ความรู้สึกซ่อนเร้น 1.2

1832 คำ
นันท์นภัสสวยงามมากกว่าทุกวันที่เขาเห็น เรือนร่างสวยสะโอดสะองถูกปกปิดด้วยชุดราตรีเกาะอกสีน้ำเงินเข้มขับกับสีผิวขาวลออให้แลดูโดดเด่น ชุดราตรีแนบลำตัวยาวกรอมเท้า มีรอยผ่าด้านข้างยาวถึงกลางขาอ่อนชวนให้น้ำลายสอยามที่เธอเยี่ยงกายเดิน ที่น่ามองมาที่สุดคงหนีไม่พ้น เนินอกอวบใหญ่โผล่ล้นออกมาน่าชิม น่าลิ้มรสยิ่งนัก ดวงหน้าหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาไม่จัดจ้าน เส้นผมถูกเกล้าเป็นมวยอยู่บริเวณท้ายทอย งามสง่าจนชายหนุ่มหลายคนเหลียวหลังมอง แม้แต่เขายังตกอยู่ในอาการภวังค์ หลงมนต์เสน่ห์ความงามของเธอ “เป็นไง ตะลึงเลยเหรอ” แอมโตนิโอเย้าญาติหนุ่มที่มองนันท์นภัสตาค้าง เมื่อกี้ยังบอกว่าไม่สน แต่พอเอาเข้าจริง ตะลึงราวกับโดนมนต์สะกด “ตะลึงบ้าบออะไร ฉันแค่กำลังคิดว่า มัมคงหมดเงินไปเยอะเลยกว่ายายแมวจรจัดจะสวยสมใจแบบนี้ เสียเงินเสียทองเปล่าๆ” อูโก้แกตัวทันท่วงที ไม่มีทาง เขาไม่มีวันหลงมนต์เสน่ห์ของนันท์นภัสแน่นอน ถ้าจะหลงคงหลงไปตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านมาหลายปีอย่างนี้ แอมโตนิโออมยิ้มกับคำพูดคนปากแข็ง เขาอยากให้อูโก้ลองเปิดใจรับนันท์นภัสบ้าง ผู้หญิงคนนี้รักอูโก้อย่างแท้จริง ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน แม้จะรู้ตัวว่าไม่มีทางเข้าไปอยู่ในใจของอีกฝ่ายได้ “ดีใจด้วยนะนีโอ เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ไม่เหมือนอูโก้เลย รายนี้น่ะไม่รู้จะแต่งงานเมื่อไหร่ ป้าอยากอุ้มหลานเร็วๆ” มากาเร็ตมารดาของอูโก้กล่าวแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าว หลังจากที่ทักทายน้องสามีเรียบร้อยแล้ว แถมท้ายยังแขวะลูกชายของตัวเองอีกด้วย “คุณป้าก็หาเมียให้อูโก้สักคนสิครับ แคทก็ได้” แอมโตนิโอพูดทีเล่นทีจริง อูโก้หันขวับมามองผู้พูดด้วยความไม่พอใจ นันท์นภัสเนี่ยนะจะมาเป็นภรรยาของเขา ไม่มีทาง ฐานะนางบำเรออาจจะได้ แต่ฐานะภรรยาและแม่ของลูกคงไม่ไหว นันท์นภัสแก้มแดงเรื่อเมื่อถูกหยอกเข้าแบบนี้ “ไม่ได้หรอกจ้ะ สำหรับแคท ป้าจะเก็บไว้ให้คนอื่น ให้อูโก้ไปหาเอาเอง” มากาเร็ตพูดโต้กลับทันที หากว่านางรู้ความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างลูกชายกับนันท์นภัส นางจะไม่คิดและพูดอย่างนี้ออกมาเลย นางจะรีบจัดการแต่งงานให้ทั้งสองทันที “ใครเค้าจะเอาครับคุณแม่ ผู้หญิงมือสองแบบนี้” อูโก้พูดออกไปอย่างไม่ไว้หน้า นึกหมั่นไส้ที่มารดาเป็นแม่สื่อแม่ชักในการหาคู่ให้แมวไม่มีที่อยู่ เขาอยากรู้เหลือเกินว่า หากมารดารู้ว่าเขานี่แหละที่เป็นคนกระชากพรหมจรรย์ของคนดูแลมารดายังคิดจะหาคู่ให้กับผู้หญิงคนนี้อีกหรือไม่ สีหน้าของนันท์นภัสเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด น้ำตาปริ่มขอบตารับความรู้สึกเสียใจที่ประดังเข้ามาในอก “ลูกก็พูดไปเรื่อย มือสองที่ไหน แคทเค้ายังไม่เคยมีแฟนจะมือสองได้ยังไง เข้าไปในงานดีกว่าแคท แจ็คคงคอยเราอยู่ในงานแล้ว” มากาเร็ตจูงมือนันท์นภัสเข้าไปในงานทันทีที่พูดจบ ไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าของตุ๊กตาแสนสวยที่นางบรรจงแต่งตัวให้เลย “อูโก้ นายจะไปไหนน่ะ ไม่ยืนเป็นเพื่อนฉันเหรอ” แอมโตนิโอถามอูโก้ด้วยรอยยิ้ม ทำให้เท้าของอูโก้ที่กำลังเดินตามหลังบิดาและมารดาชะงักลง ก่อนที่เขาจะหันมาตอบคำถามของเจ้าบ่าว “ฉันจะเข้าไปกินน้ำ หิวน้ำ” เจ้าบ่าวอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ พูดมาได้ว่าจะเข้าไปดื่มน้ำ ดื่มตรงนี้ก็ได้ ด้านหน้างานก็มีบริการเดินถือถาดน้ำ ที่มีน้ำหลากชนิดให้เลือกดื่มกิน ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในงานเลย แอมโตนิโอไม่ร้องค้าน มองดูร่างของอูโก้ที่เดินหายเข้าไปในงาน กำแพงคอนกรีตเริ่มถูกน้ำกัดเซาะบ้างแล้ว ไม่นานคงจะพังทลายลงมา อาจจะมองว่ายากแต่มันก็ไม่แน่ ตราบใดที่มีความหวัง แอมโตนิโอหวังว่า สักวันนันท์นภัสจะทำได้สำเร็จ “ผู้หญิงที่ชื่อแคทเป็นใครคะ” บัวบุษยาเอ่ยถามสามีทันทีที่ร่างของอูโก้เดินห่างออกไป เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เธอฝึกฝนพูดภาษาอิตาเลียนได้บ้างแล้ว แม้ว่าจะยังไม่คล่อง แต่พอที่จะเข้าใจการสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ “เรื่องมันยาวน่ะ วันหลังจะเล่าให้ฟังนะ” ใช่...เรื่องนี้หากจะเล่าก็ต้องเล่ากันยาว เวลากระชั้นอย่างนี้ไม่เหมาะที่จะพูดคุยเรื่องนี้ด้วย ตอนนี้เป็นเวลาแห่งความสุขของเขาและเธอมากกว่า แอมโตนิโอจึงตัดเรื่องของอูโก้ออกไป ต้อนรับแขกที่ทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีต่อไปก่อนที่คู่บ่าวสาวจะเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงในอีกสิบห้านาทีต่อมา งานเลี้ยงฉลองวันชื่นคืนสุขเดินทางมาถึงจุดสำคัญ คู่บ่าวสาวยืนเคียงคู่อยู่บนเวที แอมโตนิโอทำเซอร์ไพรส์บัวบุษยาด้วยการนำผ้าสีขาวมาปิดทับดวงตาทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ เซสโต้เดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อนำเครื่องดนตรีบางอย่างไปให้เจ้านายหนุ่ม แอมโตนิโอรับไวโอลีนที่ลูกน้องนำขึ้นมาให้เขาพยักหน้าให้เซสโต้แกะผ้าสีขาวที่ปิดทับดวงตาของเธอออก ก่อนจะเริ่มสีไวโอลีนบทเพลง...พร้อมกับภาพนิ่งของบัวบุษยาและตัวเขาในอิริยาบถต่างๆ ปรากฏขึ้นจอขนาดยักษ์ ในระหว่างที่เจ้าบ่าวกำลังบรรเลงบทเพลงอ่อนหวานและภาพนิ่งหลายภาพดำเนินไปอยู่นั้น กลีบดอกกุหลาบสีขาวนับหมื่นนับแสนกลีบถูกโปรยลงมาตลอดเวลา ท่ามกลางความยินดีของทุกคน ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่พุ่งตรงไปยังบนเวที ทุกคนมีแต่รอยยิ้มประดับบนใบหน้า จะมีเพียงอูโก้คนเดียวเท่านั้นที่มีอารมณ์ต่างจากคนอื่น ในใจของเขาแอบอิจฉาความรักของญาติหนุ่มที่สุขสมหวัง ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองรัก ต่างกับเขาที่จมปลักอยู่กับความรักที่เจ็บปวด รักที่ผิดหวัง อูโก้ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาจะมีโอกาสได้ทำเซอร์ไพรส์ในลักษณะนี้กับเจ้าสาวหรือไม่ ใบหน้าของอูโก้เริ่มบึ้งตึง ดวงตาขุ่นมัว เผลอกำมือแน่นเมื่อเขาเบนสายตาไปยังร่างของนันท์นภัส ก็เห็รแจ็คกี้ยืนเบียดชิดร่างกายของเธอ และดูท่าทางของนันท์นภัสก็ไม่มีทีท่าถอยห่างอีกด้วย เต็มใจให้แจ็คกี้ยืนแนบกาย เห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้ เขาไม่ได้หึงหวงที่แมวตัวน้อยกำลังมีเจ้าของใหม่ เธอจะเป็นของใครเขาไม่สนอยู่แล้ว เพราะเขาเองก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับเธออยู่แล้ว เห็นเธอเป็นเพียงของเล่นชิ้นหนึ่งที่เอาไว้เล่นคลายเหงาเท่านั้น อูโก้เองไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดจึงรู้สึกหงุดหงิด ไม่พอใจที่เห็นชายอื่นสนิทสนมกับเธอ อาจเป็นเพราะว่าเขายังไม่เบื่อ ยังอยากจะเล่นของเล่นชิ้นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ ไม่มอง เดินไปสมทบกับกลุ่มเพื่อนที่อยู่ไม่ไกล งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรางานฉลองวันวิวาห์นี้ก็เช่นเดียวกัน แขกเหรื่อเริ่มทยอยกันเดินทางกลับบ้าน เมื่อถึงเวลาอันสมควร เป็นอีกครั้งที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวออกมายืนส่งแขกหน้าห้องจัดเลี้ยง จนกระทั่งแขกคนสุดท้ายเดินออกไปจากงาน เหลือเพียงญาติสนิทของฝ่ายเจ้าบ่าวเท่านั้น “ลุงดีใจด้วยนะนีโอ รีบๆ มีลูกเร็วๆ ล่ะ ท่าทางแม่ของหลานอยากจะอุ้มหลานเต็มทีแล้ว” ซัคคาร์โด้ผู้เป็นลุงเอ่ยแซวหลานชาย แอมโตนิโอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะตอบคำถามออกไป “ผมจะพยายามทำการบ้านทุกวันครับคุณลุง เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอนไม่ติดลูกให้มันรู้ไป” แอมโตนิโอพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นกับความพยายามที่จะผลิตทายาท บัวบุษยาก้มหน้างุด ความเขินอายประดับแทรกซึมอยู่บนใบหน้าสวย สีแดงระเรื่อกระจายเลยไปถึงลำคอ แอบหยิกท่อนแขนของสามีแรงๆ คนที่ถูกหยิกหน้าบิดเบี้ยว ร้อง “โอ๊ย!” ออกมาดังลั่น เสียงหัวเราะขำขันกับกิริยาของหมาป่าล่าเนื้อตอนโดนลูกกวางตัวเล็กหยิก น่าตลกนักเชียว “กลับกันดีกว่านะ เจ้าบ่าวจะได้ทำตามความตั้งใจไว้” ซัคคาร์โด้ยังแซวไม่หยุด ทั้งหมดจึงเดินตรงไปยังลานจอดรถที่อยู่ชั้นเดียวกับห้องจัดเลี้ยง รถยนต์หกคันจอดเรียงกันเป็นแถวยาว พาโอลีน่ากับนวลจันทร์เข้าไปนั่งในรถยนต์คันแรก แอมโตนิโอกับบัวบุษยาก้าวเข้าไปนั่งในรถยนต์คันที่สอง ส่วนคันที่สามเป็นรถยนต์ส่วนตัวของอูโก้ “แล้วคนดีของมัมไปไหนครับ ผมไม่เห็นตั้งแต่อยู่ในงานแล้ว” ตอนแรกเขาไม่คิดที่จะถาม แต่มันก็อดไม่ได้เพราะอูโก้ไม่เห็นนันท์นภัสตั้งแต่เขาเดินกลับมาที่โต๊ะวีไอพี จนกระทั่งถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เห็นหน้าของนันท์นภัสเลย “แจ็คขออนุญาตมัม พาแคทไปฟังเพลงน่ะ เดี๋ยแจ็คจะไปส่งแคทที่บ้านเอง” คำตอบของผู้เป็นแม่ ทำให้สีหน้าของอูโก้ตึงขึ้นมากกว่าเดิม “ระวังเถอะครับ แม่คนดีเลิศประเสริฐศรีของมัม จะท้องก่อนแต่ง” อูโก้กระแทกเสียงพูด “ก็ดีน่ะสิ มัมจะได้อุ้มหลานเร็วๆ รอลูกน่ะเหรอ ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ก็ไม่รู้จะได้อุ้มหลานหรือเปล่า” มากาเร็ตพูดจบก็เดินไปขึ้นรถยนต์พร้อมสามีทันที ความโกรธวิ่งเข้ามาในใจของอูโก้ทันที เขาไม่เข้าใจเลยว่า นันท์นภัสมีอะไรดีเหตุใดมารดาจึงรักนักรักหนา รักยิ่งกว่าเขาเสียอีก มือหนากระชากประตูรถยนต์ด้านคนขับอย่างแรง ตามด้วยเสียงปิดประตูปังใหญ่ ก่อนจะติดเครื่องยนต์ ขับรถพุ่งออกไปเหมือนคนอารมณ์ไม่ดี ใช่...ตอนนี้เขากำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างหนัก หัวใจมันพลุ่งพล่านยังไงบอกไม่ถูก ยิ่งคิดถึงภาพตอนที่แจ็คกี้มองร่างของนันท์นภัสด้วยสายชื่นชมด้วยแล้ว อารมณ์ในใจแปรเปลี่ยนเป็นเดือดดาลทันที  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม