พาขวัญเพิ่งค้นพบว่าเรื่องไหนที่สั่งให้ลืมกลับยิ่งจำ เธอลืมเรื่องคืนนั้นไม่ได้ ทุกภาพ ทุกการเคลื่อนไหวยังฉายชัดอยู่ในสมอง ถึงขนาดหลอนตอนดูซีรีส์เกาหลี ในฉากที่พระเอกจูบนางเอก แต่กลับมีภาพที่เตชน์จูบเธออย่างดูดดื่มซ้อนทับหน้าจอทีวี
หมกมุ่นขนาดนี้ หรือเธอต้องพบจิตแพทย์
ก่อนจะร้องเอ๊ะขึ้นในใจ เมื่อฉุกคิดขึ้นได้ว่า หากเกิดใครรู้เข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไปพบหมอเพราะยังมูฟออนจากหุ่นเร้าใจและการเคลื่อนไหวอย่างดุดันของเจ้านายหนุ่มไม่ได้ สุดท้ายเธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนกัน
ไม่เวิร์ก!
เมื่อคิดได้ดังนั้นพาขวัญก็พาตัวเองลุกขึ้นจากเตียง ไม่อนุญาตให้ตัวเองนอนตื่นสายทั้งที่เป็นเช้าวันหยุด ใช้เวลาทำธุระในห้องน้ำร่วมชั่วโมงก็ออกมาหาข้าวหาปลาให้ตัวเองกิน เสร็จแล้วก็ยกจานชามไปล้างที่ซิงก์ ทำตัวเองให้วุ่นวายต่อด้วยการเข้าแอปพลิเคชันแฮปปี้ช้อป กดไปที่แฟลชเซลล์แวะชมของถูกแต่ดี สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับการตลาด กดซื้อของที่ไม่จำเป็นมาสองสามอย่าง ก่อนจะกดออกแล้วพิมพ์ที่ช่องค้นหาเพื่อซื้อของใช้ที่ขาด นำมาสต๊อกไว้เหมือนทุกครั้ง
ยาสีฟัน ยาสระผม น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างละครึ่งโหล
‘คุณใช้น้ำหอมอะไรข้าว’
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงของเตชน์ดังสะท้อนเข้ามาในโสตประสาท ทำพาขวัญสติแตกอีกรอบ เมื่อหวนนึกไปยังเหตุการณ์เมื่อเย็นวานเพียงแค่เธอกดซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม!
เป็นแบบนี้ไม่ได้แล้ว เตชน์เฮี้ยนมากและเธอก็หลอนมากด้วย เธอต้องทำอะไรสักอย่าง คิดได้ดังนั้นพาขวัญก็เข้าไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน หิ้วกระเป๋าใบโตที่บรรจุชุดออกกำลังกาย ผ้าขนหนู ขวดน้ำ พร้อมกับหอบเสื่อโยคะออกจากห้องชุดสุดหรูอันเป็นอภินันทนาการ(ชั่วคราว)จากรัญญา มุ่งตรงไปยังยิมที่ภานุเป็นเทรนเนอร์อยู่ที่นั่นและเคยเป็นสถานที่ทำงานเก่าของเธอนั่นเอง
“เอ้า! อีข้าวฉันกำลังจะโทร.หาหล่อนพอดี” ภานุโบกโทรศัพท์มือถือในมือให้คนที่เพิ่งเปิดประตูยิมเข้ามาเห็นไฟหน้าจอ
“แกโทร.หาฉันมีธุระอะไรเหรอ”
“แหมชะนี ฉันโทร.หาแกต้องมีธุระด้วยเหรอยะ” พูดพร้อมกับค้อนให้ไปหนึ่งที
“เอ้า! ก็ปกติแกชอบแชตคุยไม่ใช่เหรอ แต่นี่ยกหูโทร.หาฉัน ปกติป่าวล่ะ”
“เออ... ก็ฉันเป็นห่วง ตอนแรกว่าจะโทร.หาแกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เผอิญว่าฉันเพิ่งจำชื่อตัวเองได้เมื่อเช้านี้ แฮงก์หนักมากแก แล้วไม่ใช่ฉันคนเดียวด้วยนะ อีแจง อีพลอย ก็ถูกผัวหิ้วกลับบ้านเหมือนกัน ส่วนคนอื่นผัวโทร.ตามตั้งแต่ไม่ถึงเที่ยงคืน เข้าเรื่องดีกว่า จริงๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่จะถามว่าคืนนั้นเป็นไงมั้งหลังไปส่งเจ้านายแกที่คอนโดฯ”
ภานุถามด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเพื่อนรักจะถูกเจ้านายหนุ่มจับได้ว่าได้สร้างโลกสองใบเอาไว้ที่ทำงานกับโลกส่วนตัว
อันที่จริงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรที่คนเราจะมีสองบุคลิก แต่คนเราพอไม่ถูกกันแล้วก็หาเรื่องกลั่นแกล้งได้ตลอดนั่นแหละ ยิ่งพาขวัญเป็นเด็กของรัญญาด้วยแล้ว นั่นเท่ากับว่าเพื่อนเธอรับตำแหน่งสปายควบคู่กับงานเลขาฯ พูดตามตรงเธอไม่อยากเห็นเพื่อนตกงาน งานดี เงินดี สวัสดิการเลิศขนาดนั้นไม่ได้หากันง่ายๆ
แต่คนมีชนักติดหลังถึงกับหลอนหนัก เธออุตส่าห์หนีออกจากห้อง หนีสิ่งเร้าที่กระตุ้นต่อมความทรงจำให้หวนนึกไปถึงเตชน์ แต่กลับหนีไม่พ้น ไม่ต่างจากหนีเสือปะจระเข้
ซ้ำร้ายพอเห็นผู้ชายถอดเสื้อออกกำลังกาย เผยให้เห็นมัดกล้าม ซิกซ์แพ็กและไรขน ภาพคืนนั้นของเขาก็ยิ่งแจ่มชัด จึงช่วยไม่ได้ที่แก้มนวลจะเห่อร้อน ลามไปถึงท้องน้อยที่จู่ๆ ก็เสียววูบขึ้นมาอย่างน่าละอาย
“ถามไม่ตอบไม่พอ แก้มยังแดงเหมือนตูดลิงไปอีก หมายความว่าไงยะ” น้ำเสียงและสายตาของภานุที่มองเธอ ไม่ต่างจากสายตาและน้ำเสียงของอาจารย์ฝ่ายปกครอง ดุและคาดคั้นในที ไม่ยากที่จะทำให้คนมีความลับดูเลิ่กลั่กผิดวิสัยสาวค่อนข้างมั่น
“มะ ไม่ได้หมายความว่าอะไรทั้งนั้นแหละ ละ แล้วหลังจากคืนนั้นก็ปกติดีทุกอย่าง ฉันส่งเขาถึงคอนโดฯ ฉันก็กลับ”
“ปกติมาก มากจนแกพูดติดอ่าง ตาก็ดูเลิ่กลั่กเหมือนพวกหัวขโมย ทำผิดแต่ไม่ยอมรับเมื่อถูกจับได้ ทีนี้ก็บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับแกกันแน่” พอถูกจี้พาขวัญก็รีบกลบเกลื่อนด้วยการปฏิเสธท่าเดียว
“แกก็คิดมาก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉันทั้งนั้นแหละ” พูดจบก็ออกเดินไปยังห้องเปลี่ยนชุด โดยมีภานุตามไปไม่ห่าง ด้วยความที่สนิทกันมาก เห็นแค่ด้านข้างเธอก็ยังมองออกว่าพาขวัญมีเรื่องบางอย่างในใจ
“แกบอกว่าคนในครอบครัวของพ่อแกมีก็เหมือนกับไม่มี คนที่เป็นครอบครัวแกจริงๆ คือฉัน ตอนนี้ยังเป็นเหมือนเดิมไหมวะอีข้าว”
เอ่ยถามขณะเปิดล็อกเกอร์ของตัวเองที่อยู่ห่างจากพาขวัญไปสองล็อก พอเห็นว่าอีกฝ่ายชะงัก มือที่กำลังหยิบจับของในกระเป๋าหยุดเคลื่อนไหว จึงให้เวลาเพื่อนรักได้ตรึกตรอง ระหว่างรอก็หยิบขวดน้ำขึ้นมาจิบแก้กระหาย เนื่องจากเพิ่งเทรนลูกค้าเสร็จแต่ยังไม่ได้ดื่มน้ำ เลือกที่จะโทร.หาเพื่อนรักก่อน แต่จู่ๆ คนที่ยืนเก็บปากเงียบก็พูดขึ้นทะลุกลางปล้อง
“คืนนั้นฉันกับเขามีอะไรกัน”
พรวด!!!
“แคกๆ อีข้าวแกจะฆ่าฉันเหรอฮะ!” พูดสลับไอโขลกๆ พอเห็นว่าเพื่อนน้ำมูก น้ำตาไหลเพราะสำลักน้ำ พาขวัญก็รีบขอโทษขอโพยอย่างรู้สึกผิด
“โทษๆ นุ ฉันควรรอให้แกดื่มน้ำให้เสร็จก่อน” พูดพลางยื่นกระดาษทิชชูให้เพื่อน ภานุรับไปเช็ดหน้าเช็ดตา พอรู้สึกดีขึ้นก็กลายร่างจากเพื่อนเป็นแม่
“ไม้เรียวในมือฉันสั่นหมดแล้วเนี่ย อะไรยังไงไหนเล่า”
“แกสัญญามาก่อนว่าจะเหยียบ ไม่เล่าให้ใครฟังต่อเด็ดขาด”
“อือ สัญญา ก็ให้ความลับตายไปพร้อมกับฉันนี่แหละ”
จากนั้นพาขวัญก็อ้าปากเล่าตั้งแต่เธอหิ้วเตชน์ออกจากผับยันกลับออกจากคอนโดฯ ของเขาในเวลาเกือบตีหนึ่งด้วยสภาพไม่จืด กระนั้นก็ไม่ได้ลงดีเทลเรื่องอย่างว่าเพราะละอายเกินกว่าจะเล่าเป็นฉากๆ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่คิดจะเล่าให้ใครฟัง โดยเฉพาะภานุเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง แต่พอนึกถึงอาการเสียจริต คิดฟุ้งซ่าน พบเห็นอะไรก็ได้แต่นึกถึงเตชน์ และก่อนที่อาการจะรุนแรงขึ้นจนต้องพบจิตแพทย์ อย่างน้อยเธอควรเล่าให้ใครสักคนฟังก่อนไม่ใช่เหรอ แล้วคนที่เธอเลือกก็คือภานุเพื่อนรักเพื่อนตายของเธอนี่แหละ
“เฮ้อ ยังดีที่แกมีสติ ซื้อยาคุมฉุกเฉินกินกันป่อง ว่าแต่คิดดีแล้วเหรอว่าจะไม่บอกคุณเตชน์” ยอมรับว่าแอบเสียดายเตชน์ บางทีเขาอาจมีจิตสำนึก รับผิดชอบเพื่อนเธอก็ได้
“คิดดีแล้ว อย่างที่บอกว่าเขาเมามาก ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าฉันคือคุณชัญญ่า แล้วฉันก็หาเรื่องเอง รู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นเสือผู้หญิงก็ยังพาตัวเข้าใกล้ เพียงเพราะไม่อยากเสียงานและเงิน เลยคิดว่าบอกไปก็ไม่มีประโยชน์ ซ้ำมีแต่โทษกับโทษ ขนาดเขาไม่รู้ยังแสดงท่าทางรังเกียจฉันยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ คิดสิ ถ้าเขารู้ เขาได้ตะเพิดฉันออกจากบริษัทแน่ๆ”
พอได้รับฟังคำอธิบายเพิ่มเติม ภานุก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เตชน์ดีทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องผู้หญิง ดังนั้นเขาไม่ควรรู้เรื่องนี้ เพราะค่อนข้างมั่นใจถ้าหากเขารู้ว่าคืนนั้นเป็นพาขวัญ ชญานีก็ชญานีเถอะ เพื่อนเธอสวยแซ่บ กว่าเยอะ
และเมื่อรู้อยู่ว่าเตชน์ใช้ผู้หญิงเปลืองยิ่งกว่าเปลี่ยนถุงเท้า ถ้าไม่อยากเห็นเพื่อนอกหักเสียใจอีกครั้ง เธอก็ควรเลิกยุยงเพื่อนเสียที ถ้าหาคนผิดเรื่องนี้ เธอเองก็มีส่วน
“ฉันผิดเองที่ยุให้แกช่วยคุณเตชน์คืนนั้น ฉันขอโทษนะอีข้าว”
“อย่าโทษตัวเองเลยนุ เรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรอก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ถ้าจะทำให้แกรู้สึกดีขึ้นบ้าง แกมาหาทางช่วยฉันดีกว่า” พูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล จนภานุอดเป็นห่วงอีกครั้งไม่ได้ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ลืมเสียงสองเสียงสามของตัวเองไปเสียสนิท
“ไม่ว่าเรื่องอะไรฉันยินดีช่วยแกทุกอย่าง แค่แกบอกมาอีข้าว”
พาขวัญสูดลมหายใจเข้าลึก ราวกับกำจัดความยางอายออกไป ก่อนจะเปิดปากเล่าในท้ายที่สุด
“คืองี้ จนถึงตอนนี้ฉันยังลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ พอสั่งให้ลืมกลับยิ่งจำ เห็นอะไรก็นึกแต่เขา ดูซีรีส์เกาหลีพระเอกนางเอกจูบกัน ภาพก็ตัดไปที่เขาจูบฉันเฉย พอจะสั่งน้ำยาปรับผ้านุ่ม คำถามของเขาก็ดังขึ้นในหัวเพราะเมื่อวานเขาถามฉันว่าใส่น้ำหอมอะไร ฉันก็บอกไปว่าฉันไม่ได้ใส่น้ำหอม แค่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเท่านั้น ฉันหลอนถึงขนาดอยู่ห้องคนเดียวไม่ได้ คิดว่ามาออกกำลังกายเรียกเหงื่อ น่าจะหายฟุ้งซ่านบ้าง แต่ยังไม่ทันได้ออกกำลังกาย แค่ย่างเท้าเข้ามาในยิมก็เห็นกล้ามสลอน ทำให้นึกถึงร่างเปลือยของเขาขณะเคลื่อนไหวอยู่บนฉันซ้อนทับเข้ามา อ้อ เกือบลืม แม้แต่กระบอกข้าวหลาม ฉันยังนึกไปถึง ‘ไอ้นั่น’ ของเขา แกช่วยบอกฉันหน่อยสินุ ว่าฉันควรทำยังไงดี ให้ลืมเรื่องบ้าๆ นั่นได้เสียที”
ภานุได้ฟังแล้วก็อยากจะร้องไห้ ไม่ใช่ว่านึกสงสารอะไรเพื่อนหรอกนะ เกิดจากความอิจฉาล้วนๆ
“แสดงว่าคุณเตชน์แซ่บมาก” ถามด้วยแววตาส่องประกายระยิบระยับ เมื่ออดจินตนาการถึง ‘ไอ้นั่น’ ของเตชน์ไม่ได้ ลืมสนิทว่าต้องให้คำปรึกษาเพื่อน
พาขวัญพยักหน้าอย่างไม่มีอะไรโต้เถียง
“ใช่ เพราะว่าแซ่บนี่แหละ ทำฉันหลอนไปหมดแล้ว บอกฉันทีนุ ฉันต้องทำยังไง” น้ำเสียงและสีหน้าร้อนใจขั้นสุด เรียกสติคนที่หลุดเพ้อกลับเข้าร่องเข้ารอย ก่อนจะพูดออกไปน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ไม่แปลกที่แกยังจำได้ทุกเม็ดทุกกระบวนท่าของคุณเตชน์ แต่ก็ไม่ยากที่แกจะกำจัดภาพเหล่านั้นออกไปจากหัว เพียงแค่แกนึกถึงข้อเสียแทนข้อดีของเขา แล้วมีอะไรบ้างล่ะข้อเสียของเขา เยอะแยะไม่ใช่เหรอ อย่างไม่เอาการเอางาน รวยเงินพ่อ หล่อไปวันๆ ปากหมาไม่แพ้ใคร เสือผู้หญิง นอนกับใครก็ได้ แค่คิดก็ขยะแขยงแล้ว เผลอๆ แกอาจจะติดโรคร้ายจากเขา ซ้ำยังมีน้าอย่างคุณรัญญาที่ชอบบงการชีวิต รายนั้นก็ขู่แกไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าคิดอะไรเกินเลยกับเจ้านายเด็ดขาด ถ้าไม่อยากตกงาน แกก็ท่องเลย เงิน เงิน เงิน ชนะทุกอย่าง แล้วก็...”
“พอเถอะนุ”
“ห้ามทำไมยะ ข้อเสียเขายังมีอีกตั้งเยอะแยะ หรือว่าแกคิดถึงเขาอีกแล้ว” ถามด้วยความเหลือเชื่อ เพราะเธอใส่เตชน์ไม่ยั้ง อันไหนจริงไม่จริงไม่รู้ แต่ก็ยังช่วยอะไรพาขวัญไม่ได้
“เปล่า ตอนนี้ฉันรู้สึกกลัวแทนแล้วนุ ไปโรงพยาบาลกัน”
“ไปทำไมยะ”
“เขามั่วขนาดนั้น ก็ไปตรวจโรคไง!”