คนไม่ใช่ผิดเสมอ ตอนที่ 1

1322 คำ
ตะวันยอแสงกับขอบฟ้า บ่งบอกเวลาโพล้เพล้จวนที่ดวงอาทิตย์จะลาลับ ร่างบางบนที่นอนขนาดคิงไซส์ขยับตัวตื่นด้วยความเมื่อยขบและเจ็บปลาบไปทั้งร่าง ค่อยๆ ปรือตาเหมือนผีเสื้อกำลังพยายามกระพือปีกหัดบิน ณัฏฐนิชพยายามเคลื่อนไหวตัวเองเพื่อจะลุกขึ้น แต่แล้วความร้าวระบมไปทั่วทั้งสรรพางค์ก็โจมตีเธออย่างหนัก พยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอเป็นเช่นนี้ก็จดจำได้ว่า เมื่อคืนอคิราห์สามีของเธอเองได้กระทำการอันป่าเถื่อนทั้งร่างกายและจิตใจ ซ้ำยังวางยาปลุกเซ็กซ์ทำให้เธอเป็นเหมือนผู้หญิงร่านสวาทไม่มีผิด ดวงตากลมโตจึงเริ่มแดงก่ำน้ำตาแห่งความอัปยศและเสียใจไหลรินเป็นทางอาบสองแก้มนวล หญิงสาวใช้ความพยายามอีกครั้งที่จะพาตัวเองลุกจากที่นอนนี้เสียที เธอยันตัวนั่งด้วยความยากลำบากเนื่องจากความเจ็บปวดเข้าโจมตีเมื่อขยับกาย ผ้านวมผืนหนาคลุมทับอยู่บนอกร่นลงมากองอยู่บนตักเมื่อเธอทรงตัวนั่งได้สำเร็จ  ณัฏฐนิชก้มมองตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ทรวงอกขาวอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการเต้นของหัวใจเต็มไปด้วยร่องรอยต่างๆ จนแดงเถือกไปหมด เลยมาถึงหน้าท้องและตามโคนแขนที่เธอยกขึ้นดูอีกนับไม่ถ้วน   สามีของเธอช่างใจดำเหลือเกินกระทำการเยี่ยงสัตว์ป่าและเห็นเธอเป็นเพียงแค่เหยื่อที่รองรับอารมณ์ปรารถนาของเขา หญิงสาวจำเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี ในตอนที่เธอต้องผจญกับบทรักที่รุนแรงเมื่อคืนตลอดจนถึงรุ่งสาง เสียงเคาะประตูที่เธอได้ยินเปรียบเสมือนเสียงแห่งสวรรค์ก็ไม่ปาน ทันทีที่เขาผละออกจากร่างเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนและเพลีย เรียกได้ว่าสลบเหมือดไปเลยก็ว่าได้ อคิราห์ช่างมีกำลังมหาศาลในการลงสนามรัก เขาไม่มีผ่อนปรน ไม่มีหยุดหย่อนให้เธอได้พักแม้แต่นาทีเดียว จนหญิงสาวยังอดคิดไม่ได้ว่าคืนนี้เธอคงไม่รอดชีวิตไปจากกรงสวาทของเขาเป็นแน่ ผ้าห่มนวมถูกตวัดออกจากร่างกายเพื่อจะได้ลุกจากที่นอน ร่องรอยคราบแห่งความใคร่ที่เปื้อนเต็มที่นอนและตามร่องขา โคนขา ตอกย้ำจิตใจของเธอให้สะเทือนเข้าไปอีก เธอคือที่ปลดปล่อยสำหรับเขาเท่านั้นเมื่อความต้องการสิ้นสุดลง เขาก็ไปอย่างไร้วี่แวว ณัฏฐนิชปาดน้ำตาที่คลอแก้มครั้งแล้วครั้งเล่ากับความปวดร้าวทั้งกายและใจ เธอค่อยๆ ย่างเท้าลงพื้นและเดินไปห้องน้ำด้วยความยากลำบาก แต่ละก้าวเปรียบเสมือนมีมีดแหลมๆ คอยทิ่มแทงทั่วร่างกายสร้างความเจ็บปวดให้ยิ่งนักเมื่อชำระร่างกายเรียบร้อย ก็พบว่าผ้าปูที่นอนถูกเปลี่ยนและจัดอย่างเป็นระเบียบและหญิงสาวรู้สึกกระดากอายไม่น้อยกับหลักฐานที่ปรากฏให้พนักงานเห็น เธอคิดจะจัดเก็บมันด้วยตัวเองแต่ก็ช้ากว่า เมื่อจัดการแต่งตัวเรียบร้อยแล้วพนักงานของโรงแรมก็นำอาหารและยามาให้เธออย่างเคย แต่พนักงานคนนั้นกลับไม่ใช่อพิญญา เธอรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่ไม่ต้องทนมองหน้าผู้หญิงอีกคนของสามีตัวเอง ณัฏฐนิชพยายามฝืนตักอาหารเข้าปากได้เพียงไม่กี่คำเธอก็วางช้อนลงด้วยความเหนื่อยอ่อน จึงตัดสินใจทานยาและพาตัวเองมายังเตียงนอนเอนกายลงเพื่อพักผ่อนร่างกายและจิตใจที่แสนจะบอบช้ำ                  หญิงสาวลืมตาตื่นมาอีกทีก็ปาเข้าไปเช้าของอีกวัน ไม่นึกว่าเธอจะหลับนานขนาดนั้น ร่างกายที่อ่อนแอเป็นทุนเดิมกลับมีไข้สูงขึ้นมาอีก หลังจากนั้นเธอจึงต้องนอนซมอยู่อย่างนั้นถึงห้าวันเต็มๆ ตลอดระยะเวลานั้นเธอไม่เคยเห็นเงาของอคิราห์ย่างกรายเข้ามาอีกเลย เหมือนกับเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ที่สำคัญอพิญญาผู้หญิงอีกคนของเขาก็หายหน้าหายตาไปด้วย ใจเลยอดคิดไม่ได้ว่าทั้งสองจะอยู่ด้วยกันหรือเปล่า อคิราห์คงทิ้งเธอไว้ที่นี่และคงกำลังเริงรักกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ เพียงคิดได้เท่านั้นน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลอาบแก้มทุกครั้งไป ณัฏฐนิชทั้งน้อยใจ เสียใจ และเกลียดตัวเองยิ่งนักที่ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเอง ไม่ให้คิดถึงผู้ชายใจยักษ์ใจมารคนนั้นได้สักที สองวันต่อมาหลังจากที่หายป่วยดีแล้ว ณัฏฐนิชเริ่มออกมาเดินเล่นด้านนอกรีสอร์ตเพื่อคลายความเหงาหงอยให้เจือจางลงบ้าง เธอสังเกตได้ว่าอคิราห์ไม่ได้อยู่รีสอร์ตหลังนี้แล้วจริงๆ เพราะไม่เห็นเขาเข้าออกห้องพักที่อยู่ติดกันเลย เขาอาจจะไปอยู่กับผู้หญิงอีกคนที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีเธอคอยเป็นเสี้ยนหนามคอยขัดหูขัดตาให้เสียอารมณ์ หญิงสาวยังคงทอดน่องเดินบนสนามหญ้าด้วยใจหดหู่ “คุณผู้หญิงอยากไปเดินเล่นชายหาดไหมคะ” เสียงชลการณ์พนักงานของโรงแรมคนใหม่ที่มาดูแลเธอเอ่ยถามขึ้น “ชายหาดเหรอ อยากไปสิจ๊ะ ว่าแต่ฉันไปได้เหรอน้ำ” ณัฏฐนิชตอบรับด้วยความดีใจเธออยากลองไปเดินเล่นยังชายหาดสีขาวที่ทอดยาวเป็นทางโค้งสุดลูกหูลูกตาด้านล่างนั้นตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้าออกปากบอกใคร และไม่รู้จะลงไปจากรีสอร์ตที่อยู่สูงลิบบนภูเขานี้ด้วยวิธีไหนด้วย “ไปได้สิคะ คุณหายป่วยแล้วทำไมจะไปไม่ได้ เดี๋ยวน้ำจะบอกรถของโรงแรมให้มารับ คุณเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ เราจะไปด้วยกัน” ชลการณ์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตั้งแต่รับหน้าที่มาดูแลนายหญิงคนนี้เมื่อกว่าหนึ่งสัปดาห์ก่อน คงมีแต่วันนี้เท่านั้นที่ได้เห็นรอยยิ้มเล็กๆ น้อยๆ จากเธอ ด้วยหน้าที่และตำแหน่งแล้วชลการณ์เองรู้ว่าไม่ควรก้าวก่ายเรื่องของนาย เธอจึงไม่เคยพูดคุยเรื่องส่วนตัวกับณัฏฐนิชเลย จะคุยกันเรื่องสัพเพเหระทั่วๆ ไปเท่านั้น “ที่นี่มีรถคอยให้บริการลูกค้าลงไปด้านล่างด้วยเหรอจ๊ะ หรือว่าเฉพาะคนของที่นี่เท่านั้นถึงจะใช้บริการได้” ณัฏฐนิชชวนพนักงานสาวคุยเรื่อยเปื่อยขณะเดินกลับเข้าที่พัก   “เป็นรถให้บริการทั้งลูกค้าแล้วก็พนักงานค่ะ เพราะโรงแรมของเราตั้งอยู่บนเขาจึงต้องอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวค่ะ จะมีรถคอยรับส่งทั้งด้านล่างและบนนี้ทุกๆ หนึ่งชั่วโมง ตามจุดต่างๆ ที่ทางโรงแรมกำหนดไว้ค่ะ ส่วนของพนักงานจะมีเป็นช่วงตามกะที่พนักงานจะเข้างานค่ะ” ชลการณ์อธิบายให้นายสาวฟังคร่าวๆ “ส่งแค่นี้ก็พอค่ะ แล้วทีหลังห้ามเรียกคุณผู้หญิงอีกนะ บอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกรัญเฉยๆ” เมื่อถึงหน้าห้องพัก ณัฏฐนิชก็กล่าวเตือนพนักงานสาวที่ชอบลืม เธอบอกให้ชลการณ์เรียกชื่อเล่นเพราะดูเป็นกันเองดี แต่หญิงสาวก็มักเผลอลืมตัวเรียกคุณผู้หญิงเสียเต็มยศทุกครั้ง ณัฏฐนิชรู้สึกไม่ชอบกับตำแหน่งที่ใครๆ ตั้งให้เพราะคิดว่ามันไม่ได้เหมาะกับเธอแม้แต่น้อย และมันก็ไม่ได้มีไว้ให้เธอด้วย “ค่ะๆ คุณรัญ น้ำจะจำไว้ค่ะ เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงน้ำจะมาเรียกนะคะ” “จ้ะ...” ณัฏฐนิชยิ้มรับเป็นการตอบตกลง จากนั้นทั้งสองก็แยกกันเพื่อจะได้เตรียมตัวไปเดินเล่นชายหาด เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่ณัฏฐนิชเดินทางมาที่นี่แล้วได้ออกสู่โลกภายนอกกับเขาบ้าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม