@คอนโดปารดี
"อ้าวทำไมกลับมาเร็วจังลูกหรือว่าอยู่เวรแทนใครอีก?" ดวงดาวถามลูกสาวทันทีที่เห็นหน้าโดยไม่ได้สังเกตว่าใครมาด้วย
"คือแทนพี่แจงเค้าค่ะ ลูกพี่แกไม่สบาย" ปารดีตอบมารดาไปอย่างตรงไปตรงมา
"อ้าวคุณพิทก็มาด้วยหรือคะ แม่ไม่ทันสังเกต" ดวงใจรีบไหว้อีกคนทันทีที่มองเห็น
"ครับ พอดีจะไปรับคุณหมอมาส่งให้คุณแม่ กลายเป็นว่ารับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอยู่เวรต่อซ๊ะงั้น"
"อ้าว เหรอคะ/ ปริมแม่ทำกับข้าวเสร็จพอดี เดี๋ยวแม่ห่อให้ไปกินมื้อดึกนะลูก.. เอาน้องแบรี่ไปด้วยมั๊ย แม่เพิ่งเอาไปซักให้" ประโยคแรกดวงใจคุยกับว่าที่ลูกเขยประโยคหลังคุยกับลูกสาวซึ่งไม่รู้จะได้ยินกันรึเปล่าเพราะอีกคนอยู่ในครัวอีกคนอยู่ในห้องนอน
พิทยาได้แต่นั่งขำในขณะดูสองสาวต่างวัยทำอะไรอย่างรีบเร่ง
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสาวเจ้ารีบกินอาหารอย่างเร่งรีบ และถือกล่องอาหารสำหรับมื้อดึก แขนก็อีกข้างหนีบตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวเล็ก แขนอีกข้างก็หนีบผ้าห่มผืนเล็กเผื่อกลางคืนอากาศเย็น โดยมีสารถีหนุ่มใหญ่คอยถือชุดสำหรับเช้าวันถัดไปและสัมภาระอื่น ๆ ให้อีกประมาณนึง《เหมือนมาส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนประจำยังไงก็ไม่รู้ว่ะไอ้พิทเอ๊ย วาสนามึงอยากรักเด็กดีนัก》พิทยาได้แต่คิดในใจ
@โรงพยาบาล S
พอมาถึงโรงพยาบาลก็ได้สายตาเอ็นดูจากพี่ ๆ ป้า ๆ พยาบาลพากันทักทายด้วยอัธยาศัยไมตรีพลางรับไหว้ชายหนุ่มกันพัลวัล
"คุณหมอปริมไปพักเวรก่อนก็ได้ค่ะ ถ้ามีคนไข้เดี๋ยวป้าไปตามค่ะ เดินไปในครัวมีปาร์ตี้มะม่วงน้ำปลาหวานด้วยนะคะ เชิญได้เลยค่ะมะม่วงบ้านป้าเอง" พยาบาลรุ่นใหญ่เชื้อเชิญ
"ขอบคุณค่ะป้า หนูมีอาหารสำหรับมื้อดึกมาด้วยค่ะพอดีแม่หนูทำมาให้ เดี๋ยวทานด้วยกันนะคะ ส่วนคนที่มาส่งได้แต่ยืนล้วงกระเป๋ายิ้มน้อย ๆ มองสาวเจ้าอย่างอบอุ่น
"อ้าว พี่พิทคิดว่ากลับไปแล้วเสียอีกกลับได้แล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ ขับรถดีดีน๊า สวัสดีค่ะ" ปารดีขอบคุณอย่างจริงใจ
"อืมอยากกลับบ้านก็บอกนะ พี่มารับเราได้เสมอเลย" พิทยาพูดพร้อมกับลูบผมสาวเจ้าเบา ๆ อย่างละมุนสายตาจับจ้องที่ใบหน้าสวยคล้ายโลกนี้มีเพียงเราสองคน
อีกด้านพยาบาลรุ่นป้าจึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่า ป้าไม่ให้ใครมาเกาะแกะหลานสาวคนนี้ของป้าได้หรอกค่า ป้าจะดูแลให้อย่างดีเลย" พยาบาลวัยห้าสิบ-อัพเอ่ยขึ้น
"ครับ..ขอบคุณครับ..งั้นผมลาเลยนะครับ" พิทยาเอ่ยลาแล้วหันหลังกลับมุ่งหน้าไปที่รถยนต์ส่วนตัวแล้วขับขี่ออกไปยังบ้านของตนเพื่อพักผ่อน แต่อีกใจก็อยากให้คนตัวเล็กโทรบอกให้มารับเขาจะรีบมาในทันที
....................................
อีกด้านมนมุมมืด
"ตามไว้นะ ดูแลอยู่ห่าง ๆ อย่าให้รู้ตัว"
"ครับท่าน แล้วทางโรง'บาลล่ะครับ"
"ก็แบ่งกำลังเป็นสองส่วนดูแลทั้งคู่"
"ได้ครับท่าน"
ทางด้านคนที่อยู่เวรก็เจอปัญหาสารพัน แต่ก็ยังดีที่ไม่มีถึงขนาดหนักหนาสาหัสจนเกินไปถือว่าบุญดีอยู่สำหรับแพทย์จบใหม่อย่างเธอ
@ห้องตรวจ
"เชิญคนไข้คนต่อไปได้เลยค่ะป้า"
"ค่ะ คุณหมอ"
สักพักก็มีคนชราวัยหกสิบกลาง ๆ ถูกเข็นเข้ามาผู้ที่เข็นน่าจะเป็นญาติหรือคนใกล้ชิด
"ขอเชิญคุณปราง นฤนาทปรีดา ที่ห้องตรวจค่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณหมอ" หญิงชราวัยหกสิบห้าที่ดูแก่เกินอายุจริงไหว้คุณหมอด้วยความเลื่อมใสในวิชาชีพถึงแม้ผู้นั้นจะอายุน้อยกว่าก็ตาม
"สวัสดีค่ะคุณปราง มีอาการไม่สบายตรงไหน บอกหมอได้ไหมคะ"
"ปวดเมื่อยตัวไปหมดค่ะ ม่ายมีแรง/คือคุณนายเธอไม่ยอมกินข้าวค่ะ พยายามปรับอาหารแล้วเธอก็ไม่ทานค่ะ ดิฉันเป็นพยาบาลพิเศษที่เพื่อนน้องชายของผู้ป่วยจ้างมาดูแลเธอค่ะ" ประโยคแรกคนป่วยพยายามเค้นคำพูดเพื่อให้ข้อมูลการตรวจแก่คุณหมอสาวประโยคหลังเป็นพยาบาลพิเศษที่ดูแลเธอเป็นคนให้ข้อมูล
"เหรอคะ อืม...ทำไมไม่ทานละคะคุณป้า กลืนไม่ได้หรือยังไงค๊า..ไม่ทานก็ไม่มีแรงน๊า.. ไม่งั้นหมอจะให้นอนโรง'บาลให้น้ำเกลือดีมั๊ย..ผอมไปเยอะเลย น้ำหนักก็ต่ำกว่าเกณฑ์เกินไป ไม่ดีนะคะ" ปารดีพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับจับมือคนไข้บีบเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ
อีกด้านผู้ที่ถูกจับมือรู้สึกมีแรงพลังขึ้นมาดื้อ ๆ จึงเงยหน้ามองคุณหมออย่างเต็มตาแต่ต้องตกใจเมื่อเธอรู้สึกคล้ายเห็นหน้าปราบ น้องชายผู้ล่วงลับซ้อนอยู่ในดวงหน้าของคุณหมอสาว
"คุณหมอสวยน่ารัก แถมจายดีอีก ป้ามีแรง..." คนป่วยพยายามพูดจากใจจริงแม้จะพูดอย่างลำบากกว่าคนปกติก็ตาม
"ฮิฮิฮิ กลัวเข็มหรือคะถึงได้มีแรงขึ้นมาทันที่เลย ถ้ากลับไปแล้วมีอาการอีกจะทำไง ก็ต้องกลับมาอีกเดินทางเหนื่อยแย่เลย นอนนี่สักคืนดีมั๊ยคะ" ปารดีแกล้งหยอกแต่ทำจริงเพราะเธอตรวจเห็นความผิดปกติของคนไข้ และคุณพยาบาลพิเศษแอบกระซิบมาบ้างแล้ว
"สุดแล้วแต่คุณหมอเถอะค่าแม่คู๊ณ /ว่าแต่คูณปลาจาลำบากหรือเปล่า" ประโยคแรกคุณนายปรางหันไปตอบรับคุณหมอสาวอย่างว่าง่ายประโยคหลังหันไปถามพยาบาลพิเศษที่ดูแลตน
"ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณปราง ดิฉันได้รับค่าจ้างจากคุณพรมแดนมาแล้ว คุณเค้าให้ดิฉันดูแลคุณปรางไม่ว่าคุณปรางจะอยู่ที่ไหนดิฉันก็จะอยู่ด้วยค่ะ เว้นเสียแต่ว่าคุณปรางจะไม่ต้องการให้ดิฉันดูแลค่ะ"
"โถ..ทำไมจาไม่ต้องการล่า ก็คุณปลาดูแลดิฉันดีขนาดนี้" ส่วนอีกคนได้แต่ยิ้มตอบรับด้วยไมตรี เพราะเธอตัวคนเดียวไม่มีลูกไม่มีสามีจึงทุ่มเทได้เต็มที่
"เดี๋ยวหนูขอส่งคุณป้าปรางไปตรวจร่างกายเพิ่มเติมนะคะ เดี๋ยวรอผลตรวจค่อยว่ากันเน๊าะ"
สักพัก ผลการตรวจผิดปกติเล็กน้อยประกอบกับคนไข้มีรอยโรคหลอดเลือดสมองตีบอยู่แล้วจึงส่งแอดมิดไว้ก่อนเพื่อรอตรวจละเอียดในช่วงเช้าต่อไป