ตอนที่ 5

1042 คำ
            “เราไปห้องอาหารกันเถอะนะ นุ่นต้องเล่นไวโอลินคนแรกด้วย”             พัชชุลีพยักหน้าเปื้อนรอยยิ้มก่อนลุกขึ้นเดินตามมัสมินเข้าไปยังห้องอาหารริมทะเลซึ่งบัดนี้มีแขกของโรงแรมนั่งเต็มเกือบทุกโต๊ะ บรรยากาศการับประทานอาหารชั้นเลิศภายในห้องอาหารของโรงแรมชั้นเยี่ยมอย่าง เซลิโน่ ยิ่งน่าดึงดูดใจสำหรับแขกระดับวีไอพีมากขึ้นหลายเท่าเมื่อร่างระหงในชุดราตรีไหล่เบี่ยงสีขาวสวมรองเท้าส้นสูงประดับมุกก้าวอาด ๆ ไปยืนบนเวทีขนาดเล็กตกแต่งด้วยกล้วยไม้งามหลากสีเป็นพื้นที่โชว์ดนตรีเพื่อขับกล่อมและเพิ่มอรรถรสของการรับประทานอาหารมื้อค่ำให้น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น รอยยิ้มแสนหวานบนริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนใสเป็นประกายระบายอยู่บนใบหน้าสวยไร้อาการเขินอายหรือประหม่ากระทั่งดวงตากลมโตคู่นั้นกวาดไปบรรจบยังใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าเวที ใกล้เสียจนสมองของเธอไม่ต้องเสียเวลาประมวลผลว่าเธอตาลายหรือฝันไปที่เห็น เขา อยู่ตรงหน้า ลอวเรนซ์ มาร์โค ริคาร์ดิอาโด เรียวปากอิ่มราบเรียบลงในทันทีทั้งมือซึ่งกุมไวโอลินและคันชักไว้ก็เย็นเยียบแทบไม่รู้สึกว่ากำเครื่องสายไว้แน่นขนาดไหน ใบหน้าคร้ามคมนั้น รูปร่างสูงใหญ่กำยำและผิวสีแทนทองกร้าวกร้านภายใต้เสื้อเชิ้ตลายทางและกางเกงสแล็กนั้นล่องลอยในความสำนึกจดจำของเธอเสมอ ผิดแต่ดวงตาที่จ้องมองมาส่องประกายราวเหล็กกล้าคล้ายจะเชือดเฉือนสิ่งที่เห็นตรงหน้าให้ขาดสะบั้น มัสมินยืนนิ่งราวรูปปั้น นานจนนุสบาผู้จัดการห้องอาหารที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับ เขา คนนั้นและปรีชาหุ้นส่วนคนสำคัญต้องลุกจากเก้าอี้เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติเพื่อเข้าไปสะกิดหญิงสาวเรียกภวังค์เธอกลับคืน “คุณมัสมินคะ...เป็นอะไรไปคะ แขกกำลังรอฟังคุณเล่นไวโอลินนะคะ โดยเฉพาะคุณลอวเรนซ์ หุ้นส่วนใหญ่ของเซลิโน่ที่นั่งอยู่กับคุณปรีชาข้างหน้านี่ล่ะค่ะ” เสียงของนุสบาทำให้สติอันวายวุ่นนั้นกลับมาอยู่กับเธอ หากทว่าหญิงสาวกำลังจะสูญเสียการควบคุมตัวเอง มีเพียงก้อนแห่งความละอายแล่นปรี่ขึ้นมาจุกอกและลำคอแห้งผากของมัสมิน       *HLA (Human Leukocyte Antigent = ชนิดของเนื้อเยื่อที่นำมาใช้ในการรักษาโรคธาลัสซีเมียด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก หรือ การใช้สเต็มป์ เซลล์) * Oceanic เป็นเพลงบรรเลงด้วยไวโอลินและเชลโล่ของวงดนตรีคลาสสิค บอนด์ (bond) เป็นบทเพลงที่มีท่วงทำนองลึกล้ำเหมือนอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแปรปรวนและแสนเศร้าในแดนสนธยา         บทที่ 2 เผยโฉมหน้าของซาตาน               “ค่ะ...คุณนุสบา”  มัสมินอยากจะร่ำไห้ขณะฝืนตอบนุสบาออกไปด้วยความขมขื่น เธอปรารถนาให้เวลาอันแสนอึดอัดนี้ไหลไปให้เร็วที่สุด หญิงสาวแน่ใจในอะไรบางอย่าง แน่ใจว่าผู้ชายหล่อเหลาราวเทพบุตรมาจิติกำลังจ้องมองเธอด้วยแววตาที่ไม่เหมือนเดิม...และจะไม่มีวันเหมือนเดิมตลอดกาล ร่างระหงแค่นยิ้มให้แขกซึ่งหลายคนก็หันมาสนใจในขณะที่หลายคนก็หันหน้าสนทนาขณะจิบไวน์และไล้เลียดอาหารในจานที่บริกรของโรงแรมเดินไปมาคอยบริการมิให้บกพร่องก่อนท่วงทำนองของบทเพลงขับกล่อมจะเริ่มต้นด้วยความพยายามอย่างยากยิ่งนักกว่าแต่ละตัวโน้ตจะค่อยคืบผ่านนาทีที่ทอดยาวราวตลอดราตรีกาลจากมือเรียวบางเสมือนไร้ความรู้สึกบนเครื่องสายซึ่งตั้งอยู่บนไหล่ของเธอ  บทเพลงที่ถูกบรรเลงผ่านไวโอลินสะเทือนไหวหัวใจผู้เล่นในขณะที่เจ้าของร่างสูงใหญ่ใบหน้าคร้ามคมเรือนผมสีน้ำตาลเข้มประกายทองนั่งนิ่งราวแผ่นหินไร้ความรู้สึกมีเพียงสายตาอันคมกริบสะท้อนความเกลียดชังที่ฝังลึกลงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจและความมาดหมายจะทำลายคนกลับกลอกให้ย่อยยับในเวลาไม่ช้าไม่นานนี้ ทุกจังหวะที่ถูกถ่ายทอดออกมาไร้ซึ่งความไพเราะใด ๆ สำหรับเจ้าของ ยูนิโก้ แอร์ไลน์และหุ้นส่วนใหญ่ของเซลิโน่ ลอวเรนซ์บอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าเขาต้องปิดฉากความต่ำช้าของผู้หญิงตรงหน้าด้วยความเจ็บปวดสาหัสจนเธอทนแทบไม่ไหว  เขาจะกลืนกินชีวิตของมัสมิน ดับความแพศยาในเลือดเนื้อนวลนิ่มนั้นด้วยหัวใจด้านชาของเขา มัสมินต้องได้รับการตอบแทนเยี่ยงโสเภณีไร้ราคาและให้เธอตายอย่างช้า ๆ ด้วยความพยาบาทที่มันกร่อนลึกอยู่ในสำนึกที่ยากจะกลับไปเป็นเช่นเดิม “เป็นยังไงบ้างคะคุณลอวเรนซ์ ไพเราะมากใช่ไหมคะสำหรับการแสดงไวโอลินเพลงเมื่อครู่” นุสบาซึ่งเป็นผู้จัดการห้องอาหารในชุดสูทสีกรมท่าก้าวเข้ามาหาหุ้นส่วนคนสำคัญทั้งสองหลังบทเพลงอันไพเราะจบลงพร้อมเสียงปรบมือถูกอกถูกใจของแขกที่โต๊ะรับประทานอาหาร ปรีชาหันมายิ้มกริ่มกับหนุ่มอิตาเลี่ยนที่เงียบไปหลังผู้เล่นโค้งคำนับขอบคุณแขกและก้าวออกไปจากห้องอาหาร “เห็นมั้ยล่ะเพื่อน ชาวเอเชียก็เล่นดนตรีคลาสสิคไม่แพ้ชาวยุโรปนะริค ติดใจแล้วล่ะสิ นักดนตรีที่คุณนุสบาติดต่อมาก็สวยมาก นี่ที่นายเงียบไปเพราะถูกใจเพลงรึคนเล่นไวโอลินกันนี่” “นายบอกฉันเองไม่ใช่หรือว่าอาจจะฟังเพลงเดียวแล้วกลับก็ได้ ฉันคิดว่าฉันฟังพอแล้วสำหรับคืนนี้” “อ้าว!...นั่นนายจะกลับห้องพักแล้วเรอะ ยังไม่ทันจะทานมื้อค่ำเลย ฉันอุตส่าห์ให้เชฟโชว์ฝีมือทำเนื้อออสเตรเลียน วากิว ย่างราดน้ำเกรวี่หวานอร่อยสำหรับนายเชียวนะ” ปรีชาทักท้วงเมื่อเห็นลอวเรนซ์ลุกขึ้นและตั้งท่าจะเดินออกไปจากที่นั้นโดยยังไม่ทันแตะอะไรสักอย่างบนโต๊ะอาหาร หุ้นส่วนโรงแรมชาวไทยหันกลับไปยังนุสบาเมื่อเห็นว่านักไวโอลินคนใหม่เริ่มบรรเลงบทเพลงแว่วหวานแทนคนเก่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม