สาวแสนสวยที่เขาเคยลงภาพคู่ในนิตยสารเมื่อนานมาแล้ว แล่นเข้ามาในความคิด เพราะชื่อนี้จำได้ดี และก็รู้ในทันทีว่า อีกไม่ถึงเดือน ตัวเองจะกลายเป็นเมียน้อย เป็นเมียเก็บ เป็นนางบำเรอของเขา
เรี่ยวแรงที่มีเหมือนจะหมดสิ้นลงตรงนั้น จนถึงกับเข่าอ่อนต้องทรุดกายลงนั่งเก้าอี้ราคาเรือนแสนของเขา
ดวงตาคู่เศร้าหมอง จ้องมองการ์ดด้วยความพร่าเลือน เมื่อมีกลุ่มน้ำในตามาบดบังเอาไว้ แล้วมันก็หยดลงไปหาการ์ดสีทองของเขา หญิงสาวพยายามใช้สมาธิในการอ่านรายละเอียดจนครบถ้วน
โดยไม่สนใจว่าน้ำตาจะทำให้ของในมือเปื้อนเปรอะเลย และรู้ด้วยว่า น้ำตาที่ไหลออกมานี้ มันหมายถึงอะไร
‘รักเขาไม่ได้นะไวน์ เขาใจร้ายเกินไป อย่ารักเขาเลย เขาไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนของเขาหรอก นอกจากผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วยเท่านั้น อย่ารักเขา! อย่ารักเขา! อย่ารักเขา!’
ใจสาวเฝ้าพร่ำบอกตัวเองแบบนี้นับสิบๆ ครั้ง แต่น้ำตาก็ยังไหลรินไม่หยุด ในเมื่อห้ามมันไม่ได้ จึงปล่อยให้มันไหลออกมาได้ตามใจชอบ ร้องไห้ให้พอเสียตอนนี้
ตอนไม่มีเขาอยู่ในห้อง พอเขากลับมาแล้ว จะได้ยิ้มให้เขาได้ เพราะบอกกับตัวเองไว้แล้ว ว่าจะไม่เสียใจหรือไม่ร้องไห้ให้เขาเห็นอีก
หลังจากร้องไห้อยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ถึงได้พยายามลุกเดินเข้าห้องนอนตัวเอง มีการ์ดเปื้อนหยดน้ำตาติดมือไปด้วย เพราะไม่อยากให้เขาเห็น
จากนั้นก็รีบไปล้างหน้าให้สะอาดสดใส ด้วยไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ แม้พักหลังๆ มานี้ เขาจะกลับดึกหรือบางคืนก็ไม่กลับเลย และการตระเตรียมงานแต่งคงเป็นสาเหตุนั้น
แต่พอออกมาจากห้อง กลับเห็นเขาเดินเข้ามาพอดี ไม่มีการทักทายกันมาหลายวันเต็มทีแล้ว ถ้าเขาไม่ถามอะไร เธอก็จะไม่เปิดปากเอ่ยก่อน
เลยตรงไปเข้าครัว เพื่อเตรียมอาหารเย็น แม้ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่กินหรือแค่มาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไปอีกรอบก็ตามที
“คุณเก็บโต๊ะให้ผมเหรอ”
หูได้ยินเขาเอ่ยถามอยู่จุดไหนสักแห่งในห้อง แต่ไม่คิดจะมองไป ยังคงให้ความสนใจกับงานครัว ส่วนปากนั้นก็ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงปกติสุด
“ค่ะ”
“คุณเห็นซองสีทองๆ นี่หรือยัง”
“ค่ะ”
“รู้มั้ยว่าเป็นซองอะไร”
“ไม่ทราบค่ะ”
“มันเป็นการ์ดแต่งงานของผมเอง อีกสามอาทิตย์ ผมบอกให้คุณรับรู้ไว้ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง”
“ค่ะ”
นั่นช่างระคายหูคนบอกข่าวเด็ดได้ดียิ่ง ไม่เข้าใจว่าเจ้าหล่อนเป็นคนไร้ความรู้สึกตั้งแต่เมื่อไหร่ ข่าวใหญ่ที่ใครๆ ได้ยินก็ช็อกทั้งวงการอย่างนี้
