บทที่ 3-2 แผนการปั่นป่วน

1265 คำ
เย่หลีวันนี้นางแต่งกายงดงามเด่นสะดุดตาเป็นอันมาก ฟ่านเฉินเหมือนถูกนางดึงดูดจนละสายตาไม่ได้ เมื่อนางก้าวเข้ามาในงานบุรุษทุกคนล้วนมองนางอย่างไม่ละสายตา ไม่รู้เพราะเหตุใดเขาจึงรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นบุรุษเหล่านั้นจ้องมองนาง เย่หลีมองไปโดยรอบก่อนที่ดวงตาคู่งามจะหยุดอยู่บนร่างของเขา นางหันมาสบตากับเขาคราหนึ่ง ฟ่านเฉินยกจิกสุราขึ้นดื่มก่อนจะเลิกคิ้วมองนางตอบเช่นเดียวกัน คนทั้งสองสบประสานสายตากัน ก่อนที่นางจะแยกไปอีกทางเพื่อพบกับฟ่านหลิ่น งานเลี้ยงดำเนินไปเรื่อยๆ ยิ่งยามค่ำก็ยิ่งคึกคัก วันนี้ฟ่านหลิ่นสั่งให้คนพาคณะนางรำเลื่องชื่อจากหอสุราเซียนเมามายมาแสดงถึงในจวนคังอ๋อง เย่หลีเพียงเมียงมองอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะมองไปที่ท่านพ่อและเย่จิ้นอันที่ยามนี้กำลังสนทนากับสหายและดื่มสุราไปไม่น้อย นางหันมามองมารดาตนที่นั่งอยู่ข้างกาย พลางกระซิบกับมารดาว่า "ท่านแม่ ข้าปวดเบายิ่งนักเจ้าค่ะ ข้าอดกลั้นจวนจะไม่ไหวแล้ว ไม่เช่นนั้นจะขายหน้าเอาได้" เย่ฮูหยินเมื่อได้ยินก็กังวลไม่น้อย จวนอ๋องคนพลุกพล่านยิ่ง ทั้งไม่เคยมาจึงรีบสั่งความกับเถาเป่าทันที "เจ้าพาคุณหนูไปหาที่ปลดเบา ลองถามสาวใช้ในจวนคังอ๋องดูว่าห้องปลดทุกข์อยู่ที่ใด แล้วรีบกลับมาเล่า" “เจ้าค่ะนายหญิง" เย่หลีฉีกยิ้มให้มารดาแล้วบอกว่าเสร็จธุระจะรีบกลับมา เดินมาไม่นานก็พบกับสาวใช้ในจวนคังอ๋อง สาวใช้เมื่อได้ยินว่าเย่หลีต้องการปลดเบาก็รีบอาสานำทางไปในทันที ด้านฟ่านหลิ่นนั้นก็ได้รับจดหมายจากเย่หลิง นางบอกว่านางแอบตามท่านพ่อมาที่จวนของเขาเพราะอยากพบเขา ให้เขามาพบนางที่ศาลาริมสระน้ำด้านหลังจวนคังอ๋องได้หรือไม่ ฟ่านหลิ่นยิ้มเต็มใบหน้า ก่อนหน้านี้เขาแอบไปพบนางที่จวนตระกูลเย่ และบอกนางว่าที่ศาลาริมสระน้ำมีดอกมู่ตานเบ่งบานงดงามยิ่งนักไว้มีโอกาศเมื่อแต่งงานกันแล้วเขาจะพานางมาร่วมชื่นชม ไม่คิดว่านางจะใจร้อนถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบไปทันที ด้านเย่หลีเมื่อเดินมาไม่นาน ก็มีเงาสายหนึ่งพุ่งผ่านนางไปที่สาวใช้จวนอ๋องนั้นด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะลงมือตีนางจนสลบและลากไปไว้ในพุ่มไม้ด้านข้าง เมื่อเย่หลีหันไปมองก็พบว่าเป็นฟ่านเฉินนั่นเอง เถาเป่าตกใจคิดจะร้องเรียกให้คนช่วย แต่กลับถูกเย่หลียกมือฟาดเข้าที่แผ่นหลังจนนางสลบล้มลงไปนอนที่พื้นหญ้าอีกคน เย่หลีหันไปสบตากับฟ่านเฉิน ก่อนจะมองซ้ายมองขวาและเอ่ยกับเขาว่า "ท่านมาได้อย่างไรกัน ไหนบอกว่าจะทำตามแผน ให้ข้าหาทางไปที่เรือนเล็กท้ายจวนอ๋องอย่างไรเล่า" ฟ่านเฉินเองก็มองไปโดยรอบอย่างระแวดระวังเช่นเดียวกัน ก่อนจะเดินเข้ามาดึงแขนของเย่หลีให้ตามเขาไปอีกทาง เย่หลีคิดจะสะบัดมือออกแต่นางสู้แรงเขาไม่ไหว ฟ่านเฉินพานางมาที่เรือนหลังเล็ก ก่อนจะปิดประตู เย่หลีมองเขาอย่างระแวดระวัง รีบร้อนถามขึ้นว่า "ไหนบอกมาสิ ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ เหตุใดไม่ทำตามแผน ท่านบอกว่าจะพาฟ่านหลิ่นมาหาข้ามิใช่หรือ จากนั้นให้ข้าใช้ผงยาปลุกกำหนัดกับเขา แล้วท่านจะไปพาคนมาพบเจอข้ากับเขาสองคนอยู่ด้วยกัน" ฟ่านเฉินมองเย่หลี แล้วกล่าวว่า "เปลี่ยนแผน แผนก่อนหน้าค่อนข้างไม่ปลอดภัยแล้ว เพราะมีคนมากเกินไป ย่อมเป็นที่ผิดสังเกต" "แล้วจะทำเช่นไร" "ข้าจะให้เจ้าไปพบเขาที่ศาลาริมน้ำ แกล้งสวมรอยเป็นเย่หลิง จากนั้นเจ้าก็ใช้ผงยาปลุกกำหนัดสาดใส่ใบหน้าของเขา เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว การจัดฉากที่นี่ดูจงใจเกินไป ฟ่านหลิ่นไม่ใช่คนโง่เขาอาจไม่หลงกลโดยง่าย ข้านัดเขาไปที่ศาลาริมสระน้ำแล้ว เจ้าก็รีบไปเถิด" ฟ่านเฉินบอกเล่าแผนการใหม่ให้เย่หลีฟัง แผนนี้เสด็จแม่เป็นคนออกอุบายให้เขา นางบอกว่าต้องทำให้เหมือนดูไม่เป็นการจงใจ อีกทั้งหากฟ่านหลิ่นขัดขืนด้วยสภาพของเขาที่ถูกวางยาปลุกกำหนัดย่อมไม่อาจทนไหวและอาจจะฉุดรั้งกับเย่หลีจนพากันตกสระน้ำไปเอง เมื่อสถาณการณ์เป็นเช่นนี้ไปแล้วอย่างไรย่อมไม่อาจปฏิเสธการแต่งงานได้ เย่หลีมองฟ่านเฉินด้วยแววตาที่ล้ำลึก แล้วกล่าวว่า "ท่านนี่ช่างฉลาดในการวางแผนได้ดีจริงเชียว ถึงกับปลอมลายมือของเย่หลิงได้เหมือนจนฟ่านหลิ่นเชื่อ" "ข้าย่อมต้องมีแผนสำรองอยู่แล้ว เจ้ารีบไป ยามนี้ฟ่านหลิ่นคงไปถึงศาลาริมสระน้ำแล้ว" "ได้" เย่หลีพยักหน้า ทว่านางยังไม่ทันจะได้ก้าวออกจากห้องก็ได้กลิ่นแปลกๆภายในห้อง หญิงสาวย่นคิ้ว ก่อนจะหันมาพูดกับฟ่านเฉิน "องค์ชายรอง ท่านได้กลิ่นแปลกๆหรือไม่ กลิ่นเหมือนกำยาน แต่มันหอมแปลกๆ" ฟ่านเฉินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทางตื่นตระหนก ชายหนุ่มสอดส่ายสายตามองหาต้นตอของกลิ่นกำยานนั้น ก่อนจะพบกับกำยานที่ถูกจุดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อใดไม่อาจรู้ได้ ดูเหมือนแรกเริ่มที่เข้ามากลิ่นจะยังไม่แรงเท่าใดนัก แต่ตอนนี้กลิ่นกลับเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แย่แล้ว! "เย่หลี เจ้ารีบออกไป!" "อืม โอ๊ย!" อยู่เย่หลีก็เวียนศีรษะร่างกายซวนเซทรงตัวไม่อยู่ เพราะได้กลิ่นกำยานนั่นนางจึงรู้สึกว่าสมองมึนงง ยิ่งได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของฟ่านเฉินนางกลับยิ่งรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งสรรพางค์กายอย่างไม่อาจควบคุม ด้านฟ่านเฉินเองก็ไม่ต่างกัน เขารู้สึกว่าเริ่มจะควบคุมตนเองไม่ได้ ยิ่งอยู่ใกล้และแนบชิดกับเย่หลีเช่นนี้เขาก็เริ่มร้อนไปทั่วทั้งร่างกาย ชายหนุ่มสบถออกมา นี่เขาหลงกลหรือ ใครกันที่ซ้อนแผนของเขา! หรือว่าฟ่านหลิ่นรู้ตัวแล้วซ้อนแผนจัดการเขา! คนทั้งสองคิดจะผละออกจากกัน แต่กลับทำไม่ได้ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ อาการของคนทั้งสองก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ เย่หลีควบคุมตนเองไม่อยู่แล้ว นางโผเข้าไปจูบฟ่านเฉินอย่างเร่าร้อน ฟ่านเฉินเองเมื่อถูกนางรุกล้ำเช่นนี้สติก็ขาดสะบั้น คนทั้งสองโผเข้าหากันอย่างหื่นกระหาย ไฟแห่งความปราถนาลุกโชติช่วงไม่อาจสะกดกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป เขาและนางมีความสัมพันธ์กันครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม