“ผมจะไม่ปล่อยเมียไว้กับไอ้หน้าไหนทั้งนั้น อย่าคิดว่าการหนีจะทำให้คุณอยู่ห่างผมได้ ไม่มีทาง”
“ปล่อยฉันลงนะคุณหนึ่ง คุณแม่ช่วยหนึ่งด้วยค่ะ ดาช่วยเราด้วย”
ปราณปริยาวดีทั้งทุบอกเขา ทั้งร้องเรียกแม่กับเพื่อน ตัวก็ดิ้นรนให้หลุดพ้นอยากวงแขนเขา ดาริการีบวิ่งมาหา ทว่าไม่ได้ช่วยเพื่อน แต่ดันกลับกลายเป็นช่วยเปิดประตูสปอร์ต
ให้เจ้าของยัดร่างเมียเข้าไปได้สะดวกแทนอีกต่างหาก เพราะเห็นอยู่โจ้งๆ ว่าผัวเพื่อนหึงไวทินจนลมออกหู ขืนให้อยู่ใกล้กันต่อไปได้มีเรื่องแน่ๆ
“เปิดประตูให้ฉันนะคุณหนึ่ง”
คนในรถพยายามทุบกระจกเมื่อรถล็อคไว้ แต่สุดท้ายมือบางก็ปลดล็อคและเปิดประตูจนได้ แต่ยังก้าวออกไม่ได้ เมื่อมีแม่เดินถือกล่องมายืนกันเอาไว้ก่อน
“ยัยหนึ่งเอะอะโวยวายเสียงดัง อายคนแถวนี้หมดแล้ว ไปรีบๆ กลับบ้านเถอะไม่ต้องห่วงแม่ เอาปูนี่ไปด้วย โตแล้วนะเรา คุยให้รู้เรื่องหน่อยสิ ไปรีบกลับไปดูแลลูกผัว”
มือบางจำต้องรับกล่องจากมือแม่ แล้วนั่งนิ่งมองเพื่อนทั้งสองตาปริบๆ ผิดกับอีกคนที่ยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะออกรถไปอย่างรวดเร็ว แล้วในรถก็ไม่มีเสียงใครเอ่ยอะไรออกมาเลย นอกจากเพลงที่เขาเปิดเท่านั้น
“เราจะไปไหนกันคะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้าน”
แต่สุดท้ายคนเป็นเมียก็จำต้องอ้าปากถาม เมื่อเส้นทางที่รถแล่นไปนั้นไม่คุ้นเอาเสียเลย
“ไปบ้านอีกหลัง”
เขาตอบแค่นั้น แล้วเปิดเพลงให้ดัง ประหนึ่งไม่อยากได้ยินคำถามจากอีกคนก็ไม่ปาน และแน่นอนว่าปราณปริยาวดีรู้ดี จึงไม่คิดจะอ้าปากถามเขาเลยแม้แต่คำเดียว
ไม่ว่าการเดินทางจะไกลหรือนานกี่ชั่วโมงยังไง เจ้าของร่างเพรียวบางก็ยังนั่งนิ่งได้
กระทั่งสปอร์ตหรู แล่นมาจอดอยู่หน้าบ้านทรงไทยสองชั้นซุกซ่อนอยู่ในสวน มีไม้ผลยืนต้นสูงจนท่วมหลังคา ระยะทางจากประตูรั้วเข้ามาในตัวบ้านไกลหลายร้อยเมตร บ่งบอกว่าเนื้อที่คงจะหลายร้อยไร่
ปราณปริยาวดีรีบลงจากรถ ตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ ที่เดินอ้อมไปเปิดกระโปรงรถมีกระเป๋าสองใบอยู่ ส่งให้สองชายหญิงที่เดินมารอรับด้วยท่าทีเรียบร้อย
“ผมเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บให้บนห้อง แล้วจะลงมาตั้งโต๊ะให้เลยนะครับ”
“ขอบคุณครับลุงใบ ป้าจวง”
ปราณปริยาวดีนึกขึ้นได้ ว่ามีปูของแม่จึงกลับไปเอาในรถ พลาธิปยืนรออยู่แล้ว เลยเดินไปช่วยถือให้เอง ก่อนจะจูงมือบางเข้าใบด้านในที่กว้างขวางโอ่อ่า ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น
ของใช้ทุกอย่างมีครบครัน ห้องอาหารที่เขาพาไปนั้น เป็นส่วนในสุดของบ้าน ด้านนอกติดกับสระว่ายน้ำมองเห็นผ่านจากประตูกระจกใสแจ๋ว
“ฉันจะไปช่วยดูในครัวค่ะ”
ปราณปริยาวดีหันไปบอก แต่มีหรือเขาจะยอมให้เมียห่างกายง่ายๆ เพราะตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้ว ว่าการมาครั้งนี้จะอยู่กับเมียให้หนำใจ
หลังจากถูกเขี่ยให้กลับมานอนห้องตัวเองกับคู่ขา ที่เขาเห็นว่าเริ่มจะคุยกันไม่รู้เรื่องอยู่หลายคืน
“ป้าจวงจัดการได้ คุณแค่นั่งรอตรงนี้ล่ะ”
แทนที่เจ้าร่างเพรียวจะได้นั่งลงบนเก้าอีก ทว่าตักของเขาต่างหากที่จำต้องนั่งลง เมื่อถูกเขาอุ้มขึ้นมาไว้อย่างง่ายดาย
“คุณหนึ่งปล่อยสิคะ”
แต่ปราณปริยาวดีก็รีบดิ้นรนจนได้ เมื่อสองผัวช่วยกันยกถาดอาหารมาจัดลงโต๊ะ
“ลุงกับป้ารู้จักคุณหนึ่ง เมียผมหรือยังครับ”
พลาธิปรีบหันไปบอก ก่อนจะก้มลงมองอาหารด้วยความหิว
“รู้แต่ว่าคุณหนึ่งแต่งงานจากคุณผู้ชายที่มาพักเมื่อสองเดือนก่อนครับ”
ใบยังคงแสดงท่าทีนอบน้อมตามเคย ตอนแรกพลาธิปตั้งใจจะบอกเล่ากับคนเฝ้าบ้านให้มากความกว่านั้น แต่เมื่อเดาได้ว่าพ่อคงจะหอบเมียน้อยคนไหนมานอนบ้านนี้
เลยทำให้หมดอารมณ์เอาดื้อๆ สองผัวเมียจึงออกจากห้องอาหารไป ทิ้งให้อีกสองผัวเมียนั่งกินเงียบๆ
“มาเถอะ อีกหน่อยป้าจวงก็เข้ามาเก็บเองล่ะ”
ปราณปริยาวดียอมเดินตามมือเขาไปเงียบๆ เช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าของเขาไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร และพอเข้าห้องได้เขาก็คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว
ปราณปริยาวดีจึงเดินไปเปิดกระเป๋าทั้งสองใบ จัดเสื้อผ้าของเขากับของตัวเองเข้าตู้ เดาได้ว่าสุดาคงจะจัดเตรียมมาให้ เพราะครบทุกอย่างที่ต้องการ แถมมีหลายชุดด้วย
เดาได้เลยว่าคงจะต้องอยู่ที่นี่หลายวัน ทำให้ห่วงงานขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เลยรีบกดมือถือไปหาเพื่อน
“จะมาห่วงอะไรล่ะหนึ่ง เด็กแค่ไม่กี่คน เราทำแทนได้อยู่แล้ว พักผ่อนให้สบายหายห่วงเถอะ เผื่อจะได้หลานกลับมาฝากน้าปานบ้าง เห็นบ่นแล้วบ่นอีกว่าอยากได้ วันนี้รักน้าปานที่สุดเลย คราวหน้าอยากกินอะไรจะไม่จ่ายเองละ เพราะได้ไฟเขียวจากน้าปานให้โทรไปขอได้ แค่นี้ก่อนนะ กินปูเพิ่งอิ่มง่วงมากจะกลับบ้านละ”
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสอะไรนัก นั่นจึงทำให้ปราณปริยาวดีเบาใจและรู้สึกผิดน้อยลงได้บ้าง ที่เพื่อนหุ้นส่วนไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยแต่อย่างใด มิหนำซ้ำกลับไล่ส่งอีกต่างหาก
เสียงเปิดประตูห้องน้ำ แล้วมีเจ้าของร่างสูงใหญ่ออกมาด้วยใบหน้าดีกว่าตอนเข้าไปแล้ว ปราณปริยาวดีจึงคว้าชุดนอนไปวางไว้ให้บนเตียง ส่วนตัวเองก็ไปอาบน้ำบ้าง
“อุ๊ย!!! คุณหนึ่งปล่อยสิคะ”
แต่พอออกจากห้องน้ำมาเพียงก้าวเดียว ก็ถูกร่างกำยำที่ยังคงมีผ้าขนหนูพันกายท่อนล่างไว้รวบตัวเข้าไปกอดจูบทันควัน ปราณปริยาวดีพยายามดิ้นรนออกห่าง
เพราะอาการขุ่นเคืองที่หลายค่ำคืน เขาพาตัวไปมั่วกับคู่ขาให้ระคายเคืองหัวใจ แต่มีหรือที่จะสู้แรงเขาได้
“ปล่อยฉันสิคะคุณหนึ่ง”
นอกจากเขาจะไม่สนแล้ว แถมตัวก็ปลิวไปอยู่บนเตียงใหญ่นุ่มอย่างง่ายดาย โดยมีกายบึกบึนตามขึ้นไปทาบทับไว้