กลับทำอะไรเจ้าหล่อนไม่ได้ นอกจากท่าทีเฉยเมย ราวกับคุยเรื่องทั่วๆ ไป หรือบางทีเธอาจจะดีใจอยู่ก็เป็นได้ ที่เขาจะมีเวลามาก่อกวนเธอน้อยลง
“นี่คุณไม่ตกใจหรือเสียใจบ้างเหรอ ทั้งๆ ที่สาวทั้งเมืองเสียใจไปตามๆ กัน”
“ทำไมฉันต้องเสียใจด้วยคะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน หรือคุณจะยกเลิกสัญญาแล้วปล่อยฉันไป”
“นี่คุณเกลียดผมมากเลยใช่มั้ย คงจะดีใจสินะที่ผมจะแต่งงาน จะได้ไม่ต้องมายุ่งกับคุณ หรือว่าท่าทีเฉยเมยตอนนี้ เป็นแค่ละครที่คุณแสดงเท่านั้น แต่ลึกๆ คุณเสียใจแทบตาย ในเมื่อผู้ชายที่คุณรักกำลังจะไปมีคนอื่น”
“ความรู้สึกเดียวที่ฉันมีให้คุณก็คือ ‘เกลียด’ เท่านั้น หรือถ้าจะให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นด้วยการยกเลิกสัญญาแล้วปล่อยฉันไปพร้อมกับสิ่งที่คุณบอกว่าจะให้ แต่ยังไงๆ มันก็จะไม่มีคำว่า ‘รัก’ อย่างแน่นอน ฉันมั่นใจ”
“งั้นคุณก็อย่าหวังว่าจะได้ไปไหน ถ้าตราบใดที่คุณยังเกลียดผมอยู่แบบนี้ บอกแล้วไงว่าคุณจะไปได้ ก็ต่อเมื่อคุณรักผมเท่านั้น แล้วอย่าคิดนะว่าแต่งงานแล้ว ผมจะมายุ่งกับคุณไม่ได้ คนอย่างไอ้เบียร์ไม่มีใครห้ามได้หรอก และก็จงจำเอาไว้ด้วยว่า โทษของการเกลียดผม คุณจะได้พบกับความเสียใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ผมจะทำให้คุณได้รู้รสชาติ ของการเสียผู้ชายคนแรกของคุณไปให้ผู้หญิงอื่น ต่อไปคุณจะได้ไม่กล้ามาท้าทายผมไง มานี่!!!”
หญิงสาวผู้ถูกกระชากลากถู ไม่คิดจะร้องออกมาแม้แต่แอะเดียว แม้แต่ตอนถูกเขาเหวี่ยงไปใส่เตียงนอนนุ่ม แล้วตามลงไปลงโทษการท้าทายเขา เธอก็ไม่ปัดป้องตัวเอง
หรือไม่อ้อนวอนแม้แต่คำเดียว ได้แต่ปล่อยให้เขาใช้ความรุนแรงและระบายอารมณ์ให้เต็มที่ แล้วบอกกับตัวเองว่า ให้ทนอีกไม่กี่เดือนก็จะหลุดพ้นจากน้ำมือเขาแล้วเท่านั้น
ทว่ากลับหักห้ามน้ำตาแห่งความเสียใจเอาไว้ไม่ได้ เมื่อคิดถึงตัวอักษรสวยงามบนการ์ดใบนั้น แม้จะบอกว่าเกลียดเขายังไง แต่ทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้
สัมผัสรักอันรุนแรงถูกแปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลแล้วล่ะก็ หัวใจมันกลับเป็นสุขอยู่ลึกๆ แม้จะบอกให้เกลียดเขาสักแค่ไหน แต่ใจมันก็ยังแอบรักเขาอยู่ดี
ขีดทั้งสองบนเครื่องตรวจ ช่างสร้างความกังวล ให้กับคนถือมันไว้เหลือกำลัง เพื่อความแน่ใจ เจ้าของใบหน้าสวยใส รีบบึ่งรถไปยังคลีนิกห่างจากคอนโดไม่กี่ซอย แม้ใจจะว้าวุ่น แต่ก็พยายามควบคุมตัวเองให้นั่งนิ่งๆ รอเวลาหมอเรียก
“ดีใจด้วยนะครับ ตอนนี้น้องได้ห้าสัปดาห์แล้ว...”
และแม้จะมีหลากหลายความรู้สึกรุมเร้าเวลาอยู่หน้าหมอหนุ่ม แต่หญิงสาวก็ยังคงนั่งนิ่งแทบไม่ไหวติง พอออกจากคลีนิกได้ ก็บึ่งรถกลับด้วยอาการของคนมึนงงไม่หาย ไม่รู้ว่าตัวเองพลาดพลั้งเรื่องการป้องกันไปตอนไหน ถึงได้กำลังจะมีอีกชีวิตมาร่วมรับทุกข์กับแม่