“นอนเถอะ ง่วงแล้ว”
“กลับไปนอนบ้านคุณสิ ปล่อย”
เขาจะกลับมาทำไม กลับมาซ้ำแผลเก่าที่เธอพยายามรักษาให้หาย กลับมาเพื่อย้ำเตือนเธอแบบนั้นเหรอ มันไม่ยุติธรรมเลยนะ
ร่างเล็กดิ้นพยายามจะยกแขนแกร่งที่โอบล็อกตัวเธอให้ติดกับเขาออก ไหนยังจะขาเขาที่เกี่ยวตัวเธอไว้จนแนบชิดกันทุกส่วน เสียงลมหายใจอีกฝ่ายพ่นออกมาอย่างสม่ำเสมอ
เขาหลับแล้วทั้งที่เธอยังดิ้นพยายามจะหนี กลิ่นเหล้าที่ถูกพ้นออกมาทางลมหายใจคละคลุ้งไปทั่ว นี้เขาไปตกถังหมักเหล้ามาหรือไงเหม็นขนาดนี้ แพรพลอยเริ่มจะมึนตามกลิ่น แต่ไม่สิ้นฤทธิ์
“ปล่อยสิ ปล่อย”
“อื้ม”
ร่างใหญ่พลิกตัวให้นอนสบายขึ้นทั้งที่เตียงนอนแคบแค่เขาคนเดียวเต็มเตียงจนขาเลยออกมา แต่ยังไม่ยอมปล่อยแพรพลอยให้ห่างจากตัว ร่างบางขึ้นไปนอนบนตัวเขาแทบจะทั้งร่าง
หล่อนต้องยอมจำนนต่อฤทธิ์คนเมาหน้ามึน นอนนิ่งจนหลับไปในอ้อมกอดของคนที่เธอเกลียดแบบที่ไม่เคยเกลียดใครมาก่อน
“อื้อ นอนต่อสิ ฉันยังไม่อยากตื่น”
“ลุกออกไป ออกไปได้แล้ว”
“เธอจะรีบไปไหนนี่มันเพิ่งจะ เอ่อ หกโมงเช้า”
มือใหญ่ควานหานาฬิกาข้อมือที่ถอดออกกลางดึกเพราะกลัวร่างเล็กที่นอนทับแขนเขาอยู่จะเจ็บเนื้ออ่อน
“ฉันต้องไปทำงาน”
“เริ่มงานกี่โมง”
“เรื่องของฉัน นายออกไปจากห้องฉันได้แล้ว”
“กี่โมง”
เสียงถามย้ำกับแรงกอดที่มากขึ้น หน้าอกอิ่มของเธอชิดไปกับแผงอกกว้างของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าพูดดีคงไม่เจอแบบนี้ ทำไมยัยป้านี้ถึงชอบขัดใจเขา ไม่ทำตัวน่ารักเหมือนสาวๆ ที่ผ่านมาเลยสักคนแล้วเขาติดใจเธอตรงไหน ตรงไหนกัน
“ปะแปด”
“แล้วจะรีบตื่นทำไม อีกตั้งสองชั่วโมง เธอเดินไปทำงานหรือไง”
“ใช่”
“นอนต่ออีกชั่วโมงหนึ่ง เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ฉันไม่ใช่พวกขายตัวแลกกับอะไรก็ได้”
“งั้นก็ดิ้นออกไปเอง ฉันจะนอน”
เขาพูดเหมือนมันง่ายที่เธอจะหนีไป เมื่อคืนเธอลองทำแล้ว ดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมแขนเขา ดิ้นจนหมดแรงเขาก็ไม่แม้แต่ขยับ ตอนนี้เธอทำได้แค่นอนรอให้ถึงเวลาเท่านั้น
“ปล่อยได้แล้ว”
เขายอมปล่อยเธอตามที่พูด ร่างเล็กรีบออกจากอ้อมกอด ที่ใช้หลับมาทั้งคืนมันคงจะอบอุ่นกว่านี้ถ้าไม่ใช้อ้อมกอดของคนที่ทำร้ายจิตใจเธอ
“ฉันจะลงไปรอที่รถ อย่าคิดทำอะไรที่ไม่ควร”
“ไอ้”
“หึ คิดให้ดีนะว่าจะด่า”
“นายกลับมาทำไมอีก ข้าวของ เงิน ฉันก็คืนไปหมดแล้ว กลับมาทำไมอีก”
“ไม่รู้โว้ย”
แมกซ์แวลล์ลุกขึ้นขยี้ผมสองสามทีก่อนจะกระชากประตูพังๆ เดินออกไป เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มาที่นี่ ไม่รู้ว่าต้องการอะไรทั้งที่ไม่มีอะไรที่เขาอยากได้เลย
“เธอล้างห้องน้ำด้วยหรือไง นานชะมัด”
แมกซ์แวลล์นั่งแช่ก้นบนรถรอเธอ เธอจะช้าอะไรขนาดนี้กับแค่อาบน้ำ นานพอให้เขาไปหาที่อาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมตัวไปทำงานวันแรกเรียบร้อยแล้วก็กลับมารอเธอ
แพรพลอยมองร่างใหญ่อย่างอึ้งนิดๆ เขาดูดีขึ้นมาก ดูเหมือนผู้บริหารที่ยังอายุน้อยอยู่ แพรพลอยแอบยอมรับว่าเธอชอบเขาในชุดสูททำงานของเขามาก มากจนแทบไม่อยากละสายตาเลย แต่ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงตะคอกไม่พอใจของเขาที่ต้องมารอเธอ
“ใครใช้ให้มารอละ”
“บ่นอะไรป้า ขึ้นรถ”
เขาจับร่างบางขึ้นไปนั่งในรถ ให้เธอมานั่งข้างเขา ตามที่เขาต้องการ สายตาคมหันมาจ้องหน้าหวานไร้การแต้มแต่งดงามเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้คำตอบอะไร ยิ่งมองเธอเขาก็อยากกลับไปนอนต่อบนเตียงภายในห้องรูหนูนั้นไม่อยากไปไหนเลย
“เธอทำงานที่ไหน”
“ส่งฉันตรงแยกข้างหน้าก็ได้”
“เฮ้อ ฉันถาม”
ตามเคยหล่อนต้องบอกเขา บอกแบบละเอียดตั้งแต่ที่ทำงาน ตำแหน่งงาน เพราะ เขาอยากรู้ เขาหยิบปืนออกมาจากช่องเก็บของตรงคอนโซลรถหวังจะพกมันติดตัวตอนลงจากรถไม่ได้ใช้ขู่ให้เธอกลัว แต่มันก็ดีเขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากที่จะเค้นเอาความจริงจากปากเธอ
แพรพลอยนั่งนิ่งฟังเสียงลมหายใจของตัวเอง และของเขาที่ถอนหายใจซะมากกว่า เธอหันมามองเขาได้สักพักหน้าตาราวเจ้าชายในฝันของใครหลายคนและอาจจะของเธอด้วยถ้าเขาไม่ร้ายมากเกินจนเธอรับไม่ไหว
“มองทำไม ชอบหรือไง”
“เปล่า ขับรถไปสิ"
“ถึงแล้ว ถึงนานแล้วถ้าเธอไม่มาจ้องฉันก็คงจะรู้แล้วนะว่ารถจอดนานแล้ว”
“…..”
รถหรูจอดเทียบท่าบริษัทรับทำบัญชีขนาดเล็กที่ผู้คนกำลังเร่งรีบจะไปเข้างาน ร่วมถึงแพรพลอยด้วยที่กำลังจะสาย ร่างบางก้าวลงจากรถพร้อมสายตาหลายคู่ที่จ้องมองเป็นเชิงคำถามว่าใครมาส่งเธอ
“ไม่ขอบใจหน่อยเหรอที่มาส่ง”
“จะดีมากถ้าไม่ต้องเจอกันอีก”
…..
