ด้วยความกลัวว่าเขาจะมาเห็น เลยต้องรีบเอาผลตรวจซ่อนไว้ในลิ้นชักอย่างดิบดี แต่ในนั้นดันมีการ์ดเปื้อนน้ำตารวมอยู่ด้วย หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างไม่มีความจำเป็น
เพราะจำได้ดีว่าพรุ่งนี้คือวันแต่งงานของเขา น้ำตาแห่งความเสียใจไหลรินออกมาไม่ขาด และไม่รู้สาเหตุ หรือถ้ารู้ ก็ไม่อยากคิด
ไม่รู้ว่าเขาจะเอายังไง กับลูกในท้องของผู้หญิงที่เขาซื้อหามาบำรุงบำเรอ และไม่คิดว่าเขาจะดีใจด้วยซ้ำ ในเมื่อเขากำลังจะมีภรรยาที่พร้อมจะให้ลูกกับเขาอยู่แล้ว
หญิงสาวนับเวลาคร่าวๆ ว่าจากนี้ไปจนครบสัญญา ถ้าจะปกปิดเขาไว้ จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน จากนั้นเธอจะเป็นคนรับผิดชอลูกเอง และไม่คิดจะบอกเขา
เหลืออีกสามเดือนเธอก็จะหลุดพ้นจากเขา บวกอายุครรภ์เข้าไปแล้วได้สี่เดือนกว่าๆ จากประสบการณ์ที่เคยเห็นเพื่อนร่วมงานตั้งท้องมา บางคนห้าเดือนก็ยังไม่มีใครรู้ ถ้าไม่บอก
ขอเพียงให้มีรูปร่างผอมบางเข้าไว้ ท้องแรกมักจะไม่ใหญ่มาก และเขาแต่งงานแล้ว คงไม่มีเวลามายุ่งวุ่นวายมากมายนัก นั่นแปลว่าเธอสามารถปกปิดเขาได้
‘แล้วจะปิดทำไมล่ะ บอกเขาไปเลยสิ เขาจะได้ร่วมรับผิดชอบ’
แต่ก็มีคำถามนี้ผุดขึ้นมา หญิงสาวนั่งใคร่ครวญอยู่หลายต่อหลายรอบ กับคำตอบที่ยังหาแน่นอนไม่ได้ ในเมื่อไม่เคยรู้ใจเขาเลยด้วยซ้ำ
อยู่ร่วมกันมาเกือบเก้าเดือน ยังไม่เคยอ่านออกว่าเขาเป็นคนยังไง คิดอ่านหรือมีแผนการอะไรกักเก็บไว้
‘ถ้าเขาไม่อยากได้ลูก แล้วให้ไปทำแท้งล่ะ เธอจะยอมเหรอไวน์’
และกับอีกหนึ่งคำถามผุดขึ้นมาในหัว ถ้าตัดสินใจบอกเขาออกไป และความเป็นไปได้ก็มีไม่น้อย ว่าเขาอาจจะทำแบบนั้น ก็เธอไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเขา มากไปกว่าอีตัวชั้นสูงที่เขาเก็บไว้ยามต้องการ
แล้วจะเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ยามเบื่อหน่าย เหมือนเขาเคยทำมาแล้วกับผู้หญิงของเขา
หญิงสาวจึงได้คำตอบแล้ว ว่าเขาไม่สมควรได้รับรู้เรื่องนี้ตลอดไป สิ้นสุดสัญญาเมื่อไหร่ เธอจะไปให้ไกลจากเขา จากผู้คนรอบกาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อ น้าดาหรือน้องๆ
เพราะเหนื่อยกับการทำความดี เพื่อแลกกับความรักจากพ่อมากพอแล้ว และเธอกับพ่อก็เหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน ในเมื่อเธอเป็นแค่ลูกชู้ที่พ่อเกลียดเท่านั้น
พอคิดถึงพ่อ!
