1 ความเดิมกับความอ่อนแอ
1
ความเดิมกับความอ่อนแอ
เมื่อ 5 ปีก่อน
พริมา ‘พริ้ม’ ในวัย 18 ปี เธอกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1 เธอกำลังนั่งตัวสั่นเทาด้วยความกลัวเมื่อ กนกอร ‘อร’ แม่ของแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของเธอที่เธอคบหามาได้ 2 ปี นัดเธอมาคุยบางเรื่องที่เธอไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอเพราะเธอเคยเห็นในละครแต่วันนี้มันคือความจริงในชีวิตของเธอ
“เธอรู้ใช่มั้ยว่าเธอไม่คู่ควรกับลูกชายของฉัน ลูกของคนจนๆ อย่างเธออย่าหวังที่จะได้เป็นลูกสะใภ้ของฉัน ลูกชายของฉันต้องได้กับคนที่ฐานะเดียวกัน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ได้เห็นเธอมายุ่งกับลูกชายของฉันอีก” กนกอรพูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองหน้าของเธอที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าไม่กล้าแม้จะสบตาของกนกอร
“แต่หนูรักพี่เหนือนะคะ” พริมาพูดเสียงสั่นเทาทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้าของเธอ
“ความรักเน่าๆ จนๆ ของเธออย่านำมันมาใช้กับลูกชายของฉัน” กนกอรพูดพร้อมกับโยนเงินก้อนหนึ่งใส่หน้าของเธอ
“คนอย่างเธอคงคิดอยากจับลูกชายของฉันเพราะเงินสินะ นี่ไงเงินเอาไปแล้วก็เลิกยุ่งกับลูกชายของฉันได้แล้ว”
“คุณแม่คะหนูไม่ได้หวังเกาะพี่เหนือหรอกนะคะ หนูรักพี่เหนือจริงๆ เราสองคนรักกันนะคะ” พริมายังคงพูดออกมาทั้งน้ำตาเพื่อแสดงความรักของเธอกับลูกชายของกนกอร
“ใครเป็นแม่ของแก อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ ฉันได้ยินมาว่าแม่ของแกทิ้งพ่อจนๆ ของแกไปตั้งแต่แกเกิดมาไม่ใช่หรือไง” กนกอรพูดแทงจี้ใจดำของเธอจนเธอต้องร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม
“น้ำตาของเธอไม่ได้ทำให้ฉันสงสารหรอกนะแต่ฉันสมเพชเธอที่วิ่งไล่ตามลูกชายของฉัน เงินก้อนนี้ก็ถือว่าเป็นเงินค่าที่เธอมานอนอ้าให้ลูกชายฉันก็แล้วกัน และอย่าให้ฉันรู้ว่าเธอยังยุ่งกับลูกชายของฉันไม่อย่างนั้นชีวิตของเธอจบไม่สวยแน่ๆ” กนกอรพูดแล้วก็เดินนวยนาดออกไปทิ้งให้เธอนั่งน้ำตาไหลอยู่อย่างนั้นด้วยความเสียใจ
บ้านของพริมา
ครืด!!! ครืด!!! ครืด!!! มือถือของพริมาสั่นครืดๆ อยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนของเธอ มือถือของเธอสั่นอยู่อย่างนี้นานมากๆ เกือบชั่วโมงจนหน้าจอมือถือของเธอเตือนว่าตอนนี้แบตเตอรี่ของเธอต่ำมากๆ แล้ว
“ฮือๆ ๆ ทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องมาเจอคนใจร้ายอย่างนี้ ชีวิตของฉันมันต่ำต้อยมากหรือไงถึงได้กีดกันฉันด้วย” พริมาในวัย 19 ปี เธอยังคงเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับปัญหาที่เข้ามาเธอจึงต้องทำตามสิ่งที่ผู้ใหญ่ใจดำคนหนึ่งที่พร้อมจะทำร้ายและทำลายเธอ
บ้านของทิศเหนือ
ทิศเหนือ ‘เหนือ’ ลูกชายของกนกอร กนกอรเป็นเจ้าของตลาดขนาดใหญ่ที่มีรายได้มากมายและยังเป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกอีกหลายอย่าง ทิศเหนือมีพี่ชายหนึ่งคนคือทิศใต้แต่ตอนนี้ได้แต่งงานมีครอบครัวและย้ายไปอยู่ต่างประเทศเพื่อทำธุรกิจนานๆ จะมาเยี่ยมที ทิศเหนือในตอนนั้นเขาเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 4 เขาเรียนเป็นปีสุดท้ายแต่พริมากำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1
“พริ้มทำอะไรทำไมไม่รับสายพี่สักที ปกติพริ้มไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย หรือว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น” ทิศเหนือมองหน้าจอมือถือที่เป็นรูปถ่ายของเขากับพริมาที่ถ่ายด้วยกันเมื่อไม่กี่เดือนตอนที่พริมาเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
“ไม่ได้แล้วเราต้องไปหาพริ้มที่บ้านปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้ เป็นห่วงแย่เลย” ทิศเหนือพูดคนเดียวแล้วเดินลงมาข้างล่างผ่านหน้ากนกอรที่กำลังนั่งอ่านหนังสือธรรมะแต่จิตใจก็ไม่ได้เป็นไปตามหนังสือที่เธออ่านเลยสักนิด (ไม่รู้จะอ่านไปทำไม)
“ทิศเหนือจะไปไหนลูกแม่กำลังจะให้ลูกไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับแม่หน่อย” กนกอรพูดขึ้นทิศเหนือจึงต้องเดินไปหาแม่ของเขา
“ผมจะไปหาพริ้มครับแม่พอดีโทรไปหาหลายสายแล้วไม่รับกลัวเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ผมขอไม่ไปงานเลี้ยงกับแม่ได้หรือเปล่า”
“ไม่ได้นะทิศเหนือแม่นัดกับหนูดารันไว้แล้วว่าจะพาเราไปด้วย หนูดารันพึ่งเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ หนูดารันอยากเจอเรามากเลยรู้มั้ยโทรหาแม่อยู่บ่อย โทรหาแกก็ไม่ยอมรับสาย” กนกอรพูดพลางวางหนังสือลงแล้วมองหน้าของทิศเหนือที่ตอนนี้กำลังกังวลใจอยากไปหาพริ้ม
“แต่แม่ครับผมต้องไปหาพริ้ม” ทิศเหนือยังคงดื้อที่จะไปหาพริ้มโดยไม่ยอมทำตามที่แม่ของเขาพูด
“ทิศเหนือแกนี่มันจะอะไรนักหนากับเด็กคนนั้น แกก็รู้ว่าแกกับมันไม่มีทางลงเอยกันได้ ถ้าแกอยากได้มันมาเป็นเมียแกก็รอให้แม่ตายก่อนแล้วกัน” กนกอรพูดอย่างนี้หลายครั้งกับทิศเหนือแต่เขาก็ยังคงไม่ยอมเลิกกับพริมาจนกนกอรต้องใช้วิธีที่เธอได้ทำลงไปในวันนี้ในเมื่อทำให้ลูกชายหยุดรักพริมาไม่ได้เธอก็เลยกดดันเด็กสาวตัวน้อยๆ ที่ไร้ทางสู้ทุกด้าน จิตใจที่บอบบางของเธอกับความร้ายของผู้ใหญ่ทำให้เธอพ่ายแพ้ในที่สุด