5
อ้อมแขนซาตาน
“คงจะเป็น...เทวดาประจำตัวเธอละมั้ง” ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้ามาตอบกลับเธอใกล้ ๆ เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ร้อนระอุ
ลิเดียหลบสายตาที่ดุดันคู่นั้นทันที เธอรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่นเทาไปหมด แม้จะหายใจหรือกลืนน้ำลายเธอยังไม่กล้าจะทำเลยด้วยซ้ำในตอนนี้ ลิเดียเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าคนตรงหน้ามาดีหรือร้ายกันแน่
“ถ้าฉันมาช้าไปอีกนิด เธอคงได้เจอหน้าพ่อแม่เธอแล้วแน่ ๆ” ร่างสูงยกเท้าเขี่ยร่างไร้วิญญาณของคนที่พยายามจะฆ่าเธอ ไล่ร่างพวกมันกลิ้งตกลงบันไดไปทีละขั้น เสียงกระแทกของร่างไร้วิญญาณดังสะท้อนก้องไปทั่วทุกชั้น
“ฮะอื้อ!” ลิเดียยกมือปิดปากแน่น พยายามหันหน้าหนีไม่กล้ามองภาพอันน่ากลัวตรงหน้า ขาของเธอสั่นและก้าวไม่ออกเลย และเมื่อเธอตั้งสติได้เธอก็เหลือบไปทางลูกน้องคนสนิทของพี่ชายทันที
ดินไม่ได้ถูกยิง แต่เขานอนหมดสติอยู่กับพื้นเพราะเสียเลือดไปมาก จากบาดแผลที่บริเวณขานั้น
“พะ...พี่ดิน” ลิเดียพยายามจะเดินตรงเข้าไปเรียกเขา แต่ในวินาทีที่เธอกำลังจะก้มตัวลงไป หญิงสาวก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาฉับพลัน ทุกอย่างมันพร่ามัวไปหมด จนเธอต้องรีบคว้าราวบันไดเอาไว้
“คนที่อ่อนปวกเปียกอย่างเธอ...ไม่น่าหนีรอดมาถึงที่นี่ได้เลยนะ” ร่างสูงใช้สายตามองดูเธอแบบหัวจรดเท้าก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ
“คุณเอง...ก็ต้องการจะฆ่าฉันเหมือนกันใช่ไหม?” ลิเดียเอ่ยถามเขาด้วยเสียงสั่นทั้งน้ำตา
“แล้วเธอ...อยากให้ฉันยิงตรงไหนล่ะ?” ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินตรงเข้ามาดันคนตัวเล็กชนเข้ากับฝาผนังอย่างเต็มแรง
แกร๊ก!! กระบอกปืนสีดำสนิทกดจ่อลงที่ตรงอกด้านซ้ายของเธอ ขณะที่หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา ขาของเธออ่อนแรงจนทรงตัวไม่อยู่
“ฟิ้ว...ฟิ้ว...ฟิ้ว” ริมฝีปากเรียวผิวปากเบา ๆ กระซิบเข้าที่ข้างแก้มของหญิงสาว
“...เฮ่อ” ลิเดียข่มตายืนตัวสั่นเทา เธอรู้สึกปวดหัวมาก ๆ และกดดันมากจนรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะวูบดับสนิทไปอีกครั้ง
ฟุ่บ!! หญิงสาวทิ้งตัวลงซบแผ่นอกของคนตรงหน้าไปอย่างไม่รู้ตัว
“เธอนี่มัน...ภาระฉิบหายเลย!” ร่างสูงส่ายหน้ามองหญิงสาวที่ซบอยู่คาอกด้วยท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
ไม่นานก็มีกลุ่มชายชุดดำอีกสามถึงสี่คนเดินเปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนกไม่น้อย เพราะมีซากศพของกลุ่มชายชุดดำอีกพวกหนึ่ง นอนตายเกลื่อนอยู่ที่พื้น
“พวกผมขอโทษที่มาช้าครับนาย!” ทั้งสี่คนรีบโค้งคำนับอย่างลนลานทันทีที่เห็นหน้าของเขา
“ช่างเถอะ จริง ๆ งานนี้มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับเลโอนาร์ดมากเท่าไหร่” เขายักไหล่ตอบกลับอย่างไม่ได้ใส่ใจ
“เดี๋ยวมึงสองคน...จัดการเก็บซากศพนี้ให้เรียบร้อย อย่าให้เรื่องมันบานปลาย กูขี้เกียจต้องเอาเงินยัดให้ใครอีก”
“ส่วนมึงอีกสองคน ลากไอ้เวรนี้ เอาตัวมันกลับไปรักษาต่อที่คฤหาสน์” เขาสั่งการลูกน้องไปด้วยเสียงแข็งกร้าว
“ครับนาย!” ทุกคนรีบทำตามคำสั่งของเขาทันที
หลังจากเขาสั่งการเสร็จก็กระชับอ้อมแขนอุ้มคนตัวเล็กและพาเดินผ่านร่างไร้วิญาณของชายชุดดำเหล่านั้นด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ออกจากที่นี่ในทันที
ณ คฤหาสน์เลโอนาร์ด
เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ ริมทะเลฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะฮ่องกง คฤหาสน์นี้สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างศิลปะตะวันตกและจีนโบราณ
แวดล้อมด้วยสวนสวยและต้นไม้น้อยใหญ่ รายล้อมด้วยกำแพงสูง คฤหาสน์ทั้งหมดถูกออกแบบให้สะท้อนถึงอำนาจและอิทธิพลของตระกูลเลโอนาร์ด
ห้องแต่ละห้องถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู โคมไฟระยิบระยับ พรมทอมือจากต่างประเทศ พร้อมทิวทัศน์ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา กับอาณาจักรของตระกูลเก่าแก่ที่รวยเป็นหมื่น ๆ ล้านนี้
ลิเดียค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นท่ามกลางเตียงผ้าไหมนุ่มสบาย เธอมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงง
“สวรรค์เหรอ?” เธอยกมือลูบเบา ๆ ที่เนินอกด้านซ้ายของตัวเอง แต่เธอก็พบว่าเสียงหัวใจมันยังคงเต้นอยู่นั่นหมายความว่าเธอยังไม่ได้ตายและที่นี่ก็คงจะไม่ใช่สรวงสวรรค์ใด ๆ
“ที่นี่ที่ไหนกันนะ” เธอพึมพำเบา ๆ สายตาสอดส่ายไปรอบห้อง แสงสว่างจากหน้าต่างข้างเตียงสะท้อนวิวทะเลกว้างใหญ่ แน่นอนว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ และดูจากวิวข้างนอกนั้น แน่นอนที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทยอีกด้วย
ลิเดียค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง เธอรู้สึกตัวได้ว่าทุกอย่างในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นเพียงฝันร้าย มันคือเรื่องจริงทั้งหมด การหนีเอาชีวิตรอด จากการถูกไล่ล่าที่โหดเหี้ยมนั้น
“ฮ่องกง” เมื่อนั่งคิดอยู่นานจนพอได้สติขึ้นมาบ้าง เธอก็จำได้ว่าเธอขึ้นเครื่องบินส่วนตัวมายังเกาะฮ่องกง ก่อนจะถูกไล่ล่าตามเอาชีวิต และมีชายลึกลับคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้
ลิเดียค่อย ๆ กวาดสายตามองไปยังห้องพักที่เธออยู่ หญิงสาวพยายามตั้งสติพลางสูดลมหายใจลึก ๆ และพยายามรวบรวมสติว่าเธอควรจะทำยังไงต่อดีในตอนนี้
เธอค่อย ๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียง แม้จะยังเจ็บระบมไปทั้งตัวก็ตาม คนตัวเล็กประคับประคองร่างกายที่บอบช้ำเดินตรงไปยังประตูบานใหญ่นั้น และค่อย ๆ เปิดมันออกอย่างช้า ๆ
‘พี่ดิน…เขาต้องไม่เป็นไร’ ลิเดียคิดในใจเพราะตอนนี้เธอมีแค่ดินคนเดียวจริง ๆ ที่ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน
เธอมองดูโถงทางเดินที่ตกแต่งด้วยพรมแดงหรูหราและโคมไฟระยิบระยับตามทางเดิน ทุกอย่างเงียบสงัด ราวกับไม่มีใครอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้
ลิเดียเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จุดหมาย แต่ทุกย่างก้าวของเธอเต็มไปด้วยความระแวดระวัง พื้นที่ในคฤหาสน์มันกว้างมาก ๆ และก็มีหลายห้องจนเธอไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าจะตามหาพี่ดินได้จากไหนและ...
สายตาของเธอก็ดันสอดส่องเข้าไปยังประตูบานหนึ่งที่แง้ม ๆ เอาไว้ อย่างปิดไม่สนิทดีนัก
“ซี้ด...อ๊า...อะ” เสียงครางกระเส่านั้นทำให้เธอชะงักฝีเท้าในทันที
“อ๋า...เชี้ยแม่ง...โอ่ว ๆ” เสียงทุ้มต่ำของอีกคนดังตอบโต้กลับ แต่เสียงคล้ายจะเป็นผู้ชายคนละคนกับตอนแรก
สวบ ตับ ตับ ๆ ๆ
“อ็อก ๆ อื้อ...อื้อ ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้ว” เสียงของหญิงสาวดังแทรกขึ้นมาเป็นระยะ ๆ สิ่งที่เห็นทำเอาลิเดียก้าวขาไม่ออกเพราะเป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนแผ่อยู่กลางเตียงมีชายอีกสองคนกำลังร่วมมีอะไรกับเธออย่างดุเดือด
ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง ลิเดียสะดุ้งหันกลับไป และพบกับชายหนุ่มร่างสูงคนเดิมแต่ในตอนนี้เขาอยู่ในชุดคลุมสีดำตัดด้วยรอยปักเย็บรูปสิงโตทอง ซึ่งในวินาทีที่เจอหน้า ลิเดียก็จำแววตาที่ดุดันของเขาได้ในทันที
“คะ...คุณ?” เธอหน้าเสียไปทันที
“ใครอนุญาตให้เธอออกมาเดินเพ่นพ่านไม่ทราบ?” เสียงทุ้มต่ำเย็นเยียบของเขาดังขึ้นพร้อมแววตาดุ ๆ ที่จ้องมองมาที่เธอทำเอาคนตัวเล็กรีบก้าวถอยหลังไปทันที