และก็ไม่ได้ต่างจากอีกเมียนัก ที่แม้จะนิ่ง แม้จะไม่เอะอะโวยวายใดๆ แต่ในใจนั้นก็เจ็บลึกๆ ทุกครั้งที่คิดถึงภาพในห้องหอ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา และมีเพียงคนเดียว
ที่ปราณปริยาวดีจะบอกเล่าเก้าสิบให้ร่วมรับรู้ได้ นั่นก็คือดาริกาเพื่อนสนิท คบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมต้นจนจบนาฏศิลมาด้วยกัน คุยกันลึกได้ทุกเรื่อง
“เป็นเราหน่อยไม่ได้ จะวีนแตกตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว อะไรกันแต่งงานแล้วหอบผู้หญิงอื่นเข้าห้องหอ อุตส่าห์หลงคิดว่าตั้งแต่เลิกกับแม่ลูกบ้านใหญ่แล้วจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ ไม่รังเกียจเดียจฉันท์ลูกบ้านเล็กบ้านน้อยแล้วซะอีก ที่ได้ไหนแย่กว่าเดิม”
ปราณปริยาวดีเห็นเพื่อนออกอาการฉุน ก็ได้แต่ปลงและทำใจเย็นๆ ไว้ ด้วยไม่อยากจะเก็บมาให้เสียอารมณ์มากไปกว่านี้ เพราะยังไงๆ ตัวเองก็คงจะหย่าไม่ได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
ดาริกาหันไปมองเวลาที่เหลืออีกนิดหน่อย ก่อนจะหมดเบรคแล้วกลับไปหานักเรียนตัวน้อยๆ ต่อ
“แล้วจะทำยังไงต่อล่ะหนึ่ง จะยอมเป็นเมียหลวง แล้วให้นายหนึ่งหอบเมียน้อยมานอนเอากันรดหัวอยู่อย่างนี้เหรอ”
“ก็ไม่ต้องทำอะไรหรอก ในเมื่อเขาอยากจะหิ้วคนอื่นมานอนกกนอนกอด เราก็จะให้เขาได้อิสระเสรีได้ตามสบาย ต่างคนต่างอยู่ไม่เกี่ยวข้องกันก็เท่านั้น แต่ถ้าจะให้เลิก ดาก็รู้ว่าเราทำไม่ได้ในตอนนี้ สงสารคุณแม่น่ะ ถ้ารู้คงจะอาการทรุดเลย เขาว่าโรคนี้นอกจากต้องเข้มแข็งสู้กับมันแล้ว กำลังใจก็มีส่วนช่วยได้มาก”
ปราณปริยาวดีบอกตามความจริง
“อื้มๆๆ เอาอย่างนั้นก่อนก็ได้ แล้วคืนนี้ก็จัดการล็อคห้องให้ดี อย่าให้นายนั่นเข้าหา อยากเมื่อไหร่ก็ให้เรียกแม่นั่นมาใช้งาน ดีเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง จนกว่าจะถึงเวลาหย่า ได้ค่าสินสอดฟรีๆ แถมไม่ต้องเปลืองตัวด้วย ไปละ หมดเวลาเบรคแล้ว อ้อ! ถ้าหนึ่งไม่ไปไหน พรุ่งนี้เราก็จะไม่มาแทนนะ จะได้รับงานพี่สนเลย”
ปราณปริยาวดีพยักหน้าน้อยๆ รับ แล้วก็เดินออกจากห้องรำ เพื่อจะตรงไปขึ้นบันไดไปหายาย กำลังนวดแป้งเตรียมทำขนมสอดไส้ไว้ให้เด็กๆ กินเป็นของว่างช่วงบ่าย
แต่ก็หันไปยิ้มให้ไวทิน ที่ควบรถเข้ามาจอดแล้วตรงมาหาที่หน้าบันได
“อะ! แบบนี้ใช่ไหมที่หนึ่งอยากได้”
ไวทินยื่นถุงให้ มือบางก็รีบรับมาใส่กระเป๋าสะพายทันที เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น ถึงแม้ไวทินอยากจะถามว่าจะเอาตัวล็อคไปทำไมสักแค่ไหน แต่ก็ยับยั้งความอยากรู้เอาไว้ ด้วยไม่ใช่เรื่องที่สมควรนัก
แม้จะสนิทกัน แต่ก็มีขอบเขตระหว่างหญิงชายอยู่อย่างเด่นชัดหรือถ้าอยากรู้มากๆ เขาก็จะแอบกระซิบถามดาริกาได้ เพราะสนิทกันมานานนมเช่นกัน
แม้จะเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก และบางครั้งและกับบางคน เขาก็มักจะพูดตรงไปตรงมา ทว่าอีกมุมหนึ่งนั้นช่างเป็นคนจิตใจอ่อนโยน ไม่ชอบสุงสิงกับใครเลยตามประสาคนมีอารมณ์ศิลปินสูง
ยิ่งเวลาซ้อมระนาดด้วยแล้ว ใครก็อย่าได้เข้ามากวนใจเชียวเป็นต้องถูกตะเพิดออกจากห้องแทบไม่ทันทีเดียว
“หนึ่ง! ถ้าล้างมือแล้ว ก็เอากะละมังมาผสมแป้งเพิ่มอีกหน่อยสิลูก ยายลืมไปว่า จะต้องทำเผื่อคนที่บ้านผัวเราด้วย ว่าแต่อยู่กันกี่คนล่ะ จะได้กะถูก ถ้าไส้ไม่พอจะได้ให้เจ้าทินไปสอยมะพร้าวมาขูดเพิ่ม”
คุณยายวันมักจะมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับคนรอบข้างเสมอ จนเป็นที่รักของเพื่อนบ้านในละแวกนี้ เวลาทำอะไรก็จะต้องทำทีละมากๆ จะได้พอแจกพอแบ่งกันกิน
และก็มักจะได้อาหารหรือของแลกเปลี่ยนกลับมาด้วยทุกครั้ง ปราณปริยาวดีชอบชีวิตบ้านๆ แบบนี้ มากกว่าสังคมเมืองที่ต่างคนต่างอยู่ ซึ่งตรงกันข้ามกับความชอบของผู้เป็นแม่โดยสิ้นเชิง
ที่พิศมัยความรุ่งเรืองความไฮเทค นิยมของแบรนด์ของนอก ชอบอาหารฝรั่งมากกว่าอาหารไทย ชอบเข้าสังคมชอบออกงาน ชอบอวดอ้าง ชอบความเป็นหนึ่ง ชอบเป็นที่หนึ่ง ชอบเป็นคุณนายมากกว่าเป็นชาวสวน
นั่นคือเหตุผล ว่าทำไมปานถึงได้ทนเป็นน้อยมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะตัดขาดจากสิ่งที่สามีอย่างปิยะหยิบยื่นให้ไม่ได้
“ยัยหนึ่งนี่ได้เรามาหมดเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือนิสัยใจคอ มีได้แม่อยู่อย่างเดียวคือความสวย ถ้าได้มาหมดนะตาเอ้ย!!! ไม่รู้จะทำยังไงล่ะทีนี้ ลูกยังเอาไว้ไม่อยู่ แล้วนับประสาอะไรกับหลานล่ะ”
“ถ้าเราไม่แย่งนังปานมาเลี้ยงสลับไว้บ้าง ยัยหนึ่งอาจจะตามแม่ไปทุกเรื่องก็ได้นะยาย ดีนะเรารอบคอบดึงๆ มาบอกมาสอนบ้าง ไม่อย่างนั้นก็เตรียมตัวมีหลานเป็นเมียน้อยเขาตามแม่มันไปอีกคนนั่นล่ะ นี่ก็เริ่มเป็นสาวแล้วเราจะต้องดูแลดีๆ นะยาย อย่าให้ห่างหูห่างตาและอย่าให้ไปอยู่กับแม่มันมาก เกิดเห็นอาเสี่ยเงินหนามาทุ่มให้มันอาจจะยกลูกให้ไปเป็นเมียเก็บเขาอีกคนก็ได้ นังนี่มันยิ่งเห็นเงินเป็นพระเจ้าอยู่”
“ตาก็ว่าไป นังปานมันไม่ทำอย่างนั้นหรอก มันบอกฉันประจำว่าลูกมันจะต้องไม่เป็นสองรองใคร นอกจากเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น”
สองตายายมักจะคุยกันในเรื่องนี้เสมอๆ นับตั้งแต่ดูจนขาดแล้ว ว่าหลานแตกต่างจากลูกที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือยังไง เพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยให้อายผู้คนแถวๆ นี้
ปราณปริยาวดีเดินเข้าประตูคฤหาสน์หรู ในเวลาห้าโมงครึ่ง พบว่าบ้านเงียบเชียบ จึงเดินตรงไปหาสุดา คาดว่าจะอยู่ในครัวเป็นจุดหมายแรก พอสุดารับถุงขนมสอดไส้แล้ว ก็บอกให้หญิงสาวไปอาบน้ำก่อน
ค่อยให้ลงมาช่วยในครัว และเมื่อเห็นว่าตัวเองเหงื่อท่วมตัว จึงทำตามอย่างเร่งด่วนและรีบลงมาในชุดแซกสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย ผ้ายืดสีครีมคาดดำเป็นแนวขวาง