้” ซีโม่หันไปหาอลิเซียน่าที่อยู่กลางถนน มียามอยู่ไม่ไกลจากอลิเซียน่ามากนัก ซีโม่จึงเปลี่ยนเป้าหมายด้วยการเหนี่ยวไกยิงยามคนนั้น
เสียงของปืนดังขึ้นจากในป่าทำให้อลิเซียน่ากรีดร้องออกมาและล้มลง เธอใช้มือกุมศีรษะพลางพยายามก้มตัวให้ต่ำเข้าไว้ ขณะที่ร่างของยามคนนั้นล้มลงเช่นกัน ส่งผลให้ยามทุกคนในบริเวณใกล้เคียงรีบวิ่งมาทางจุดเกิดเหตุ พวกเขาจึงเห็นร่างหนึ่งนั่งอยู่กลางถนน และต่างพร้อมใจพากันเล็งปืนไปทางตำแหน่งนั้น
อลิเซียน่ารู้สึกตกใจมาก นาทีถัดมาก็รู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวทำได้แค่สบถออกมา เนื่องด้วยรู้ว่าเธอจะโดนลงโทษอย่างไรขณะมองกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งทำหน้าที่เฝ้ายามเดินเข้ามาใกล้
เมื่อพวกเขาเห็นหน้าเธอ แต่ละคนก็อ้าปากค้าง
“ลดปืนของพวกนายลง!” หนึ่งในนั้นหันกลับไปสั่งคนอื่น ทั้งหมดจึงลดปืนลง จากนั้นชายคนเดิมก็หันกลับมาหาอลิเซียน่า
ฟากฝ่ายซีโม่และทานอสก็เดินจากไปก่อนที่จะมีคนสังเกตเห็น บอดีการ์ดและยามประจำคฤหาสน์บรูโนคงเริ่มดำเนินการค้นหาคนร้ายในป่าเร็ว ๆ นี้
ซีโม่มองย้อนกลับไปพลางยกยิ้มเยาะ บิลลี่ต้องไม่มีความสุขมากแน่ ๆ ถ้ารู้เรื่องนี้ และจะต้องเสียใจในไม่ช้า