วีน่าและพี่ชายตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวสวยหล่อเพื่อที่จะเดินทางมาร่วมงานวิวาห์ของบรูคและลดา แต่ทว่าเขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำและส่งน้องสาวเข้างานไปก่อน
"อืม สวัสดีค่ะพี่บรูค หล่อจังเลยนะคะ เจ้าสาวก็สวยมากค่ะ ยินดีกับพี่สองคนด้วยนะคะ" หญิงสาวยิ้มเขินอายที่ถูกเอ่ยชมหลายต่อหลายครั้ง
"คงผ่านมีดหมอมาเยอะน่ะสิน้องวีน่า" บรูคตอบกลับอย่างไม่คิดจะรักษาน้ำใจคนข้างกาย
"โธ่ พี่พูดอย่างนี้ได้ยังไงละคะ เดี๋ยวพี่ลดาก็โกรธหรอกค่ะ"
"อยากจะโกรธก็โกรธไปสิ พี่ชายเราไม่มาหรอวีน่า" ชายหนุ่มทำเป็นไม่สนใจคนข้างกายด้วยการถามหานักรบแทน
“มาค่ะแต่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน พี่บรูคน่ะถ้าพี่ลดาโกรธขึ้นมาจะเป็นเรื่องนะคะ พวกเราขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ ไปๆยัยแองจี้” วีน่ารีบขอตัวก่อนเพราะไม่อยากให้พี่ชายของเพื่อนพูดจาเชือดเฉือนคนข้างกาย
“ช่วยยิ้มด้วยนะคะ ช่วยรักษาหน้าของพี่ลดาให้แองจี้ด้วย” ก่อนผละห่างน้องสาวตัวแสบรีบเอ่ยขู่พี่ชายเอาไว้ บอกเลยว่าตอนนี้เธอยืนอยู่ข้างพี่สะใภ้หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันมาสองอาทิตย์ก็รู้เลยว่าพี่ลดาคนสวยเป็นคนที่มีจิตใจดี ลดากำลังจะเดินผละห่างจากคนตัวโตไปหาน้ำหวานดื่มเพื่อให้รู้สึกสดชื่นแต่โดนเขารั้งเอาไว้เสียก่อน
“จะไปไหน”
“ลดาหิวน้ำค่ะ”
“น้ำแตงโมใช่ไหม เดี๋ยวไปหยิบมาให้ไปนั่งรอด้านนู้นเถอะ” หญิงสาวยืนรับแขกมานานแล้วเขาจึงอยากให้เธอไปนั่งพักเพราะกลัวว่ามารดาจะหาว่าเขาไม่ดูแลลูกสะใภ้ของท่านให้ดี
“ขอบคุณค่ะ” เธอได้แต่มองตามคนตัวโตเดินห่างออกไปตาพริบๆ คนอะไรบทจะใจดีก็ใจดีมาก
“ทำไมอยู่คนเดียวล่ะลดา”
“คุณบรูคไปหาน้ำผลไม้มาให้ลดาดื่มค่ะ”
“น้องพี่รู้จักเอาอกเอาใจแล้วสินะ เข้าใจน้องชายพี่หน่อยนะลดา ยังไงก็ค่อยๆปรับตัวเข้าหากันนะจ๊ะ พี่ขอไปเช็คความเรียบร้อยในงานก่อนใกล้จะได้ฤกษ์แล้ว”
“ค่ะ” รอไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมน้ำแตงโมในมือสองแก้ว
“เห็นเหมือนพี่สาวฉันใช่ไหม” ระหว่างที่เอ่ยถามเขาก็ยื่นแก้วน้ำไปตรงหน้าของหญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ พี่เองเจิลเข้าไปดูแลความเรียบร้อยในงานแล้วค่ะ” ต้องบอกเลยว่าเมนูเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำแตงโมปั่นเย็นๆหวานชื่นใจ ทุกคนในบ้านลงความเห็นว่าคนตัวโตกำลังแพ้ท้องแทนภรรยาเพราะหญิงสาวยังไม่มีอาการแพ้ท้องใดๆเลยแต่เจ้าตัวกับยังไม่รู้ตัวว่าทำไมตัวเองถึงเลิกดื่มกาแฟดำที่มักจะดื่มเป็นประจำทุกเช้า“พี่บรูคคุณพ่อคุณแม่ให้มาตามครับ เห็นว่าได้ฤกษ์แล้ว”
“อืม นำไปสิ”
“ผมช่วยครับพี่ลดา” เบสอาสาช่วยพยุงเจ้าสาวคนสวยขึ้นเพราะเจ้าบ่าวทำท่าจะเดินเข้างานท่าเดียวโดนไม่ได้หันมาช่วยเจ้าสาวคนสวย
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่ต้องเกรงใจกันหรอกนะครับ อยากให้พี่ลดารู้ว่าตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว มีอีกอย่างนะครับ” เบสบอกพี่สะใภ้น้ำเสียงอบอุ่น
“อะไรหรอคะ”
“ที่เห็นพี่ผมเหวี่ยงๆความจริงแล้วแพ้ท้องแทนพี่ลดานะครับ เข้าใจเขาหน่อยนะครับ” หญิงสาวไม่ได้ตอบกลับอะไรแต่แก้มขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
“มัวคุยอะไรกันเดี๋ยวก็ไม่ทันฤกษ์พอดี” ชายหนุ่มคิ้วขมวดถามออกไปเสียงเข้มเกิดความรู้สึกไม่พอใจขึ้นมานิดๆเมื่อเห็นเจ้าสาวของตนส่งยิ้มหวานให้น้องชายแถมแก้มทั้งสองข้างยังขึ้นสีแดงระเรื่อ
“ดูสิครับคนไม่อยากแต่งเร่งเราใหญ่เลย” เบสบอกกับคนข้างกายยิ้มๆ เมื่อไรพี่ชายของเขาจะเลิกปากแข็งสักทีนะ
“คิกๆ” ในที่สุดหญิงสาวก็หัวเราะคิกคักออกมาเบาๆ เห็นด้วยกับน้องเขยที่สุด
อีกด้านเมื่อนักรบทำธุระเสร็จแล้วก็เดินออกมาชนเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่สวมใส่เดรสสีแดงแหวกขึ้นมาถึงขาอ่อนด้านซ้าย ส่วนท่อนบนก็แทบจะปิดหน้าอกอวบอิ่มเอาไว้ไม่มิด
“ขอโทษครับ”
“ไอ้บ้า! เดินไม่ดูทางเลยหรือยังไง รู้ไหมว่าฉันเป็นคู่หมั้นพี่บรูค นายทำฉันเสียเวลา”
“ผมก็ขอโทษคุณไปแล้วนี่จะอะไรอีก ผมเองก็รีบเหมือนกันนั่นแหละ ว่าแต่คุณจะมาประกาศตัวในวันที่บรูคแต่งงานใครเขาจะเชื่อ”
“กรี๊ดดด นะ นาย นายนี่มัน”
“ผมมีชื่อครับ นักรบนะครับจำเอาไว้อย่าคิดมาป่วนงานแต่งงานนี้เด็ดขาด ไม่งั้นผมจัดการคุณแน่”
“อะ ไอ้บ้า ฉันเป็นลูกสาวคุณนภเดชนักธุรกิจชื่อดัง นายจำเอาไว้ด้วย”
“ผู้หญิงอะไรแก่โวยวายชะมัด ใครได้ไปเป็นเมียต้องแย่แน่ๆ” นักรบบอกออกไปอย่างอ่อนใจ จากนั้นเขาก็เลิกสนใจและเดินเข้าไปภายในงาน เวลานี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนอยู่บนเวที ทั้งสองกำลังกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกคนที่สละเวลามาร่วมงานสำคัญของคนทั้งคู่
“หุบยิ้มบ้างก็ได้นะคะคุณแม่” เองเจิลเห็นมันมารดายิ้มอย่างมีความสุขก้อดที่จะแซวไม่ได้
“ก็แม่มีความสุขจริงๆนี่หน่า จริงไหมคะที่รัก ดูสิคะพวกเขาเหมาะสมกันมาก”
“ครับ พี่ก็คิดเหมือนคาร่าทุกอย่างเลย”
“คู่นี้ก็หวานไม่แผ่วเลยจริงๆ คนโสดอย่างผมคงต้องไปหาอะไรดื่มหน่อยแล้วล่ะครับ”
“ไปเถอะลูก ฝากดูแลความเรียบร้อยด้วยนะจ๊ะ”
“ได้ครับ”