EP 13

1125 คำ
พิมพ์ภิษาไม่ต้องตอบอะไร แม้จะกระจ่างใจแล้วว่าเขาใหญ่ทั้งในโรงพยาบาลแห่งนี้ ทั้งในชุมชนอันเป็นบ้านเกิดของเธอและคนในครอบครัวด้วย ต่อให้เขาไม่บอกหรือไม่ต้องอ่านแฟ้ม เธอก็รู้ตั้งแต่วันก่อน ตอนนั่งกินหมูย่างอยู่หลังร้านกับน้องๆ และพี่มรแล้ว ‘นี่ไงล่ะนายใหญ่ คนจะมาทุบตลาดพวกเราสร้างโรงแรมน่ะ เมื่อวานพากันไปนั่งกินข้าวหน้าเป็ดร้านเจ้จง แล้วคุยกันอยู่นาน เจ้เลยแอบถ่ายรูปมาให้ตอนปลอดลูกค้า’ ภาพในมือถือพี่มรนั้น ไม่ต้องดูนานถึงนาทีด้วยซ้ำ ก็รู้ว่าเป็นเขา แต่เธอไม่บอกใคร เพราะถือเป็นเรื่องไกลตัว แม้ครอบครัวจะกระทบกระเทือนบ้าง บวกกับตอนนี้พ่อก็กำลังจะเลิกเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ด้วยการยอมขายร้านให้คนอื่นแล้ว เธอจึงไม่อยากยุ่งวุ่นวายอะไรให้ปวดหัว ลำพังเรื่องในครอบครัวก็แย่พอแล้ว “คุณคงไม่ต้องการให้พวกเขาไม่มีที่อยู่ หรือที่ทำมาหากินหรอกนะ นี่แหละคือเหตุผลสำคัญ ผมคิดว่าคุณไม่ควรจะปฏิเสธข้อเสนอของผม” “ข้อเสนออะไรคะ แล้วทำไมฉันถึงจะต้องยอมทำตามด้วย ฉันไม่สนใจหรอกค่ะว่าจะได้อยู่หรือไปจากตลาด” นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้เผชิญหน้ากัน ที่หญิงสาวใช้น้ำเสียงห้วนกว่าปกติ คฑาธรอึ้งน้อยๆ เช่นกัน “คุณคิดงั้นเหรอ” “ค่ะ” “เห็นแก่ตัวดีนี่” เขาส่งน้ำเสียงเหยียดหยันมาหาอย่างไม่ปิดบัง ใจนั้นผูกไปหาขจรอย่างไม่ยาก ลูกไม้มีหรือจะหล่นไกลต้น พ่อเป็นยังไงลูกมีหรือจะแตกต่าง “แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ ถึงฉันกับคนแถวนั้นไม่มีตลาดก็อยู่ได้ เพราะเรายังมีสวนให้ทำมาหากินอีก” “แต่เท่าที่ผมทราบ ตลาดนั้นพ่อคุณรวมทั้งคนแถวนั้นรักมาก เพราะมันเป็นที่ทำมาหากิน สร้างครอบครัวมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย คุณคงไม่อยากเห็นตำนาน ต้องถูกรื้อทิ้งแล้วมีโรงแรมหรูหราของผมไปอยู่แทนหรอกนะ” คนไม่ยอมแพ้ยังคงชักแม่น้ำทั้งห้า พิมพ์ภิษาก็ไม่คิดจะยอมแพ้เช่นกัน “คุณต้องการอะไรกันแน่คะ ถึงเรียกฉันมาคุยเรื่องนี้” “ผมต้องการอะไรเหรอ” เขาเน้นเสียงหนักๆ จ้องมองหญิงสาวนั่งนิ่งไม่ตอบใดๆ ออกมา “คุณรู้อยู่แก่ใจแล้วนี่ ไม่เห็นต้องถามเลย เอาเป็นว่าข้อเสนอของผมนะ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ส่วนที่เพิ่มเติมให้ ก็คือผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับโครงการ ตลาดยังคงเหมือนเดิม” นั่นก็ไม่ได้ทำให้พิมพ์ภิษารู้สึกว่ามันวิเศษตรงไหน กับข้อเสนอใหม่ที่งอกออกมา เพราะมันไม่มีค่ามากพอจะมอบตัวให้กับผู้ชายบ้าตัณหา เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นด้วยการใช้เงินฟาดหัวไปวันๆ เลยสักนิด คฑาธรยักไหล่เมื่อเห็นคนตรงหน้าเงียบ ไม่นานเขาก็เอ่ยต่ออย่างคนใจเย็น “พ่อของคุณเป็นมะเร็งขั้นสองไม่ใช่เหรอ ผมว่าคุณกำลังต้องการเงินในการผ่าตัดให้นะ ไหนจะค่ายาที่ไม่อยู่ในรายการเบิกได้จากรัฐด้วย และผมก็รู้มาว่าพ่อคุณยังคงหัวสูง จนไม่ลง ตัวเองฐานะการเงินแย่มาก ก็ยังอวดรวยด้วยการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนอยู่อีก” ถ้าไม่ห่วงว่าจะตกงาน พิมพ์ภิษาอยากตะโกนถามดังๆ ว่า เขามีสิทธิ์อะไร ไปสืบสาวราวเรื่องในครอบครัวของเธอแล้ว แต่ยังคงมีสติมากพอ จึงควบคุมตัวเองให้นั่งนิ่งๆ รอฟังว่าเขาจะเอายังไงต่ออยู่ได้ ในใจก็ครุ่นคิดว่าถ้าลาออกแล้ว จะไปหางานที่ไหนต่อดี ในกรณีเธออดทนไม่ไหวแล้วเอ่ยถ้อยคำไม่ดีออกไปใส่เขา “ถ้าคุณรับข้อเสนอนะ ผมรับรองว่าพ่อคุณจะได้รับการรักษาในโรงพยาบาลของผมฟรีตลอดชีวิต เงินที่คุณเคยให้แม่เลี้ยงและน้องๆ เป็นรายเดือน ผมยินดีจ่ายแทนทั้งหมด คุณและทุกคนในบ้านได้สิทธิ์เข้ารักษาที่นี่เหมือนพ่อคุณทุกอย่าง” พิมพ์ภิษาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยอะไรออกมา นอกจากจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลา แต่เต็มไปด้วยรอยแห่งความต้องการเอาชนะของเขา ผู้ชายวันก่อนกับวันนี้ ดูเหมือนจะแตกต่างกันแทบจะคนละคน วันนั้นเขาดูเหมือนเป็นคนอารมณ์ดี ใจดี มีเมตตาต่อเธอไม่น้อย แต่วันนี้ท่าทางเขาดูเคร่งขรึม เหมือนมีเรื่องให้คิดอยู่ในใจมากมาย สายตาของเขาจ้องมองเธอวันนี้ เหมือนเขาและเธอเคยรู้จักกันมาก่อนในอดีต เหมือนเขามีสิ่งค้างคาและต้องการทวงสิทธิ์อันนั้นคืน ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร “ผมไม่ได้จะดึงตัวคุณไว้ตลอดไปหรอกนะ มันแค่ช่วงสั้นๆ อย่างน้อยหกเดือนหรืออย่างมากไม่เกินหนึ่งปี ผมก็จะปล่อยคุณไปแล้ว พร้อมกับรถ บ้าน เงินก้อนโตที่คุณเอาไปตั้งตัว ดูแลคนในครอบครัวได้” “ว่าไงครับ ผมรอการตัดสินใจจากคุณอยู่” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นั่งเงียบ คฑาธรเลยหงุดหงิดเล็กน้อย “ผมไม่มีเวลามาก เพราะทีมงานสร้างโรงแรมกำลังรอคำสั่งจากผม ว่าจะให้เดินหน้าต่อหรือถอยหลัง คุณช่วยคนในครอบครัวได้ ช่วยเพื่อนร่วมอาชีพได้ แต่ผมไม่บังคับหรอกนะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ ส่วนผมยังไงก็ได้ ที่ผมเรียกคุณมายื่นข้อเสนอให้อีกครั้ง เพราะผมมีความเป็นแมนมากพอตัว อันที่จริงผมไปหาผู้หญิงคนไหนก็ได้ สวยกว่า สาวกว่า ทุกคนพร้อมจะพลีกายให้ผมทั้งนั้นแหละ ผมไม่ต้องจ่ายแพงขนาดนี้ด้วย แต่บอกตรงๆ ว่าผมชอบการวางตัวของคุณ ผมเชื่อว่าเราคงจะอยู่กันได้อย่างสบายโดยไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายนัก ผมให้เวลาคุณตัดสินใจในห้องนี้หนึ่งชั่วโมง คิดให้ดีนะครับคุณผู้หญิง หวังว่าเราคงจะมีทางออกที่ดีร่วมกัน” คฑาธรลุกพรวดพราดจากเก้าอี้ จนมันไถลไปด้านหลังเป็นเมตร ใบหน้าหล่อเหลาส่งยิ้มบางๆ ให้ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง โดยไม่คิดจะหันกลับมามองคนนั่งนิ่งเลยสักนิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม