และเขา มีเลือดมีเนื้อ มีความต้องการเช่นกัน เพียงแต่รั้งรอความรักที่ถูกต้อง ให้มันเดินทางมาหาตัวเอง จะดีที่สุด แม้จะเป็นการรอคอยก็ตาม คิดแบบคนมีอารมณ์ฝัน จินตนาการที่เหลือเฟือ
ใช่ว่าเขา ไม่เคยพบพานกับความรัก เขาเคยเจอะเจอกับมันมาแล้ว ชายหนุ่มสู้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แทบไม่เคยแพร่งพรายหรือเปิดปากให้ใครรู้ เพราะคิดว่า มันไม่สำคัญ ในเมื่อมันเป็นอดีต พยายามถมมันทิ้ง
มิตรภาพของคำว่าเพื่อน มันจบลงด้วยความบาดหมาง เพราะเพื่อนมาทรยศหักหลัง แย่งชิงคนรักของเพื่อน เขาจำต้อง แบกรับความผิดหวัง บัดนี้ แม้แต่หน้าตา ก็ไม่อยากเห็น และเอ่ยชื่อ กลายเป็นมองหน้ากันไม่ติด ซึ่งมัน เหมือนกับความแค้นที่ฝังแน่น
ยังไม่ถึงวัน ที่เขาจะได้ไปหาหลานชาย ย็นวันนี้ พสวีแวะเข้าศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ชื่อดัง ที่ตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ ถือว่าอยู่ใกล้บ้านเขามากที่สุด สะดวกสบาย มีข้าวของให้เลือกซื้อหาอย่างครบครัน
แต่ดันต้องมาเจอะเจอหน้าคนที่ไม่พึงประสงค์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เสียอีกด้วย ก็จะมีใครเล่า ก็พ่อยอดชายคาสโนวา ที่เพิ่งหย่าขาดจากพี่สาวของเขาไปหมาดๆ กับหญิงสาวที่เข้ามาแทนที่ ถือว่าหล่อน สวยเปรี้ยวและเก่ไก๋
เมื่อมองเห็นใบหน้าของหล่อนที่จิ้มลิ้ม ช่างฉอเลาะออเซาะ และเกาะแขนชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตพี่เขยไม่ห่างกายอย่างนี้ เลือดร้อนพล่านริษยาเกิดขึ้นแทนพี่สาว แม้ว่าทั้งคู่จะเลิกราจากกันแล้วก็ตาม
จึงได้แต่ห้ามปรามตัวเองว่า เขาไม่มีสิทธิ์คิดอย่างนั้น ทำให้ใบหน้าคมคายที่เรียบของพสวีตึงขึ้นมาทันที แต่แล้วก็เบือนไปทางอื่น อย่างไม่สนใจภาพนั้น เพราะผู้หญิงในชุดสีชมพูเป็นเดรสเกาะอก ที่แสดงให้เห็นว่า หล่อนมีความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มที่
ทำให้ พสวี มองภาพนั้นด้วยอารมณ์แค้นเคือง ข้างแก้มมีรอยตึง เหมือนซ่อนความรู้สึกที่ไม่พอใจ แต่ต้องทักทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โมนยิ้มให้เขาอย่างยินดี
“อ้าวนายพส มาเดินเที่ยวที่นี่ด้วยหรือ บังเอิญเหลือเกินนะ ไม่นึกว่านายจะพักอยู่แถวนี้”
อดีตพี่เขยเอ่ยทักเขาก่อน
เขาจะตั้งรับพี่เขยที่กลายเป็นอดีตไปแล้วคนนี้อย่างไร ไม่อยากจะนึกเสวนาด้วย
แต่โมนก็มาดี เลยยิ้มให้นิดหนึ่งตามารยาทเท่านั้น แค่นยิ้มตอบ
“เหรอ ที่คุณโมน คิดว่าเป็นความบังเอิญ และผมเองก็ไม่เคยนึกเหมือนกันว่า คุณโมน เอ้อ กับคุณภรรยาคนใหม่ ก็ใจตรงกันเด๊ะ และคงจะมีนิวาสถานอยู่ใกล้ๆนี้แน่นอน”
พสวีพูดตามปาก ไม่ได้คิดจริงจังกับคำพูดสักเท่าใด จะว่าไป เขาก็อยากจะพูดแหย่ อีกฝ่ายเช่นกัน
และ ผู้หญิงคนใหม่ ที่หล่อน ชื่อชาดาวี ซึ่งทำให้หล่อน เงยหน้ามองคนโน้นทีคนนี้ที ด้วยสายตาที่เลิ่กลัก ที่สุดมาหยุดสายตาลงที่ปรไมยสามีหนุ่ม สามีของหล่อนไปรู้จักผู้ชายท่าทีถือดีจองหองคนนี้ได้อย่างไร?
แค่คิดเท่านั้น ชาดาวีก็หัวเสียอารมณ์บึ้งตึงขึ้นมาทันที
“ใช่ บ้านใหม่ พี่ เพิ่งซื้อได้ไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ รู้สึกชอบกับบรรยากาศ ที่สงบร่มรื่นดี”
ท่าทางและคำพูดที่ปรไมยเอ่ยบอกแก่เขานั้น ทราบว่า คนคู่นี้มีความสุขดี ก็กลับตวัดไปนึกถึง พี่สาวและหลานชาย ป่านนี้ทั้งคู่จะอยู่กันอย่างไร
ทุกคนเมื่อต้องการความรัก รักเกิดกลางใจแล้ว ย่อมอยากจะให้ยั่งยืน อยู่นานตราบนิรันดร์ เพื่อยืนยัน ความหมายของรักแท้ อดคิดไม่ได้ว่า รักแท้ของเขาจะเป็นอย่างไร? แล้วหน้าตาผู้หญิงที่จะเป็นคู่ครองของเขาล่ะ บางทีบุพเพสันนิวาส หรือว่า พรหมลิขิต มันอาจจะมาแบบบังเอิญ
หลังจากที่ยุติคำพูดสนทนากับปรไมยไปแล้ว พสวีก็ขอตัวเบี่ยงเดินไปอีกด้าน
ขณะที่ปรไมยนัดน้องสาวมาที่นี่ด้วย กำลังโทร.หา และอยู่ในช่วงระหว่างที่ ขิมมพัสตร์ ใกล้จะเดินทางมาถึง เพราะรถส่วนตัวของหล่อนเลี้ยวเข้ามาในศูนย์การค้าแล้ว ตอนนี้กำลังหาที่จอดอยู่
ขิมมพัสตร์ ไม่ค่อยถูกชะตากับพี่สะใภ้คนใหม่สักเท่าใด แต่หล่อนก็วางตัวเหมือนเช่นปกติ ไม่ได้นึกแคร์ชาดาวีสักนิด
เพราะปกติหางตาของหล่อนนั้น ก็ไม่เคยเหลือบแลผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว เป็นเพราะอะไร? น่าจะเป็นเหตุผลส่วนตัว
ขณะเดียวกัน ฝ่ายชาดาวี ก็ไม่ได้มองหล่อนแบบยกย่องในฐานะน้องสาวสามีสักเท่าใดนัก แต่ยามอยู่ต่อหน้าสามี หล่อนก็จะใช้สายตาและท่าที ที่เหมือนกับว่า หล่อนมีไมตรีจิตและมนุษยสัมพันธ์ตอบ
ซึ่งขิมมพัสตร์ ก็ไม่ได้สนใจหรอก เพราะนั่นคือ การเสแสร้งและเล่นละครตบตาต่างหาก
ที่แท้ชาดาวี ก็แกล้งทำแอ๊บแบ๊ว สวมหน้ากากใส่
และคนอย่างขิมมพัสตร์ นั้นไม่ใช่คนโง่
แล้ว ครู่ต่อมา ทำให้ขิมมพัสตร์เองเบิกสายตากว้าง
หล่อนแน่ใจว่า ชายหนุ่มตรงหน้าที่เธอได้มาเห็นนั้น
เหมือนสายตาที่ ออกจะคุ้นเคย และคิดว่า เขา ต้องเป็นคนเดียวกับที่ ไปเยือนที่บ้านของหล่อนมาแล้ว
คิดว่า ใช่แน่นอน
ซึ่งเขา มารับหลานชายของหล่อนออกไป ในวันนั้นแน่
แล้วเขามาที่นี่ทำไม? และมากับใคร
นางแบบสาวร่างระหง อดครุ่นคิดไม่ได้ที่ในดวงตาคู่สวยของหล่อน
วันนี้ หล่อนก็ถือว่า นางแบบสาวได้แต่งกายที่ดูเริ่ด และเปรี้ยวมากที่สุด ด้วยชุดเดรสลายผ้าพิมพ์ดอกไม้
ส่วนเขา พสวี ยังมองไม่เห็นหล่อน
เพราะหล่อนสัญญากับพี่ชายตัวดีแล้วว่าจะมาที่นี่ตามคำขอร้องของเขา
แม้ว่าอีกคนที่ถือว่า หล่อนนั้นได้ก้าวมาเป็นพี่สะใภ้คนใหม่ของขิมมพัสตร์แล้ว
แต่ว่า หล่อนก็ยังไม่ถูกชะตาด้วย
วันนี้นั้น งานของขิมมพัสตร์ ก็เพิ่งจะเสร็จเอาในช่วงบ่ายสี่โมงตรง
และหล่อนก็ใช้เวลาแต่งตัวอยู่ในกองเพิ่มอีก
ก่อนจะตรงดิ่งมาที่ศูนย์การค้าหรูหราบนถนนศรีนครินทร์อย่างนี้
แต่ก็เสียเวลานั่งแต่งหน้าอยู่กับรถต่อ
ก่อนจะก้าวนวยนาดเดินมาชั้นบน เพื่อเหลือบสายตามองหาพี่ชาย ที่ยังจุดนัดพบซึ่งเขานัดเธอไว้
แต่เมื่อเห็นเขาชัดแล้ว ขิมมพัสตร์เลยเอ่ย