ก็พลอยคิดถึงฝ่ามือของพ่อ ที่ฟาดลงมาที่หน้าวันนั้น หัวใจมันก็เจ็บร้าวราวจะแดดิ้นให้ได้ สายใยที่คิดว่ามีด้วยกันนั้น พลอยขาดสะบั้นไปในความรู้สึก
ถ้าจะนับจริงๆ
ตอนนี้เธอมีเพียงปานประไพเพื่อนรักคนเดียวในชีวิตเท่านั้น บวกกับอีกหนึ่งชีวิต กำลังจะเกิดมา การหนีหน้าไปไกลๆ ผู้คน คงไม่มีใครสน ไม่มีใครห่วงใย
หูแว่วเสียงประตูปิด แม้เพิ่งจะบ่าย แต่คงเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เขา หญิงสาวรีบเข้าไปล้างหน้าตาให้เรียบร้อย เพราะถือคติว่า จะไม่ให้เขาเห็นน้ำตาอีกแม้แต่หยดเดียว
แม้ในใจจะเจ็บหนัก กับการถูกจับจองด้วยหญิงสาวที่เขารักมาโดยตลอด แต่เธอก็จะยืดอกเข้าไว้ จะยิ้มสู้เข้าไว้ และจะไม่ยอมให้เขาเห็นว่าเธอเสียใจแม้เพียงเสี้ยวนาที
“คุณอยู่นี่เหรอ รีบเก็บเสื้อผ้านะ กะให้ใช้ได้สักสองอาทิตย์ อีกครึ่งชั่วโมงเราจะไปกัน”
จู่ๆ เขาก็เปิดประตูห้องเข้ามาแบบไม่เคาะ สั่งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็ออกไป หญิงสาวไม่คิดจะเปิดปากถามว่าจะไปไหน ในเมื่อยังไงก็ขัดเขาไม่ได้
เลยเดินไปเปิดตู้ ดึงกระเป๋าใบที่ใส่เสื้อผ้ามาวันแรก แล้วจัดเก็บทุกอย่างที่คิดว่าต้องใช้ใส่ไป พอเสร็จก็ไม่ได้ออกไปบอกเขา แต่นั่งรอให้เขามาเรียก
“เสร็จหรือยัง เดี๋ยวรถจะติด”
แล้วเขาก็เปิดประตูเข้ามาแบบไม่เคาะอีกครั้ง และยังแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการเดินมาหิ้วกระเป๋าให้ อีกมือที่ว่างก็จูงมือบางเดินออกไป
ไม่นานก็ถูกเขาพาเข้าไปนั่งในรถสปอร์ตหรูแล้วขับออกไป โดยไม่บอกจุดหมายปลายทาง ส่วนเธอก็ไม่คิดจะถาม
ชั่วโมงกว่าๆ ก็เห็นเขาเลี้ยวรถเข้าประตูไม้ทึบ ขนาบข้างด้วยกำแพงสูงราวสามเมตรในเขตจังหวัดนครปฐม พอกดรีโมทคอนโทรลปิดประตูแล้ว
เขาลดกระจกรถลง ปิดแอร์ ขับช้าๆ ไปตามถนนคอนกรีต สองข้างทางเต็มไปด้วยไม้ดอก ไม้ผล มีคนงานกำลังสอยมะม่วงอยู่ไม่ไกล
สักพักรถก็จอดอยู่หน้าบ้านทรงไทย ยกพื้นสูงราวเมตรนิดๆ ปลูกติดกับบึงน้ำกว้างใหญ่ มีบัวแดง บัวหลวงขึ้นเต็มฝั่งตัวบ้าน ส่วนอีกฝั่งติดกับสวน มีเรือไม้เก่าๆ จอดอยู่ท่า
พิมพ์ภิษาออกไปยืนอยู่นิ่งๆ เมื่อเขาเดินอ้อมไปหิ้วกระเป๋าออกมา นั่นแปลว่านี่คือจุดหมายปลายทางแล้ว
“นี่เป็นบ้านย่าผม คุณจะอยู่กับท่านระหว่างผมไปฮันนีมูนกับเมีย ไปกันเถอะ ย่าคงจะอยู่ตรงระเบียงน้ำ”
แม้จะแสลงใจในคำบอกแบบง่ายๆ ของเขา แต่หญิงสาวก็พยายามควบคุมสีหน้า และท่าทางเอาไว้ให้ปกติสุด เดินตามเขาขึ้นไปบนบ้าน มีบันไดเพียงห้าขั้นเท่านั้น
เขาถอดรองเท้าแล้วเดินทะลุห้องโถงออกไปยังระเบียงไม้กว้างใหญ่ ยื่นเข้าไปในบึงน้ำ ลมพัดเย็นๆ โชยมาต้องกาย
“อ้าว! พ่อตัวดี! เกิดอะไรขึ้นล่ะถึงมาได้ ไม่เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวหรือไง”
เสียงของ ‘ย่าเงิน กองทอง’ ผู้ไม่ยอมทิ้งนามสกุลของสามี ไปใช้นามสกุลใหม่เหมือนลูกกับหลานชายคนเดียวทักทายด้วยใบหน้างงน้อยๆ ในการมาของหลาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีหญิงสาวสวยติดมือมาด้วยแบบนี้
ส่วนสาวสวยที่เดินตามเขาไปยังระเบียง มีตั่งขนาดใหญ่และผู้สูงวัยนั่งร้อยมาลัยอยู่ หญิงวัยกลางคนนั่งช่วยเด็ดก้านมะลิให้ เขาทรุดกายลงกับตั่งแล้วยกมือไหว้ย่าด้วยท่าทีนอบน้อม