4
พลิกชะตาชีวิต
ลิเดียรู้สึกเหมือนตัวเองลอยอยู่ในความมืดมิด เสียงรอบข้างคล้ายจะเลือนหายไปพร้อมกับลมหายใจที่ติดขัด ภาพสุดท้ายที่เธอจำได้คือแรงกระแทกจากการพลิกคว่ำของรถกันกระสุน ก่อนที่ทุกอย่างจะดับสนิท
ว่าแต่…ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? …ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?
“พะ...พี่ลีออง” หญิงสาวเอ่ยเรียกหาพี่ชายของเธอเป็นคนแรกในวินาทีที่ลืมตาตื่นอย่างช้า ๆ เสียงหัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว
ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ปรับโฟกัสได้ทีละน้อยจากพร่ามัวก็ค่อย ๆ เริ่มชัดเจนมากขึ้น ภาพของเพดานสีขาวแปลกตาปรากฏขึ้นตรงหน้า บนเตียงที่เธอนอนมีแรงสั่นสะเทือนเป็นระยะ ๆ
กลิ่นยาปฏิชีวนะผสมกับกลิ่นของเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำทำให้เธอรู้สึกสะลึมสะลือ
“คุณหนู ๆ” เสียงของใครบางคนเรียกเธอเบา ๆ ลิเดียพยายามจะลุกขึ้นจากเตียงนอน แต่ร่างกายกลับหนักอึ้งและเจ็บแปลบไปทั้งตัว
ดิน ลูกน้องคนสนิทของพี่ชายที่ตอนนี้ใบหน้ามีรอยฟกช้ำไม่ต่างกัน เขามีแผลโดนยิงที่ต้นแขน และขาก็โดนเหล็กเสียบมาจนแทบจะไม่สามารถลุกจากเตียงได้ แต่เขาก็ยังคงกัดฟันลุกเดินตรงเข้ามาหาเธอเพื่อปลอบประโลมคุณหนูของเขา ให้สงบลง
“พี่ดิน?” เสียงของเธอแหบแห้ง เธอเหลียวมองไปรอบ ๆ สายตาที่เริ่มชัดเจนขึ้นเผยให้เห็นว่าเธอกำลังอยู่ในห้องโดยสารแคบ ๆ บนเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่ง และมีเพียงผู้ชายวัยกลางคน กับหญิงสาวอีกคนยืนประกบเธออยู่ข้าง ๆ เตียง แต่พอเหลือบเห็นสเตโทสโคปที่ห้อยอยู่ที่ลำคอ เธอก็พอเข้าใจทันทีว่าสองคนนี้คือแพทย์กับพยาบาลนั่นเอง
“คุณหนูได้รับแรงกระแทกจากอุบัติเหตุที่รุนแรงครับ”
“เท่าที่ตรวจดูแบบคร่าว ๆ น่าจะโชคดีที่ไม่มีส่วนไหนหัก”
“แต่การกระทบกระแทกแรงแบบนี้อาจส่งผลต่อสมองและอวัยวะภายในได้ ดังนั้นเราจำเป็นต้องพาคุณหนูของคุณไปตรวจสแกนสมองและร่างกายอย่างละเอียดทันทีที่ถึงโรงพยาบาล”
“…” ลิเดียแทบไม่ได้รับฟังคำวินิจฉัยใด ๆ ของหมอเลยแม้แต่คำเดียว ตอนนี้ใจของเธอห่วงและพะวงหาแต่พี่ชายคนเดียวเท่านั้น ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือเขาถูกยิงถึงสองที่ ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าตอนนี้เขาจะเป็นหรือตาย
“พี่ลีอองอยู่ไหนคะ” ลิเดียพยายามพูดออกมาด้วยความกังวล แต่ก็ถูกอาการเจ็บที่ข้างในลำตัวขัดขวางจนต้องกัดฟันทน
“เดียต้องการเจอพี่ลีอองเดี๋ยวนี้เลย” เธอมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง แต่เครื่องบินทั้งลำมีเพียงแค่เธอ ดินและหมอกับพยาบาลนอกเครื่องแบบแค่สี่คนเท่านั้นจริง ๆ
“นายจะไม่เป็นไรครับ...นายจะไม่เป็นไร” ดินเอ่ยตอบพร้อมกับจับมือเธอเบา ๆ เพื่อปลอบใจ
“...แต่ตอนนี้คุณหนูต้องรักษาตัวให้หายดีก่อนนะ”
“มาถึงขนาดนี้แล้ว พี่ดินบอกความจริงเดียมาไม่ได้เหรอคะ?” ลิเดียปาดน้ำตาและถามกลับไปตรง ๆ
“เรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น...มันคืออะไร ทำไมมีคนมาไล่ยิงเราแบบนี้” ลิเดียร้องไห้ไปพูดไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ดินเงียบและนั่งก้มหน้าอยู่สักพักใหญ่ ๆ
“พี่ดินพูดสิ...บอกความจริงเดียมา!” ลิเดียเขย่าแขนของเขาอย่างคาดคั้น
“คือ...มีคนตั้งใจจะลอบสังหารคุณหนู กับนายน่ะครับ” คำตอบของลูกน้องคนสนิทตรงหน้าทำเอาลิเดียตกใจสุดขีด หัวใจเธอเต้นรัว เธอพยายามจะลุกขึ้นจากเตียง แต่แค่ขยับตัวก็ทำให้ร่างกายเจ็บแปลบจนแทบไม่ไหว
“เขาจะฆ่าเดียกับพี่ลีอองทำไมเหรอคะ?”
“เรื่องมันยาวมากนะครับ เอาไว้คุณหนูหายดีเมื่อไหร่ แล้วผมจะเล่าให้ฟังทั้งหมดแน่นอนครับ” ดินพูดด้วยใบหน้าที่ซีด ๆ ขาเองก็เสียเลือดไปมาก และมีอาการหนาวสั่น จับไข้ แต่ก็ยังคงพยายามปลอบเธอให้สงบลง และปกป้องเธอด้วยชีวิตจริง ๆ ตามคำสั่งของลีออง ผู้เป็นเจ้านายของเขา
“ยานอนหลับมาที” หมอหันไปกระซิบบอกกับทางพยาบาล เพราะลิเดียในตอนนี้มีอาการเครียดและเริ่มคลุ้มคลั่ง เธอร้องไห้อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ขณะที่มือเท้าของเธอเกร็งไปหมด ซึ่งมันไม่ส่งผลดีต่อตัวของเธอสักเท่าไร
“อื้อ ๆ ๆ” น้ำตาเริ่มเอ่อคลอในดวงตาของลิเดีย เธอพยายามจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่ก็ล้มลงเช่นเคย เธอร้องไห้ออกมาไม่หยุด ความเครียดและความตกใจกลัว มันผสมปนเปกันไปหมด จนร่างกายของเธอมันแทบรับไม่ไหวแล้ว
“พี่ลีออง...” ลิเดียรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะถล่มลงมา ความหวังเพียงอย่างเดียวที่เธอยึดมั่นเอาไว้คือพี่ชายของเธอ ที่ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นตายร้ายดียังไง
“คุณหนูครับ ตอนนี้รักษาตัวเองก่อนเถอะนะครับ คุณเองก็บาดเจ็บสาหัสมากนะ” คุณหมอที่ยืนมองอยู่นานตัดสินใจพูดขึ้นพร้อมกับหันไปบอกกับทางพยาบาลให้ฉีดยาบางอย่างเข้าไปในตัวของเธอ
“ไม่...ไม่ฉันไม่อยากหลับ...ไม่ยะ...อยาก” ลิเดียรับรู้ทันทีว่ายาที่ฉีดคือยานอนหลับ เพราะเธอรู้สึกง่วงและเพลียมาก จนแทบลืมตาไม่ได้ พยาบาลสาวที่อยู่ใกล้รีบเข้ามาช่วยพยุงตัวเธอ