ตอนที่ 6

1403 คำ
ห้องนอนของทอรุ้ง หน้าประตูห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ ประตูไม้บานใหญ่สีโอ๊คถูกมือผลักเข้าไปเบาๆ นมช้อยและทอรุ้งก้าวข้ามธรณีประตูตามกันมาช้าๆ “โอ้โฮ!...ห้องใหญ่โตมากเลยค่ะ”  ทอรุ้งตะลึง พลางกวาดสายตาสำรวจไปรอบๆห้อง ทั้งห้องหวานไปด้วยสีชมพูอ่อนสลับขาว บ่งบอกว่าเป็นห้องของผู้หญิงชัดเจน ข้าวของเครื่องใช้ถูกตระเตรียมเอาไว้พร้อมเพรียง เตียงนอนไม้กว้างใหญ่ ผ้าปูถูกสีขาวครีมขึงตึงแตะแต้มเอาไว้ด้วยลวดลายของดอกเดซี่สีขาวพราวเต็มผืน รอบเตียงมีเสาไม้กลึงกลมทั้งสี่ด้าน มุ้งโปร่งบางถูกรวบรั้งและผูกเอาไว้ที่เสาไม้ ชายม่านที่บานหน้าต่างโชว์ระบายลูกไม้ชั้นดีที่สั่งเข้ามาจากอังกฤษ แลเห็นลูกไม้ระย้าย้วยออกมาอย่างสวยงามจากชายม่าน “ถูกใจไหม?” นมช้อยถาม “ถูกใจที่สุดเลยค่ะ แต่ออกจะใหญ่โตเกินไปด้วยซ้ำสำหรับหนู ถ้าจะเป็นห้องที่เล็กกว่านี้ หนูก็ไม่มีปัญหานะคะ” เด็กสาวตอบ “ถูกใจก็ดีแล้ว…ห้องเล็กกว่านี้ไม่มีหรอกค่ะ สำหรับที่คฤหาสน์หลังนี้” นมช้อยตอบสั้นๆ ก่อนจะก้าวนำเด็กสาวไปยังหน้าต่างเหนือเตียงนอน   ที่ภายนอกหน้าต่าง ลำแสงสุดท้ายของแดดยามเย็นที่ทอดทอลงมากระทบกับบานกระจกที่หน้าต่าง  ดึงดูดให้ทอรุ้งก้าวไปตามลำแสงที่สาดผ่านบานหน้าต่างนั้นช้าๆ มือน้อยๆ ผลักบานหน้าต่างออกเบาๆ วูบแรก…รู้สึกถึงสายลมที่พัดเข้ามาลูบโลมใบหน้า เธอชะโงกออกไปสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ที่พัดพามากับสายลมเย็นที่โชยเข้ามา ใบหน้าแช่มช้อยสูดหายใจแรงลึกรับกลิ่นหอมของดอกไม้เอาไว้เต็มอก “สวนดอกไม้จริงๆด้วย!” ทอรุ้งอุทานออกมาด้วยความตกใจ  ทอดสายตาลงไปที่แปลงดอกไม้เบื้องล่าง กุหลาบที่กลางสวนหลากสีสัน อวดดอกสะพรั่งพราวอยู่กลางทุ่งหญ้าเขียวขจีที่แลไกลๆเหมือนกับผืนพรมสีเขียวผืนใหญ่ “คุณไรอันเลือกห้องนอนที่อยู่ใกล้กับสวนดอกไม้…เพราะเดาว่าเด็กสาวอย่างหนูจะต้องชอบ”  นมช้อยกล่าวเบาๆ ดีใจที่เห็นเด็กสาวแสดงอาการตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่างที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ ทอรุ้งรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนว่ามันเป็นเหมือนความฝันมากกว่าจะเป็นความจริง มือเล็กๆ ของเด็กสาวหยิกที่ต้นแขนของตัวเองเบาๆ ความเจ็บช่วยยืนยันว่าสิ่งที่สายตาตะลึงลานของเธอทอดมองดูอยู่นั้นคือความจริง ‘เธอไม่ได้ฝันไปหรอกหรือ…ทอรุ้ง’ เด็กสาวถามย้ำตัวเองอยู่ในใจ  นมช้อยชำเลืองมองดูความปรีดาของเด็กสาวด้วยสายตาพึงพอใจอีกครั้ง หวังว่าคงใช้เวลาไม่นานนักที่หญิงสาวจะปรับตัวให้ลืมเรื่องราวความเศร้าในอดีต นมช้อยสนทนากับทอรุ้งอยู่ครู่ใหญ่ พอให้เด็กสาวได้คุ้นเคยกับห้องนอนและสภาพแวดล้อมใหม่ นมช้อยแนะนำถึงพื้นที่ส่วนต่างๆ ของคฤหาสน์หลังใหญ่ให้ทอรุ้งฟังอย่างคร่าวๆ อะไรที่ถือเป็นกฎระเบียบเคร่งครัดที่ควรต้องระมัดระวัง ทั้งเรื่องเวลารับประทานอาหารเช้า เวลารับประทานอาหารเย็น ตลอดจนเรื่องมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ที่ไรอันได้ฝากให้เพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงของประเทศให้เป็นธุระดูแลให้  เด็กสาวพยักหน้าตามนมช้อยหงึกๆ รู้สึกได้ว่าชีวิตในคฤหาสน์หลังนี้ช่างเต็มไปด้วยกฎระเบียบมากมายที่เธอควรรู้ แต่ทุกอย่างที่นมช้อยอธิบายก็ไม่มีสิ่งใดน่ากังวลมากไปกว่า ‘คุณไรอัน’ ผู้เป็นเจ้าของบ้านซึ่งดูท่าทางจะเป็นผู้ชายที่เคร่งครัดกับกฎระเบียบเอามากๆ ‘หรือไม่พี่ไรอันก็คงหัวโบราณ และเจ้าระเบียบน่าดู!’ เด็กสาวคิด คืนนั้นนมช้อยอยู่เป็นเพื่อนจนกระทั่งทอรุ้งอาบน้ำเสร็จ สายตานมช้อยที่ได้เห็นเรือนร่างของเด็กสาวที่แม้จะซ่อนสนิทอยู่ภายใต้ชุดนอนซาตินสีครีมเนื้อลื่นบางเบาที่แม้จะค่อนข้างมิดชิด ทว่าเมื่อแรงลมจากบานหน้าต่างที่พัดมากระทบเข้ากับเรือนร่างของเด็กสาว ความโค้งเว้าของสรีระตามแรงลมที่ลู่ไล้เนื้อผ้าก็คัดเน้นทรวดทรง สัดส่วนของความสาวจนเด่น แลเห็นเนินหนั่นนูนอูมอร่ามตา จนนมช้อยนึกสงสัยในวัย 18 ปีของทอรุ้งที่เธอดูเป็นสาวเกินอายุที่แท้จริง “หนูอายุเท่าไรนะ?” นมช้อยถาม  ขมวดคิ้วเพราะความสงสัยไม่คลายแคลง จากสิ่งเย้ายวนใจที่ซุกซ่อนเอาไว้ในเรือนกายของเด็กสาวตรงหน้า “18 ปีค่ะ” เด็กสาวตอบ ทั้งที่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนมช้อยจึงตั้งคำถาม นมช้อยได้ฟังคำตอบก็ขมวดคิ้ว ทอดสายตามองอย่างคนมีประสบการณ์ ไม่ต้องสงสัยเลยถึงเรือนร่างที่ซ่อนรูปได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจของเด็กสาวที่เติบโตเป็นสาวได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติติง  เด็กสาวที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอมีเรือนร่างเป็นทรัพย์ ทรวงอกอวบอิ่ม รับด้วยหน้าท้องแบนราบก่อนจะไล่ลงมาเป็นเอวคอดและเชื่อมต่อด้วยส่วนที่ผายออกไปเป็นสะโพกกลมกลึงด้วยวัยเพียงสิบแปดปี ความเย้ายวนของเรือนร่างเด็กสาวผู้นี้มี เป็นเรือนร่างที่นมช้อยเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนแม้จะเคยเห็นมาก็มากในหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันเมื่อครั้งอดีต นมช้อยอดคิดไม่ได้ว่า… ‘หากสายตาที่กำลังจับจ้องเรือนร่างภายภายใต้ชุดนอนซาตินบางๆอยู่นี้คือสายตาของไรอัน...จะเป็นอย่างไร?’ “คุณไรอันใจดีไหมคะนมช้อย?” “ใจดีสิคะ...ถ้าหนูทำตัวดี” นมช้อยตอบ เด็กสาวคิดตาม ก่อนจะกล่าวต่อ “แสดงว่าดุ!”   เด็กสาวสรุปเอาเอง  นมช้อยไม่ตอบอะไร นอกจากยิ้มเพราะนึกขำในความอยากรู้ของเด็กสาวที่มีต่อผู้ปกครองคนใหม่ “คุณไรอันเป็นผู้ชายหัวโบราณใช่ไหมคะ?”  เด็กสาวถามอีก นมช้อยยังคงยิ้มและไม่ตอบอีกเช่นเคย “คุณไรอันคงหน้าตาดุพิลึก” เด็กสาวยังไม่หยุดสงสัย  นมช้อยเกือบกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่  ก่อนจะตอบเพียงเบาๆว่า “พรุ่งนี้เช้า! หนูก็จะรู้ทุกอย่างด้วยตัวของหนูเองแหละค่ะ” นมช้อยตอบด้วยคำตอบที่ทำให้เด็กสาวต้องเอาไปคิดต่อทั้งคืน  “ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนหนูค่ะ” เด็กสาวกล่าวเบาๆด้วยน้ำเสียงใส นมช้อยลูบศีรษะของทอรุ้งเบาๆด้วยสายตาเอ็นดู ก่อนจะเดินจากมาด้วยแววตาครุ่นคิด ‘เด็กผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความสวย สดใส และน่ารักขนาดนี้ คงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้คุณไรอันเอ็นดูเธอ’     ยามเช้าที่โต๊ะอาหาร ไรอันกวาดสายตาปราดไปมาเพียงผ่านๆ บนหน้าหนังสือพิมพ์รายวันช้าๆ ไรอันลงมาถึงโต๊ะอาหารก่อนเวลาอาหารเพราะตื่นเช้า แม้เมื่อคืนจะกลับดึกก็ตาม ครู่เดียว ที่บันไดหินอ่อนวนเกลียวอีกด้านที่ทอดลงมาจากชั้นสองของบ้าน  ทอรุ้งปรากฏกายขึ้นช้าๆ มือน้อยเกาะราวบันไดลงมาด้วยอาการเกร็งน้อยๆ สีหน้าและแววตาพยายามซ่อนความประหม่าเอาไว้ เมื่อแววตาของไรอันจ้องมองมาที่ตัวเธอไม่กระพริบ จนเด็กสาวรู้สึกได้ว่าเธอมีอะไรที่แปลกประหลาดไปจากเด็กผู้หญิงคนอื่นๆนักหรืออย่างไร? ในสายตาของคุณพี่ไรอัน คนที่เธอกำลังจะแนะนำตัวกับเขาในฐานะที่พี่ไรอันเป็นผู้ปกครอง...ที่กำลังจับจ้องมองดูเธออย่างตกตะลึงพรึงเพริด “นี่หรือ!...เด็กสาวที่ทนายประภาษเป็นคนไปรับมาเมื่อวาน?” ไรอันรำพึงขึ้นมาลอยๆ หนังสือพิมพ์ที่อ่านหลุดจากมือโดยไม่รู้ตัว นมช้อยอมยิ้ม…ก้มไปเก็บหนังสือพิมพ์ขึ้นมาจากพื้น  พอดีกับที่ทอรุ้งก้าวลงมาจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม