“คุณหนึ่งโทรบอก ว่านัดเพื่อนๆ มาคุยโปรเจคใหม่อะไรกันนี่ล่ะค่ะ แล้วจะกินมื้อเย็นด้วย ก็เลยต้องทำหลายอย่างหน่อย เดี๋ยวน้อยกับแดงอาบน้ำเสร็จก็จะมาช่วยค่ะ”
เพราะก่อนหน้าที่พลาธิปจะถูกสลัดรัก เขากับเพื่อนๆ กำลังเริ่มทำโปรเจคปลูกบ้านทรงไทยที่เขาใหญ่ ขายให้ลูกค้าต่างชาติกระเป๋าหนักๆ แต่ก็มาชะงักตอนเขาบาดเจ็บทางใจ
จนไม่อยากเห็นหน้าภาธร แถมอยากจะตัดขาดจากความเป็นเพื่อนไปด้วยซ้ำ หากไม่มีอีกสองเพื่อนรั้งไว้
“เหรอคะ แล้วทำอะไรบ้างคะ”
แม้ในใจจะถามตัวเอง ว่าเพื่อนที่เขาบอกนั้นรวมคนเมื่อคืนด้วยหรือเปล่า แต่ปราณปริยาวดีก็ตัดความอยากรู้ออก แล้วหันไปทำหน้าที่ของตัวเองเพียงเท่านั้น
“ปูผัดผงกระหรี่ค่ะ เมนูนี้คุณหนึ่งบ่นอยากกินมาหลายวันแล้ว แต่ไม่ว่างได้มากินสักที ยำปลาดุกฟูนี่ของคุณวัทน์ คุณเปิ้ลบอกว่าอะไรก็ได้ ป้าเลยจะแกงป่าปลาช่อนให้ ปลานึ่งบ๊วยของคุณผู้หญิงค่ะ คุณหนึ่งอยากกินอะไรพิเศษหรือเปล่าคะ ป้าจะได้ดูของในตู้เย็นให้”
สุดาปอกเปลือกมะม่วงอยู่ แจกแจงอย่างคนอารมณ์เย็น แถมยังห่วงปากท้องสะใภ้ที่แทบจะไม่มีใครในบ้านให้ความสำคัญด้วย
“ไม่ค่ะ หนึ่งกินอะไรก็ได้ จะให้หนึ่งช่วยทำอะไรก่อนคะ”
“อ้อ! ป้าจะผัดผักรวมเนื้อน้ำมันหอยอีกอย่างค่ะ กลัวจะไม่พอ เพราะหนุ่มๆ แต่ละคนกินจุ คุณหนึ่งช่วยดูผักในตู้ให้ป้าก่อนก็ได้ค่ะ มีอะไรก็เอามาเป็นผัดผักรวมเลยค่ะ”
“แล้วของหวานต้องมีหรือเปล่าคะ”
ปราณปริยาวดีถามไปอย่างนั้น เพราะตัวเองไม่ใคร่จะได้กินสักเท่าไหร่
“อุ๊ยตายจริง! ดีนะคะที่คุณหนึ่งถาม ป้าลืมคิดไปเลยค่ะ ก็คุณหนึ่งน่ะสิคะ โทรมาตอนป้าจ่ายของจะเสร็จแล้วด้วย เอาไงดีล่ะคะ”
สุดายกมือขึ้นทาบอก เพราะลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ
“ไอศครีมพวกนี้พอจะแทนกันได้หรือเปล่าคะป้า จะไปซื้อก็ค่ำแล้ว อีกอย่าง ผู้ชายคงไม่ค่อยอยากได้ของหวานหรอกมั้งคะหนึ่งว่า”
สุดาเองก็คิดเหมือนกัน
“ก็อาจจะเป็นได้ค่ะ ถ้ามีคนถามก็บอกว่ามีแค่ไอศรีมก็แล้วกันนะคะ”
เมื่อสรุปได้ดังนั้น ทั้งสองก็เริ่มลงมือทำทันที สักพักก็มีสองสาวมาช่วย และต้องวิ่งเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟ เมื่อพลาธิปกับเพื่อนๆ มาถึง และคุยกันอยู่ในห้องทำงานของเขา ที่ทำไว้ฝั่งเดียวกับสระว่ายน้ำ มีประตูกระจกเลื่อนเข้าออกทะลุกันได้
“วันนี้ทำอะไรให้ผมกินครับป้าสุ”
เจ้าของร่างสูงเดินเข้ามา แล้วทักด้วยความอารมณ์ดี แต่สายตานั้นกวาดไปมองอีกคน กำลังอยู่หน้าเขียงหันอะไรสักอย่าง เขามองไม่ถนัดเพราะเห็นแต่ด้านข้าง
สุดาหันไปยิ้มให้ เมื่อยกตระแกรงปลาดุกทอดฟูเป็นแพขึ้นจากกระทะ แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง ร้อยวันพันปีเจ้านายหนุ่มไม่เคยเข้ามาในครัวด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่มีเวลาคิดนาน
“คุณหนึ่งจะเอาอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าคะ ตอนนี้กำลังจะทำยำปลาดุกฟูค่ะ”
“ไม่ล่ะครับ ผมแค่เข้ามาดูว่าใกล้เสร็จหรือยัง เพราะพวกข้างนอกเริ่มบ่นหิวกันแล้ว ผมไปล่ะครับ”
ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากจะมาเห็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมีย กำลังหัวหมุนกับงานครัวนัก เมื่อเข้ามาเห็นแล้วก็สะใจ พอใจ แล้วก็ออกไปคุยงานต่อให้เสร็จก่อนจะถึงเวลาอาหารเท่านั้น
ส่วนอีกคนไม่คิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อย รวมทั้งเวลา เขานั่งอยู่ข้างๆ สาวนามรัตติกาล ตักอาหารใส่จานให้อย่างเอาอกเอาใจ ท่ามกลางสายตาของสองเพื่อนที่เขียนคำโตๆ ว่า ‘ทำไมเป็นแบบนี้’
“คุณหนึ่งเอาผัดผักมั้ยครับ”
รหัทนั่งข้างๆ รีบเสนอขึ้น เมื่อเห็นเมียเพื่อนเอาแต่นั่งกินเงียบๆ ไม่แสดงกิริยาใดๆ ต่อการกระทำของสามีสักนิด
“ไม่เป็นไรค่ะคุณเปิ้ล หนึ่งตักถึงค่ะ”
ปราณปริยาวดีหันไปยิ้มให้ ก่อนตอบปฏิเสธ ด้วยเกรงจะไม่เหมาะสม อีกทั้งแม่สามีก็นั่งอยู่หัวโต๊ะ เกรงว่าจะถูกตำหนิเอาเปล่าๆ
“ไม่ต้องเกรงใจครับ เดี๋ยวผมตักให้นะมันอยู่ไกลคงจะตักไม่ถึง”
แต่รหัทก็ไม่ฟัง รีบตักมาใส่จานให้ทันที
“มิ้นท์! ลองชิมปลานึ่งบ๊วยสิ ฝีมือป้าสุอร่อยไม่มีใครเกินเลยล่ะ”
อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ รีบเอาอกเอาใจคนข้างๆ ทันที เพื่อหวังจะให้คนตรงหน้าได้เจ็บใจเล่น แต่ผิดถนัด ที่ไม่มีอะไรผิดปกติบนใบหน้าขาวสวยนั้นเลย
รวมทั้งเวลาที่เขาส่งเพื่อนๆ ขึ้นรถตรงหน้าบ้าน เสร็จแล้วโอบเอวคู่นอนโดยไม่สนใจเมียที่เดินมาส่งเพื่อนของเขาตามมารยาทเลยสักนิด
“ขึ้นห้องเถอะมิ้นท์ ผมเหนื่อยจะแย่ อยากนอนกอดมิ้นท์ให้หายเหนื่อยหน่อย”
ปราณปริยาวดีไม่ได้สะทกสะท้านกับประโยค ที่ดูเหมือนเขาจะเปล่งให้ดังกว่าปกติเพื่อหวังจะให้เข้าหูคนข้างหลังเลยสักนิด แต่กลับเดินเลี่ยงเข้าครัว แทนการตามคนทั้งสองขึ้นบันไดไป
อีกทั้งก็จะได้ถามสุดาถึงเมนูวันรุ่งขึ้นด้วย พอได้คำตอบและกะเวลาให้เขาขึ้นห้องแล้ว จึงได้เดินออกมาพร้อมสุดา
และรีบขึ้นบันไดไป ส่วนสุดาได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ ตามด้วยความไม่เข้าใจในการกระทำของเจ้านายหนุ่มนัก
ตอนศึกสายเลือด
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับท่านประธาน รับรองว่ารายได้ในไตรมาสนี้ สาขาที่ผมรับผิดชอบ ไม่ว่าจะในไทยหรือต่างประเทศ ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าแน่นอนครับ จะห่วงก็แต่สาขาอื่นที่ผมไม่ได้ดูแลมากกว่า ว่าจะทำได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้หรือเปล่า ตอนนี้ยังมียอดเดินไม่ถึงครึ่งเลยนี่ครับ”
ภัคพลให้ความมั่นใจกับประธานและผู้บริหารในห้องประชุม ที่จ้องมองและรอคำตอบจากปากเขาเป็นตาเดียวกัน แถมยังพาดพิง กับชายตาไปหาคู่แข่งแล้วส่งยิ้มเยาะเย้ยอยู่ในทีให้
และนั่นทำให้พาทิศหันไปหาลูกชายคนแรก ด้วยสายตามีคำถาม แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าลูกประสบปัญหา แต่เขาก็ต้องรักษาความยุติธรรมให้ลูกอีกคนด้วย แม้จะไม่ชอบนิสัยคอยเสียบคอยแทงอยู่บ้าง