“มาแล้วเหรอ!”
หนุ่มใหญ่วัยหกสิบห้านาม ‘ไพทัช ไวทยาพาณิชย์’ หรืออีกชื่อในอดีตคือ ‘ไพรัช กองทอง’ เอ่ยทักทาย แม้กายส่วนบนจะกำลังถูกสาวชุดล้านนาบีบนวด ในท่านอนตะคองหันหลังให้อยู่ก็ตาม
แต่ก็รู้จากเสียงฝีเท้า ว่าเป็นของลูกชายได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งถ้าจะมีใครมาหา ก็ต้องนัดล่วงหน้าก่อนเสมอ เพราะไม่ชอบต้อนรับแขกแบบไม่ได้ตั้งตัว
“แหม! พ่อนี่จมูกไวเหมือนเดิมนะครับ”
ลูกชายแซวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะทิ้งกายลงนอนบนเดย์เบดตั้งอยู่ฝั่งสวนดอกไม้ มองผ่านกระจกออกไปให้ความรู้สึกสดชื่นไม่น้อย เครื่องปรับอากาศภายในศาลาเปิดจนเย็นฉ่ำ
ช่วยขับความร้อนอบอ้าวข้างนอก ให้อยู่ห่างไกลสองพ่อลูกได้เป็นอย่างดี
“ไอ้ลูกบ้า! ว่าฉันเป็นหมาแต่หัววันเชียวนะ”
คฑาธรไม่ว่าอะไรนอกจากจ้องมองพ่อ เปลี่ยนท่านอนตะแคงหันหลังให้มาเป็นหงาย โดยมีสาวค่อยๆ ช่วยพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง เอนหลังกับเบาะไฟฟ้าปรับระดับได้ตามแต่ใจต้องการ
“แล้ววันนี้ว่างหรือไง”
“ครับ” เขาหันมองรถไฟฟ้า จอดชาร์จแบตเตอรี่อยู่ข้างเสา
“สีรถพ่อนี่นะ”
แซวแล้วยิ้มกับรถสีแดงเลือดหมู ซึ่งพ่อเป็นคนเลือกเองตอนสั่งซื้อคันใหม่ให้เมื่ออาทิตย์ก่อน แม้พ่อจะอยู่ในวัยหกสิบห้า และไปไหนมาไหนต้องนั่งรถไฟฟ้า
แทนการเดินมาเกือบสิบปีแล้ว แต่เขาก็เห็นพ่อทำตัวเป็นวัยรุ่นกระชากอายุลงเป็นยี่สิบปีเสมอ
“อ้าว! ก็สีนี้คนขายบอกว่าวัยรุ่นฮิตนี่”
การเลือกเสื้อผ้าหรือของใช้ ก็ผิดแผกจากวัยเสมอ รวมทั้งบรรดาสาวๆ ที่พ่อโทรเรียกจากร้านนวดแผนโบราณมา จะต้องมีอายุยี่สิบต้นๆ เท่านั้น เพราะชอบมองคนสาวมากกว่าคนแก่
อย่างป้าผายหรือสาวอายุใกล้สามสิบ บวกกับหุ่นอยู่ในช่วงอวบระยะสุดท้ายอย่างพอดี แต่ดูเหมือนจะเกินพอดีไปเสียทุกอย่าง
“หนูไปเบรคกินขนมก่อน บ่ายๆ ค่อยมานวดให้ป๋าอีก ขอบใจมากจ้ะ”
ไพทัชส่งเสียงหวานให้สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม สายตานั้นก็กรุ้มกริ่ม ประหนึ่งหนุ่มสามสิบต้นๆ เขารอจนเด็กสาวเดินพ้นประตูศาลาออกไปแล้ว ถึงได้หันไปหาลูกชาย ผู้นอนเอนกายอยู่อย่างสบายอารมณ์
“เป็นยังไงบ้าง ทำอะไรไปถึงไหนแล้ว”
คฑาธรรู้ดีว่าพ่อไม่ได้หมายถึงเรื่องงานสักนิด แต่กำลังอยากรู้ความคืบหน้า เรื่องที่ไหว้วานให้เขาช่วยจัดการกับศัตรูหมายเลขหนึ่งของพ่อ และพลอยเป็นศัตรูของครอบครัวเขาไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเขากับย่า ก็ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อครั้งถูกศัตรูรุกราน
“ก็กำลังไปเรื่อยๆ ครับ แล้วทางพ่อล่ะ เป็นยังไงบ้าง เดือนนี้ได้กำไรกี่ล้าน”
จากกิจการที่งอกเงยขมาอีกหลายบริษัทแล้วนั้น แต่ก็ยังมีกิจการแรกที่พ่อกับเขาช่วยกันสร้างขึ้นมา โดยผู้มีพระคุณให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น นั่นคือ ‘บริษัท KH2O จำกัด’[1] ซึ่งขายน้ำดื่มบรรจุขวด
หลังจากวางระบบไว้อย่างรัดกุมและลงตัวแล้ว เขาก็ปล่อยให้พ่อเป็นคนดูแลเพียงผู้เดียวมาไม่น้อยกว่าห้าปี เพื่อกันไม่ให้พ่อเหงาและรู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่าอยู่
“แกไม่ต้องมาถามหรอก เรื่องแค่นี้ฉันทำได้สบายๆ อยู่แล้ว”
ไพทัชมองลูกแล้วยิ้มอย่างรู้กัน ระหว่างพ่อลูกไม่ต้องใช้คำพูดอะไรมากมายก็สื่อได้ไม่ยาก หากจะว่าไปแล้วเขากับพ่อถือได้ว่าสนิทสนมกันประหนึ่งเพื่อนเลย ไม่ว่าจะทำอะไรต่างเห็นดีเห็นงามด้วยกันแทบทั้งสิ้น
ยิ่งเป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว ยิ่งไม่มีใครห้ามใคร ถ้าเห็นว่านั่นคือความสุขของอีกฝ่าย เช่นเรื่องผู้หญิง ไพทัชไม่เคยปริปากบ่นใดๆ ไม่ว่าลูกชายจะควงใครหรือจะเลี้ยงดูปูเสื่อใครมากน้อยแค่ไหนหรือคราวละกี่คน หมดเงินไปกี่ล้าน
พอๆ กับลูกเองก็ไม่เคยว่าพ่อ ที่เลี้ยงดูปูเสื่อสาวๆ เอาไว้หลายคน ตั้งแต่สมัยพ่อยังไม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนกลายเป็นคนพิการมาแล้ว
เพราะถือว่านั่นคือความสุขของพ่อพึงมีพึงหาได้ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาไม่สนว่าใครจะมองพ่อยังไง
ขอให้พ่อมีความสุขก็พอ หลังจากที่เกือบครึ่งชีวิตของพ่อประสบแต่ความทุกข์ยากมา เขาก็ไม่เคยคิดขัดขวางเลยแม้แต่เรื่องเดียว อยากทำอะไรหรืออยากให้เขาทำอะไร ถ้าไม่ยุ่งยากมากหรือไม่เหนือบ่ากว่าแรงนักเขาก็จะรีบทำให้
เหมือนตอนนี้ พ่ออยากให้เขาเล่นงานศัตรูตัวฉกาจ ที่เคยทำลายชีวิตพ่อและชีวิตของเขามาแล้วในอดีต ให้ได้รับกับผลกรรม แม้ความแค้นเคืองในใจเขาจะมีไม่ถึงครึ่งของพ่อ
แต่ก็ยินดีจัดการให้ เพราะรู้และเห็นว่าพ่อถูกกระทำอย่างไร ได้รับผลกระทบจากการกระทำของศัตรูยังไง
เขาถึงไม่คิดจะห้าม แถมทำตามที่พ่อขอร้องเป็นอย่างดี มิหนำซ้ำยังคิดจะเอาคืนจากศัตรูให้แสบสันกว่าพ่อคิดฝันเอาไว้หลายสิบเท่าเสียอีก แต่ตอนนี้เขาจะยังไม่เปิดเผยแผนการให้พ่อรู้
เพราะมันยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากพอ เขาจะรอให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนก่อน แล้วจะให้พ่อยิ้มกริ่มอย่างสาสมใจภายหลัง
“แกจะทำยังไงก็ทำไป แต่อย่าลืมพาฉันไปดู ตอนมันกำลังจนตรอกก็แล้วกัน ฉันอยากเห็นว่ามันจะทำหน้ายังไง ถ้ารู้ว่าฉันเป็นคนทำให้ชีวิตมันยุ่งยากก่อนมันจะตาย”
ไพทัชส่งน้ำเสียงหนักแน่นไปหาลูก ที่ยังคงนอนจ้องมองออกไปหาสวนดอกไม้อยู่นิ่งๆ วาดภาพตัวเองไม่ออก ว่าจะสะใจแค่ไหน ถ้าวันนั้นเดินทางมาถึง
อันที่จริงเขากับลูกสามารถย่ำศัตรู ที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้แบบสมน้ำสมเนื้อได้ทุกเมื่อเชื่อวัน ในตอนนี้เลย แต่ก็ยังไม่ได้เร่งรีบจะลงมือเท่านั้น
[1] K มาจากชื่อ คฑาธร, H2O หมายถึงน้ำบริสุทธิ์ มีสูตรทางเคมีคือ 1 โมเลกุลของน้ำบริสุทธิ์ ประกอบด้วยไฮโดรเจน 2 อะตอม ออกซิเจน 1 อะตอม