ร่างใหญ่เดินเข้ามาภายในบ้านผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่สาว เขามาเพื่อตามหาความจริงคำสารภาพอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาหายจากอาการที่เป็นอยู่ เขานอนไม่หลับมาตลอดทั้งคืน คิดเพียงแค่ว่าอยากจะกลับไปนอนในห้องแคบของแพรพลอย แต่คงเป็นไปไม่ได้เธอไล่เขาขนาดนั้น คนอย่างเขาไม่ง้อใครโดยเฉพาะผู้หญิง
“อลิซ”
“โฮ่งๆๆๆๆ”
“ไอ้หมาเวรนี้ เดี๋ยวกูกระทืบตายเลย ไปให้พ้น”
เสียงต้อนรับของหมาเจ้าถิ่นสีดำหูตั้งตัวสั้น นานมากแล้วที่เขาไม่เคยมาบ้านหลังนี้ของพี่สาวถ้าไม่มีงานเลี้ยงหรือยังมีแสงตะวันแบบวันนี้ คงไม่แปลกที่จะมีสมาชิกสี่ขามาเพิ่มโดยที่เขาไม่รู้
“แกไล่อะไรหมาของแพรพลอยเพื่อนฉัน”
“หมายัยป้านั้นนะเหรอ”
“มันชื่อคิดตี้”
“มันชื่ออะไรก็ช่าง พี่มาคุยกับผมให้รู้เรื่อง แล้วก็บอกให้มันหยุดเห่า”
เขาเริ่มจะหัวเสียกับเสียหมาเห่าที่เข้าไปกวนโสตประสาท แต่มันก็เงียบลงแค่พี่สาวเขาเอามันไปอุ้ม
“ว่ามา”
“พี่กับยัยป้านั้นวางยาผม พี่รวมหัวกัน”
“ที่รัก ใครมา”
“แกจะมาคุยอะไรตอนนี้ บาสเตียนอยู่บ้าน”
อลิซทำทีตื่นกลัวสามี ทั้งที่ปกติเธอแค่เกรงใจเขาบ้างในบางเรื่องแต่วันนี้ต้องเล่นให้สมบทบาท ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแผนไม่งั้นน้องชายตัวแสบของเธอคงไม่มาถึงที่นี้
“พี่ต้องคุยกับผมให้รู้เรื่อง”
“เรื่องอะไรกันที่รัก แลเครียดนะ”
บาสเตียนเดินตามหาต้นเสียงอยู่นาน เขาผิดสังเกตเมียมาสักพักเรื่องแพรพลอย แต่ยังไม่แน่ใจเขาจำต้องตามติดเมียตลอดเพื่อไม่ให้ใครเดือดร้อน
“เรื่องเจ้าคิดตี้นี้ไงคะ แมกซ์เขาอยากได้นะคะ แต่อลิซเกรงใจแพรนะคะ เอามาฝากไว้นานแล้ว กลัวยายแพรจะว่าเอา”
ความสนิทที่ยกขึ้นมาอ้างดูไม่เข้ากับสถานการณ์เท่าไร แต่ถ้าบาสเตียนรู้เรื่องนี้เธอต้องไม่รอดแน่ ยังไงก็ต้องเอาตัวรอดไปก่อน
“อ้อเอาไปเลย เดี๋ยวพี่คุยกับแพรเอง แพรเขาเข้าใจอะไรง่ายรายนั้นนะ”
“จริงสิคะ อ่ะ เอาไป”
หมาสีดำ หูตั้งตัวสั้นถูกส่งให้แมกซ์แวลล์ เขารับมันไว้อย่างงงๆ ทำไมอะไรมันถึงไม่สำเร็จตั้งแต่เจอเธอชีวิตเขาก็ล้มเหลวตลอด
…..
“นายจะให้ผมเอาไปไหนครับ เฮ้ยๆๆ”
หมาหลุดมือเท็นวิ่งตามกันให้วุ่นทั้งบ้านแต่แล้วหมาเจ้ากรรมก็ไปนั่งกลัวตัวสั่นอยู่หน้าห้องของแมกซ์แวลล์
“นี้ถ้าเป็นเจ้าของแกมานั่งตรงนี้ก็คงดี”
คำบ่นติดปากออกมาเบาๆ ทำเอาลูกน้องคนสนิทอย่างเท็นเริ่มเข้าใจเจ้านายปากแข็งนิสัยร้ายคนนี้ สงสัยคงจะเปลี่ยนตัวเองได้ก็คราวนี่แหละเจ้านายของเขา
“พี่มีอะไรอีก”
เสียงโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังของเขาดังขึ้น ดึงเขาออกจากวังวนที่มีแต่ผู้หญิงที่ไม่สนใจเขาคนนั้น
“เดี๋ยวฉันส่งไอดีไลน์ของแพรให้"
"ผมไม่ได้อยากได้"
"แต่พี่อยากให้ บายน้องชาย”
แมกซ์แวลล์ก้มมองมือถือที่อลิซวางสายไปแล้ว ไม่นานสิ่งที่เขารอก็มาถึงไอดีไลน์ของแพรพลอย
“ไปเข้าห้องไอ้หมาดำ เดี๋ยวแกจะได้เจอเจ้าของ”