ย้อนอดีตครั้งที่1
"กินให้หมดเลยนะ" พิมโรสในวัย19ปีเอ่ยขึ้นพร้อมชี้นิ้วดุแฟนหนุ่มที่ชอบกินยาไม่หมด
"ก็มันขมนี่"ภาคินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับกอดเอวบางไว้แน่นแม้ในตอนนี้เขาจะเป็นผู้ชายในวัย23ปีก็ตาม
"กินเลยจะได้แข็งแรงไวๆ"พิมโรสดันคนตัวโตออกพร้อมกับหยิบถ้วยยามาอยู่ในมือแทนก่อนจะป้อนไปที่ปากหนาที่รับด้วยความไม่เต็มใจ
"น้ำๆๆ" ภาคินร้องเรียกหาน้ำทันทีที่กินยาหมดมันเหม็นและขมแต่ก็ต้องทนกินเพราะตัวเองนั้นร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วแถมยิ่งโตอาการก็ยิ่งแย่ลงไปทุกวันเสียด้วย
"เก่งมากเลย" พิมโรสพูดขึ้นพร้อมตบมือทำเหมือนว่าคนตรงหน้านั้นเป็นเด็กแต่สิ่งที่เธอทำภาคินนั้นกลับชอบมันมากเหลือเกินชอบที่เธอมาดูแลชอบที่เธอเอาใจใส่เขาถึงเพียงนี้และไม่เคยคิดผิดหวังที่ตามจีบจนได้คบกันแบบนี้
"พรุ่งนี้จะไปเรียนด้วยกันใช่ไหม?" ภาคินเอ่ยถาม
"อื้อจะอยู่ด้วยทั้งวันเอาให้เบื่อหน้ากันไปข้างเลย"พิมโรสเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มทั้งคู่เรียนอยู่มหาลัยและคณะเดียวกันแต่ต่างกันที่พิมโรส
นั้นพึ่เข้าปี1ส่วนภาคินนั้นใกล้จบแล้ว
"ไม่เบื่อหรอก"ภาคินบอกยิ้มๆ ก่อนจะเปิดผ้าห่มให้คนตัวเล็กสอดตัวเข้ามานอนด้วยความแนบชิดทำให้ได้กลิ่นของกันและกันทั้งภาคินและพิมโรสต่างนอนเล่นพูดคุยกันไปเรื่อยจนในที่สุดก็ถึงเวลาที่พิมโรสนั้นจะต้องกลับบ้าน
"พรุ่งนี้เจอกันนะคะพี่คิน"พิมโรสเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มพร้อมกับโบกมือลาคนบนเตียงภาคินมองพิมโรสที่เดินออกจากห้องไปด้วยสายตาเศร้าเขาในตอนนี้แทบจะไม่มีแรงที่จะเดินเลยด้วยซ้ำไม่รู้ว่าโรคที่เป็นอยู่นั้นมันคืออะไรเพราะไม่ว่าจะหาหมอคนไหนมารักษาก็ไม่เป็นผลสักที
ก๊อกๆ
"แม่ขอเข้าไปได้ไหมลูก"
"ครับแม่" ภาคินเอ่ยบอกก่อนจะมองแม่เลี้ยงที่เข้ามาอยู่ในบ้านได้หลายปีแล้วซึ่งเขาและเธอต่างก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันแม่เลี้ยงของเขาตามใจและคอยดูแลเรื่องสุขภาพของเขามาโดยตลอด
"พรุ่งนี้แม่จะให้คนติดตามไปด้วยนะลูก" แม่เลี้ยงเอ่ยขึ้นพร้อมลูบหัวลูกชายเบาๆ ด้วยความรักใคร่
"ไม่เป็นไรครับพิมโรสจะดูแลผมเอง"ภาคินเอ่ยบอกก่อนจะส่งยิ้มบางๆ ให้
"งั้นก็ได้จ๊ะ แล้วกินยาไปดีขึ้นบ้างมั้ย?"
"ครับ ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกมีแรงนิดหน่อย"
"งั้นพักผ่อนนะ แม่ไม่กวนแล้ว"แม่เลี้ยงเอ่ยบอกพร้อมกับวางนมอุ่นที่ถือมาไว้วางบนหัวเตียงภาคินหยิบมันขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วก่อนจะรีบเข้านอนเพราะเขาอยากที่จะ เจอกันพิมโรสเร็วๆ
เช้าวันต่อมา
"ขอโทษนะ" ภาคินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศ้ราทั้งๆ ที่คิดว่ากินยาไปแล้วตัวเองจะดีขึ้นแต่ตื่นเช้ามาอาการกลับแย่ลงกว่าเดิมจนไม่สามารถลุกไปไหนได้พิมโรสที่ได้ข่าวอย่างนั้นก็รีบมาดูอาการของภาคินทันทีด้วยความเป็นห่วงมือบางกอบกุมมือหนาขึ้นก่อนจะกดจูบมันเบาๆ
"ไม่ต้องขอโทษหรอกเดี๋ยววันนี้จะโรสจะอยู่เป็นเพื่อนพี่คินเอง" พิมโรสเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใสทั้งสองพูดคุยกันอยู่สักพักก่อนที่แม่บ้านจะเข็นอาหารมาให้ทั้งคู่ได้ทานกันพิมโรสมองเมนูที่น่ากินของตัวเองแต่กลับของภาคินนั้นมีแต่ผักและขวดยามองทีไรก็รู้สึกเห็นใจอยู่ไม่น้อย
"กินกุ้งมั้ย?" พิมโรสเอ่ยถามเพราะทนเห็นที่ภาคินกินแต่ผักไม่ไหว
"ไม่เป็นไรแม่บอกว่าถ้ากินไม่ตรงตามที่จัดมาจะมีปัญหากับเรื่องทานยาน่ะ" ภาคินเอ่ยบอกพิมโรสที่ฟังก็ได้แต่ขมวดคิ้วเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อจนสุดท้ายเวลาก็ล่วงเลยมาถึงช่วงดึกที่เธอจะต้องกลับบ้านอีกครั้ง
"กลับดีๆนะครับ ถ้าอยากซื้ออะไรไปฝากครอบครัวก็บอกให้คนขับรถจอดได้เลยนะ" ภาคินเอ่ยบอกเพราะเขาสั่งผู้เป็นแม่คอยบอกให้คนขับรถพาไปส่งพิมโรสอยู่เสมอจะได้ไม่ต้องทนนั่งรถคนเดียวกลับบ้านมืดๆ
"หืม?ปกติโรสก็กลับเองนะไม่ได้ให้ใครไปส่ง"คำพูดของพิมโรสทำเอาเขาชะงักทันที
"หมายความว่ากลับเองตลอดเลยหรอดึกๆแบบนี้?"
"อื้อ!" พิมโรสเอ่ยบอกภาคินพยักหน้ารับก่อนจะกดกระดิ่งเรียกแม่บ้านให้เข้ามาในห้อง
"มีอะไรหรอคะคุณภาคิน" แม่บ้านคนหนึ่งเข้ามาก่อนเอ่ยถาม
"ฝากส่งพิมโรสกลับบ้านทีนะครับให้คนขับรถไปส่ง"
"ได้ค่ะ"
"ไม่เป็นไรโรสกลับเองได้"พิมโรสเอ่ยปฏิเสธเธอรู้ดีว่าหลายๆคนมองเธอเป็นหนูตกถังข้าวสารที่ได้มาคบกับผู้ชายทั้งหล่อและรวยแต่จริงๆแล้วพิมโรสรับรักภาคินเพราะนิสัยล้วนๆไม่ได้หวังเงินทองหรือความสบายเลยแม้แต่น้อยแต่ก็ไม่มีใครเชื่อเพราะที่บ้านของเธอนั้นเรียกได้ว่ายากจนเลยทีเดียว
"ไม่ ฝากด้วยนะครับ" ภาคินเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็งก่อนจะหันไปบอกแม่บ้านสุดท้ายพิมโรสก็ต้องทำตามอย่างว่าง่าย ภาคินนั่งทบทวนในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ภายในห้องเงียบๆ เขามั่นใจว่าได้ฝากฝังผู้เป็นแม่ในเรื่องนี้แล้วแต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
ใครโกหกคะะะะะะ