ตอนที่ 1
“แม่ยาย”
‘สุดที่รัก’
ภายในบ้านไม้ครึ่งปูนสองชั้นหลังใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางที่ดินเกือบสองร้อยตารางวา รอบๆ บ้านปลูกหญ้าสีเขียวจขี ลึกไปทางหลังบ้านเป็นสวนกล้วยน้ำว้าหนาแน่น อยู่ในย่านปริมณฑลติดกรุงเทพฯ มหานคร
“เราจะเดินทางกันวันมะรืนจ้ะแม่… รีสอร์ตสวยมากจ้ะ หรูด้วยนะ… บรรยากาศดีมากค่ะ มีแม่น้ำไหลผ่าน ตั้งอยู่กลางหุบเขา พิมพ์เชื่อว่าถ้าได้เห็นแม่เดือนจะต้องชอบ”
หลังจากอาหารมื้อค่ำผ่านพ้นไปแล้ว เรานั่งคุยกันเหมือนเช่นทุกวัน ‘พิมพ์’ เมียของผม กล่าวกับ ‘เดือนวาด’ ผู้เป็นมารดาของหล่อน ซึ่งก็คือแม่ยายคนงามของผมนั่นเอง หลังจากเราวางแผนว่าจะไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุดยาวติดต่อกันสามวัน ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นรีสอร์ตริมแม่น้ำ ต้องจอดรถไว้ริมฝั่งแล้วนั่งเรือเข้าไป
“อันที่จริงรีสอร์ตธรรมดา… ไม่ต้องหรูมาก แม่ก็พักได้นะจ๊ะยัยพิมพ์”
แม่ยายกล่าวกับเมียผม ทั้งที่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทอง หลังจากพ่อตาของผมเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อห้าปีก่อน แม่ยายก็ได้เงินประกันหลายล้าน มากพอที่จะอยู่สบายไปจนบั้นปลาย
แต่แม่ยายของผมเป็นคนขยัน ไม่ชอบอยู่เฉยๆ ทุกวันนี้ก็มีบ้านเช่าอีกสามห้องอยู่ในตลาด แล้วยังมีร้านเสริมสวยในตลาดที่ผู้คนละแวกนี้รู้จักดีว่า ‘ร้านเสริมสวยเดือนวาด’ แต่แม่ยายผมไม้ได้ลงมือทำเอง หล่อนแค่บริหารจัดการ จ้างช่างประจำเป็นรายเดือนไว้ทำงานในร้านสองคน
“ไม่ได้ค่ะแม่… ก็นานๆ เราจะว่างพร้อมกันแบบนี้ พิมพ์อยากให้แม่พักผ่อนให้สบายค่ะ ที่นี่มีอาหารพร้อม ในห้องพักแต่ละหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วยนะคะ”
พิมพ์บอกถึงความสะดวกสบายของรีสอร์ตระดับห้าดาวที่เรากำลังจะไปพักผ่อนด้วยกัน
“รีสอร์ตหรูแบบนี้คงแพงมากใช่ไหม”
แม่ยายถาม
“ไม่เป็นไรค่ะแม่… พิมพ์จัดการให้หมดแล้วค่ะ แม่แค่เตรียมตัวให้พร้อมนะคะ”
“จ้ะลูก”
แม่ยายพยักหน้า ภรรยาของผมสวมกอดมารดาของหล่อนจากทางด้านหลัง หอมแก้มเสียงดังฟอด ผมรู้ว่าสองแม่ลูกคู่นี้รักกันมาก เพราะว่าตั้งแต่พ่อตาของผมตายจากไปเมื่อห้าปีก่อน พิมพ์กับแม่ก็อยู่กันเพียงสองคน กระทั่งมีผมเข้ามา
ตอนแต่งงานกับพิมพ์ ผมตั้งใจว่าจะให้หล่อนย้ายไปอยู่ที่บ้านแม่ของผมซึ่งกว้างขวางกว่า แต่พิมพ์ไม่ยอมไป หล่อนให้เหตุผลเพียงสั้นๆ ว่าอยากอยู่ดูแลมารดา ทำให้ผมจำต้องมาอยู่ร่วมบ้านหลังนี้ในที่สุด เพราะเข้าใจว่าพิมพ์ไม่อยากทิ้งแม่
วันรุ่งขึ้น
ตอนเย็น ภายหลังจากพิมพ์เลิกงาน ขับรถกลับมาถึงบ้าน หล่อนบอกเรื่องที่ทำให้เราเกือบล้มเลิกแผนการเที่ยวในวันหยุดยาว เพราะว่ามีงานด่วนแทรกเข้ามากะทันหัน
“อะไรนะพิมพ์… ”
ผมตกใจกับสิ่งที่ภรรยาบอก
“แม่พี่เล็กป่วยหนักจ้ะพี่อาร์ต แกก็เลยขอลางานกะทันหัน กลับต่างจังหวัดไปตั้งแต่เช้า ความซวยเลยมาตกที่พิมพ์น่ะสิคะ เพราะว่าถ้าพี่เล็กไม่อยู่ก็จะไม่มีคนทำงาน หัวหน้าเลยบอกให้พิมพ์เข้ามาทำงานในระหว่างนี้ แย่ตรงที่พิมพ์จองห้องพักที่รีสอร์ตไว้แล้วนี่แหละค่ะ”
ภรรยาของผมทำหน้าเซ็ง
“งั้นรอให้หนูว่างเราค่อยเดินทางอีกทีดีมั้ยลูก”
แม่ยายผมแทรกขึ้นมา
“นั่นสิ… เราเลื่อนไปอาทิตย์หน้าก็ได้”
ผมกล่าวเสริม เห็นด้วยกับแม่ยาย
“ไม่ได้… อย่าลืมว่าพิมพ์จ่ายเงินค่าห้องพักไปแล้วนะคะ ค*****นไม่ได้ด้วยสิ เลื่อนการเดินทางก็ไม่ได้”
“ไม่ต้องคิดอะไรมาก… ไม่ไปก็ล้มเลิก ถ้าจะไปก็ไปพร้อมกัน”
ผมสรุป
“ไม่ได้ค่ะ… เอาเป็นว่าพี่อาร์ตไปกับแม่สองคนนะ”
ภรรยาของเสนอทางออกที่ทำให้ผมถึงกับอึ้ง
“อุ๊ย… ได้ยังไง ไปกันสองคนน่าเกลียด”
แม่ยายผมว่า ซึ่งผมก็เข้าใจ ผู้หญิงกับผู้ชายจะไปกันสองคนก็แปลกๆ
“ห้องที่พิมพ์จองไว้เป็นหลังค่ะแม่ มีสองห้องนอนค่ะ แยกกันนอนคนละห้อง แม่ไปกับพี่อาร์ตนะคะ”
ภรรยาของผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องน่าเกลียด
“จะดีหรือลูก”
แม่ยายหันมามองหน้าผม เราสบตากัน… วูบหนึ่งผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างประหลาด
“ผมยังไงก็ได้ครับ”
“งั้นตกลงแม่ไปกับพี่อาร์ตนะคะ… พิมพ์อุตส่าห์จองห้องไว้แล้ว จะได้ไม่เสียเงินฟรี… นะคะแม่”
เมียผมคะยั้นคะยอ ผมนิ่ง… ลุ้น กระทั่งแม่ยายกล่าว
“เอางั้นก็ได้”
แม่ยายรับปากในที่สุด เพราะทนเสียงรบเร้าของลูกสาวไม่ไหว ช่างน่าแปลกที่ผมแอบดีใจอยู่เงียบๆ… ที่รู้ว่าจะได้ไปเที่ยวกับแม่ยายสองต่อสอง
วันรุ่งขึ้น
พิมพ์ขับรถออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ผมตื่นสายเพราะเมื่อคืนดูบอลจนดึก พอลงมาจากห้องนอนที่อยู่ชั้นสอง ก็เห็นแม่ยายอยู่ในห้องครัว เดินออกมาทักทายผมในสภาพนุ่งผ้าถุงกระโจมอก
“วันนี้จะไปกี่โมงจ๊ะอาร์ต”
แม่ยายถาม ผมหันมามอง ยอมรับว่าสะดุดตากับรูปร่างของแม่ยายที่ยังสะสวยไม่สร่าง
ใครจะเชื่อว่าแม่เดือนอายุแตะสี่สิบแล้ว แต่ยังเต่งตึงไม่แพ้สาวๆ หนั่นเนื้อสองเต้าขาวราวกับหยวก ใหญ่มากจนแทบล้นออกมาจากขอบผ้าถุงกระโจมอก ตอนแกหันหลัง
ก้มๆ เงยๆ อยู่ในครัว ผมเห็นผ้าถุงลายดอกเนื้อบางแนบเน้นสะโพกกลมกลึงจนแลเห็นกลีบก้นเป็นร่องรัดรึง เอวคอดโค้งรับกับทรวงอกอวบ ทำเอาผมหายใจติดๆ ขัดๆ มองแล้วต้องยกแก้วกาแฟขึ้นซดเสียงดังซ่วด ก่อนจะตอบว่า
“อีกครึ่งชั่วโมงค่อยเดินทางนะครับ ขอผมกินกาแฟสักแก้วนะครับ”
ผมตอบ สายตาจังไม่ละจากสะโพกของแม่ยาย
“ตามสบายจ้ะ… แม่จะอาบน้ำสักเดี๋ยว”
แม่ยายก้าวนวยนาดเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่าง ติดกับห้องครัว
อึดใจสั้นๆ ต่อมาก็ได้ยินเสียงสายน้ำจากฝักบัวโลหะสีเงินวาว พรมพร่างลงบนเรือนร่างเอิบอิ่มของแม่ยาย
ผมเดินเข้ามาในครัว ทรุดร่างลงนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ใกล้โต๊ะกินข้าว พลิกหนังสือพิมพ์อ่านไปมา
สายตาของผมกวาดอยู่กับแถวตัวอักษรบนหน้าหนังสือพิมพ์ก็จริง หากแต่ใจไม่กลับได้อยู่ตรงนี้ เพราะเอาแต่แอบนึกถึงเรือนร่างขาวผ่องของแม่ยายที่อยู่ในห้องน้ำ
ผมหลับตาจินตนาการถึงความเอิบอิ่มของนวลเนื้อสาวใหญ่ ซ่อนซุกอยู่ในร่มผ้า แม่ยายคงไม่รู้… หรือจะรู้ก็ไม่