น้ำหอมเป็นเหตุสังเกตได้ 4

1421 คำ
10.05 น. เสียงลิฟต์ดังขึ้นทำให้พาขวัญจำต้องละสายตาจากรายงานการประชุมที่เพิ่งพิมพ์เสร็จเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ ก่อนจะพบว่าเป็นเจ้านายหนุ่มรูปหล่อ ขวัญใจสาวๆ ทั้งบริษัท ยกเว้นเธอ แต่เวลานี้กลับต่างออกไป เลขาฯ สาวไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังมองร่างสูงที่เดินตรงมาด้วยท่วงท่ากร๊าวใจ ประหนึ่งว่าทางเดินตรงมายังห้องทำงานไม่ต่างไปจากรันเวย์ให้เตชน์ได้เดินอวดความหล่อเหลาที่นายแบบตัวท็อปยังต้องฝึกฝนเคี้ยวกรำอย่างหนักกว่าจะเดินได้เท่และสะกดสายตาคนดู สวนทางกับผู้ชายคนนี้ที่ออกมาจากอินเนอร์ล้วนๆ พาขวัญกระแอมเรียกสติเมื่อพลันสบสายตากับเจ้านายหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้ในระยะห่างแค่สองเมตร พลางนึกตำหนิตัวเองที่หลงเพ้อไปกับรูปลักษณ์ของเตชน์ ทั้งที่เขาก็หล่อของเขาอยู่ทุกวัน แม้จะรู้สึกไม่พอใจเตชน์ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเมื่อคืน แต่ด้วยสถานะเบ๊อย่างเธอจำต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเสียไม่ได้ พนมมือไหว้เจ้านายหนุ่มอย่างเฉกเช่นปกติ ทั้งที่ไม่ปกติเอาเสียเลย “สวัสดีค่ะท่านรองฯ” “สวัสดีคุณข้าว” ร่างแบบบางผงะ ดวงตาหลังเลนส์กรองแสงเบิกกว้าง ตกใจกับปฏิกิริยาตอบรับของผู้เป็นเจ้านาย ปกติเตชน์แค่พยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องทำงานไปเงียบๆ แทบไม่มองหน้าเธอด้วยซ้ำ หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องยกกาแฟตามเขาเข้าไปพร้อมกับไอแพดคู่ใจเพื่อรายงานนัดหมายประจำวันกับเจ้านายหนุ่ม อะหรือ อะหรือว่า... ท่ามกลางความหวาดวิตกกังวล กลัวว่าเขาจะจับได้ แล้วจะส่งผลโดยตรงกับเรื่องงาน เพลงของแม่หยาดพิรุณก็ดังขึ้นในหัวอย่างควบคุมไม่ได้ จะเรียกว่าหลอนก็ไม่ผิด เพราะเวลานี้ไม่ว่าเข้าเฟชบุ๊กหรืออินสตาแกรมเป็นต้องได้ยินเพลงว่างแล้วช่วยโทร.กลับ จนเธอลืมต้นฉบับเดิมของแม่ลิเดียไปแล้วว่าร้องยังไง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เท่ากับว่าตอนนี้เตชน์รู้ว่าผู้หญิงที่เขาคลุกวงในด้วยไม่ใช่ชญานีแต่เป็นชะนีที่ชื่อว่าพาขวัญ ซวยแล้ว! ยัง ยังไม่ถึงคราวซวยเมื่อพาขวัญพยายามตั้งสติแล้วคิดทบทวนดีๆ ว่าหากเตชน์จำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ เขาคงไม่ทักทายเธอตอบ แต่จะไล่เธอออกเพราะความรังเกียจแทน พอสรุปได้ว่าเรื่องเมื่อคืนยังเป็นความลับ พาขวัญก็ลอบถอนใจอย่างโล่งอก แต่ความสบายอกสบายใจอยู่กับหญิงสาวได้ไม่นาน เมื่อฉุกคิดได้ว่าเรื่องที่เตชน์ทำไว้เมื่อวาน สุ่มเสี่ยงทำให้เธอตกงานได้เหมือนกัน แล้วดูสิเธอกังวลแทบตาย ด้วยไม่รู้ว่าผลออกมาอย่างไร ลอบถามคนที่สามารถให้คำตอบได้ อีกฝ่ายก็เดาใจท่านประธานไม่ออกว่าสุดท้ายแล้วตำแหน่งประธานโฮมไอเดียจะตกอยู่ที่ทายาทคนไหน ต่างจากเขาที่ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษไม่รู้ว่าไปโดนตัวไหนมา เขาชิลล์เกินไปแล้ว “ดูท่านรองฯ อารมณ์ดีนะคะวันนี้” น้ำเสียงประชดทำคนอารมณ์ดีเลิกคิ้ว มองเลขาฯ สาวด้วยแววตาฉงน แต่ไม่นานมุมปากเรียวก็ยกยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสาเหตุใดถึงได้เปลี่ยนเลขาฯ หน้านิ่งมาเป็นหน้ายักษ์ไปได้ ก็มีอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องที่เขาโดดประชุมเมื่อวาน แล้วปล่อยให้เจ้าหล่อนตกที่นั่งลำบาก เผชิญชะตากรรมในห้องประชุมตามลำพัง เป็นเขาก็โกรธ “แล้วทำไมผมจะต้องหน้าหงิกหน้างอเหมือนคุณด้วย ทำแล้วสวยเหรอ ก็ไม่นี่” สวยไม่สวยไม่รู้ แต่คนที่คุณนอนด้วยเมื่อคืนก็ฉันนี่แหละโว้ย ถ้าไม่ติดว่าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ พาขวัญก็อยากจะตะโกนใส่หน้าเขานัก ดูสิ ถ้าเขารู้ว่านอนกับคนที่เขาตราหน้าว่าไม่สวย พ่วงด้วยฉายาสมศรี422R จะอารมณ์ดีอยู่ไหม ก็คงไม่ แถมยังตระเวนทำบุญล้างซวยเจ็ดวัดเจ็ดวาอีกต่างหาก “แทนที่จะมองเรื่องความสามารถ กลับมองเรื่องรูปลักษณ์หน้าตา ไม่รู้เหรอคะว่าสมัยนี้เขาไม่บูลลี่เรื่องหน้าตากันแล้วนะคะท่านรองฯ” เพราะวันนี้เขาอารมณ์ดีเกินกว่าจะรู้สึกโกรธเมื่อถูกเหน็บ อีกทั้งเรื่องที่พาขวัญพูดก็คือเรื่องที่ถูกต้องว่าไม่ควรบูลลี่หน้าตาของคนอื่น แต่เขาก็อดแกล้งยัยเลขาฯ หน้าตายนี่ไม่ได้จริงๆ เตชน์ยอมรับอย่างไร้อคติ ใครบ้างมองไม่ออกว่าพาขวัญเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งทั้งที่ไม่ได้แต่งหน้า อีกทั้งกรอบแว่นทรงโบราณที่เจ้าหล่อนใส่ก็ยังบดบังความสวยไม่ได้ แต่ความเย็นชาของอีกฝ่ายกลับทำลายความสวยนั้นไป จนกลายเป็นผู้หญิงไร้เสน่ห์ ไม่ชวนมอง กลับกันต่อให้พาขวัญสวยเจิดจรัส มีเสน่ห์แพรวพราว จนเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ แต่คงต้องยกเว้นเขาไว้คนหนึ่งเพราะเขาไม่มีวันทำลายกฎของตัวเองที่ว่าห้ามยุ่งกับเด็กของรัญญาเด็ดขาด! “อ้อ ที่โมโหนี่แค่อยากให้ผมชมว่างั้น” “ไม่ต้องชมฉันหรอกค่ะ เพราะฉันไม่ได้หลงใหลไปกับคำพูดหวานหูของคนที่ไม่รู้จักความรับผิดชอบ” และรวมถึงพวกเจ้าชู้กะล่อนพูดจาหวานหูไปวันๆ ด้วย หากประโยคนั้นเป็นเพียงคำพูดในใจของพาขวัญเพราะไม่อยากให้เขาเอะใจ จนสาวไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คนโง่เท่านั้นแหละที่แปลความหมายในคำพูดของแม่เลขาฯ ปากจัดไม่ออก เตชน์ที่รู้ตัวว่าถูกด่าก้าวประชิดโต๊ะทำงานของเจ้าหล่อน ยื่นหน้าหล่อเหลาเข้าไปใกล้ สายตามองเธออย่างรู้ทันแกมเย้ยหยัน “แต่ไม่ปฏิเสธใช่ไหมว่าคุณหลงใหลในเงินทองและข้าวของราคาแพง จนต้องหาผลประโยชน์จากคนที่ไม่รู้จักความรับผิดชอบอย่างผม” หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมของเขา เกือบเคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นหอมสะอาดที่ยังติดจมูก ถ้าเขาไม่มองเธอด้วยสายตาดูถูกดูแคลนซะก่อน “ฉันไม่ได้นั่งเฉยๆ แล้วได้เงิน รถ คอนโดฯ มานะคะ แต่ฉันทำงานแลกมันมา จะเรียกว่าหาประโยชน์จากท่านรองฯ ไม่ได้ ซ้ำฉันนี่แหละที่คอยพยุงท่านรองฯ ให้อยู่ในตำแหน่งทุกวันนี้” จบคำพูดของพาขวัญ แววตาของเตชน์พลันเปลี่ยนเป็นเข้มจัด พร้อมกับอารมณ์เบิกบานก่อนหน้านี้ปลิวหาย “ทวงบุญคุณงั้นเหรอ เคยถามหรือเปล่าว่าตำแหน่งพวกนั้นผมต้องการมันไหม ก็เปล่า และเพราะว่าไม่เคยถาม ทำให้คุณคิดมาตลอดว่าผมติดหนี้บุญคุณคุณอยู่ และเพราะคิดว่าผมเป็นหนี้บุญคุณ คุณถึงได้กล้าด่าผมแบบไม่กลัวเกรงว่าจะร่วงจากเก้าอี้เลขาฯ ราคาแพง เป็นแบบนี้ผมไล่คุณออกดีไหมข้าว” คำขู่ของเขาใช้ไม่ได้ผลกับพาขวัญ หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น แล้วพูดออกไปอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า “ท่านรองฯ ทราบดีนี่คะว่าฉันไม่ได้ทำงานขึ้นตรงกับคุณ” “งั้นวันนี้ผมจะลาออกจากตำแหน่งรองประธานโฮมไอเดีย แล้วดูสิว่ามันจะส่งผลโดยตรงกับคุณหรือเปล่า” ครั้นเห็นว่าคนปากดียืนหน้าซีดปากสั่นทันทีที่เขาขู่ออกไป อารมณ์เบิกบานก็หวนกลับมาอีกครั้ง มิหนำซ้ำยังดีกว่าเดิมหลายเท่า ก่อนเข้าห้องทำงานไปจึงไม่วายตีคิ้วใส่อย่างกวนประสาท ราวกับจะบอกกับอีกฝ่ายว่าคนที่ถือไพ่เหนือกว่าคือเขา ไม่ใช่เธอ! เพราะฉะนั้นเบาได้เบา แต่คนที่ควรได้พูดคำนั้นน่าจะเป็นพาขวัญมากกว่า เพราะทันทีที่เตชน์เปิดประตูเข้าไปก็พบว่างานเข้าตั้งแต่หัววัน ในใจก็บ่นอุบว่าสมศรีแกงเขาแล้ว “เมื่อคืนกกแม่ดารานั่นอยู่สินะ ถึงได้มาทำงานสายตะวันโด่งแบบนี้!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม