ความรู้สึกซ่อนเร้น 1

3470 คำ
            สามวันต่อมาณ เมืองเวนิส ร่างสูงใหญ่อูโก้เดินเข้ามาในห้องอาหารอิตาเลี่ยนภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส เมืองแห่งความโรแมนติกติดอันดับโลก สถานที่นัดหมายระหว่างเขากับแอมโตนิโอลูกพี่ลูกน้องที่เดินทางกลับมาจากเมืองไทย ซึ่งการกลับมาครั้งนี้เขาไม่ได้กลับมาคนเดียวแอมโตนิโอกลับมาพร้อมกับบัวบุษยา ว่าที่เจ้าสาว อูโก้เลือกที่นั่งติดกับกระจกริมระเบียง สายตาคมเข้มมองไปยังด้านนอกกระจกอย่างไม่ตั้งใจคล้ายกับมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง พลันสายตาคมสะดุดกับร่างอรชรนางหนึ่งที่ยืนหันหน้าออกไปยังคลองเวนิส เธอกำลังยืนรับลมยามเย็นอยู่ตรงริมระเบียง โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาของเขาคอยจับจ้องอยู่ อูโก้มองหญิงสาวนางนั้นอย่างพินิจ รูปร่าง ส่วนสูง สีผิวเหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่เคยลืมเลือน ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานหลายปีก็ตาม ผู้หญิงที่เขามองเห็นอยู่นี้ มีข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่เหมือนกับผู้หญิงที่ทำให้หัวใจของเขาเจียนสลายคือ ทรงผม...ทรงผมของกานต์วิภาเหยียดตรงยาวสลวย แต่ทว่าหญิงสาวคนนี้ดัดเป็นลอนคลื่น แต่แล้วหัวใจของอูโก้เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อมีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาโอบเอวคอดกิ่วของร่างสาวที่เขามองนิ่งหัวใจของอูโก้เต้นแรงขึ้นเมื่อใบหน้าของสตรีคนนั้นหันมามองชายหนุ่มข้างกาย เผยให้เห็นใบหน้าของสาวร่างเพรียวสวย วินาทีนั้นเองที่ทำให้อูโก้รู้จักคำว่า ใจเต้นระทึก หัวใจของเขาเต้นโครมครามหาจับจังหวะไม่ได้ ความรู้สึกที่อยู่ในใจถูกกระตุ้นขึ้นในทันมรทันใด ทั้งเสียใจ เจ็บปวด ผิดหวัง แค้นใจและรักท่วมท้น หญิงสาวคนนั้นคือ กานต์วิภาหรือเชอรี่ อดีตคนรักที่หักอกเขาอย่างไม่มีชิ้นดี ความรักที่อับปางลงอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว อูโก้กัดกรามแน่นข่มความรู้สึกของตนเองเต็มที่ ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธา ความรู้สึกเวลานี้ทั้งรักและแค้นปะปนจนแยกแยะไม่ออกว่า ความรู้สึกใดมีมากกว่าเปลวเพลิงนับร้อยกองสุมอยู่ในนัยน์ตาสีฟ้าวับวาวน่ากลัว จ้องมองร่างสวยของกานต์วิภานิ่งเขม็ง มือใหญ่ทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น รอยแผลเป็นในใจกลัดหนองอีกครั้ง “อูโก้ อูโก้ อูโก้โว้ย” เสียงของแอมโตนิโอที่ดังขึ้นตามลำดับการเรียก ไม่ได้ทำให้สายตาของคนที่ถูกเรียกละจากสตรีนางนั้นเลย คนที่เรียกจึงมองตามสายตาของญาติหนุ่ม และแล้วเขาก็รู้สาเหตุของอาการไม่สนใจคนรอบข้างของอูโก้ “พระเจ้า...” แอมโตนิโออุทานออกมาทันทีที่เห็นกานต์วิภายืนอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งตรงระเบียง หวั่นใจเหลือเกินว่าอูโก้จะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลุกขึ้นไปอาละวาดจนร้านพัง การณ์กลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เมื่อใบหน้าของอูโก้หันมามองเขาอย่างช้าๆ  ไม่ลุกขึ้นไปทำอะไรเพื่อระบายอารมณ์อย่างที่เคยทำ “มาแล้วเหรอ นั่งสิ” น้ำเสียงเรียบๆ ดังออกมาจากปากของอูโก้ แอมโตนิโอทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ด้านใน บัวบุษยานั่งเก้าอี้ถัดมา ลูกน้องของอูโก้และแอมโตนิโอนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ “อย่าคิดมากนะอูโก้ เรื่องมันผ่านมาเป็นปีแล้ว” แอมโตนิโอปลอบใจ รู้ดีว่าไม่ว่าจะกี่ปี กี่เดือน กี่วัน หัวใจแลความทรงจำของอูโก้ไม่มีวันลืมกานต์วิภาเลยแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้ามกลับจำฝังใจด้วยซ้ำไป “อืม รู้แล้ว ฉันไม่สนใจหรอก แต่มันอดที่จะมองไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นคงจะเป็นแฟนของเชอรี่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยืนโอบกอดกันแบบนี้” อูโก้พูดไม่ตรงกับใจ ปากบอกว่าไม่สนใจทว่าใจกลับตรงกันข้าม มันเหมือนไฟรักที่ดับมอดคุโชนขึ้นมาอีกครั้งดวงตาของเขาตวัดมองไปยังชายคนนั้น รู้สึกอิจฉาที่ได้หัวใจของกานต์วิภาอารมณ์คั่งแค้นในตัวชายคนนั้นก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันใด เขาแทบอยากจะลุกไปฉีกเนื้อชายคนนั้นให้แหลกคามือ “ดีแล้วล่ะ ผู้หญิงไม่ดีอย่าไปใส่ใจเลย” แอมโตนิโอเอ่ยบอกญาติหนุ่มที่นั่งหน้าเครียด สีหน้าไม่เหมือนกับวาจาที่เอ่ยออกมาว่าไม่สนใจเลย อูโก้ยิ้มบางๆ ก่อนจะสั่งอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาระบายความเครียดที่อัดแน่นในหัวใจ บัวบุษยาไม่รู้ว่าทั้งสองคนพูดอะไรกัน เนื่องจากทั้งสองพูดเป็นภาษาอิตาเลี่ยนแต่ดูจากสีหน้าของอูโก้และคนรักแล้วน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน ตลอดระยะเวลาที่ทั้งสามรับประทานอาหารอาหารค่ำ แอมโตนิโอเอาอกเอาใจบัวบุษยาตลอดเวลา ผลัดกันป้อนอาหารกันบ้าง ใช้ผ้าเช็ดปากเช็ดมุมปากที่มีคราบอาหารเปรอะเปื้อนให้กันและกัน อาหารที่หนุ่มสาวบริโภคเข้าไปจึงเอร็ดอร่อยเป็นที่สุด ต่างกับอูโก้ที่กลืนอาหารแทบไม่ลง มองภาพหวานตรงหน้าสลับกับมองภาพสวีทของกานต์วิภากับหนุ่มร่างสูงโปร่งด้านนอก เมื่ออาหารทานไม่ลงมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่มันจะไหลลงสู่ลำคอโดยไม่ต้องเคี้ยว สิ่งนั้นก็คือ แอลกอฮอล์ “เฮ้ยๆ พอแล้วอูโก้ นายดื่มไปเยอะแล้วนะ” แอมโตนิโอร้องห้ามญาติหนุ่มที่กระดกดื่มวิสกี้ไม่หยุด “นายไม่ต้องกลัวฉันเมาหรอกนีโอ วิสกี้ไม่ทำให้เมาได้หรอก ฉันดื่มเพื่อแก้เครียดเท่านั้น” ในช่วงเวลาที่พูดอูโก้ยังมีสติพอ ไม่เมามายเหมือนกับที่แอมโตนิโอคิด เพราะจิตใจของอูโก้เต็มไปด้วยความรู้สึกหลายประการ ยิ่งมองภาพหวานของหนุ่มสาวตรงระเบียงด้วยแล้ว วิสกี้ก็ถูกสั่งมาเป็นขวดให้คนที่ช้ำชอกในรักดับความเสียใจที่ผุดขึ้น และหลังจากคำพูดนั้นมันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม น้ำเมาแก้วแล้วแก้วเล่าที่ไหลลงสู่กระเพาะของชายหนุ่มไม่ลืมรักอูโก้คิดว่าน้ำที่ดื่มคือ น้ำที่ชะล้างความแค้น ความโกรธและความรักที่อยู่ในใจของเขา...ที่รู้ว่ามันไม่มีวันดับมอดไปจากหัวใจ แอมโตนิโอเห็นอาการของอูโก้แล้วก็ไม่คิดห้ามปราม เพราะคิดว่าคงจะมีเพียงสุราที่ช่วยดับอารมณ์ ดับความรู้สึกของญาติสนิทได้ คงจะมีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะเยียวยารักษาแผลใจของอูโก้ได้หรือไม่ก็มีหญิงสาวสักคนมาชะล้างบาดแผลในใจของอูโก้ หญิงสาวคนหนึ่งที่จะเข้ามาแทนที่กานต์วิภา ซึ่งแอมโตนิโอต้องการให้เป็นสตรีคนนั้น คนที่อูโก้เหยียบย่ำน้ำใจมาตลอดหลายปี   ณ บ้านของอูโก้เมืองเวนิส หลังจากที่นันท์นภัสจัดเสื้อผ้าของซัคคาร์โด้ มากาเร็ตและอูโก้เสร็จ เธอก็เดินมายังห้องพักของตนเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัวของตัวเองบ้าง การมาย่ำเยือนเวนิสในครั้งนี้เธอเดินทางล่วงหน้ามาพร้อมกับอูโก้ ส่วนบิดามารดาของเขานั้นจะเดินทางตามมาหลังจากไปร่วมงานแต่งงานของลูกสาวเพื่อนเรียบร้อย มือเรียวเล็กกำลังง่วนอยู่กับเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หยิบจับเสื้อผ้าเหล่านั้นนำไปไว้แขวนในตู้เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบ ระหว่างที่กำลังจัดเรียงเสื้อผ้าอยู่นั้น เสียงปิดประตูห้องนอนก็ดังสนั่น “ปัง” สาวชาวไทยที่กำลังสาละวนกับการจัดวางเสื้อผ้า ละมือและสายตามามองเจ้าของบ้านที่เดินตรงมาหาเธอ สีหน้าและแววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความดุดัน แข็งกร้าว ราวกับว่าโกรธใครมาสักร้อยปี             “คุณอูโก้มา...ว้าย!” คำทักทายแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องแสดงความตกใจ เมื่อมือใหญ่กำรอบลำแขนของเธอ ก่อนที่เขาจะลากเธอไปยังเตียงนอน จากนั้นก็เหวี่ยงร่างอรชรลงไปบนที่นอนตามติดด้วยร่างกายแข็งแกร่งทาบทับร่างเล็ก             “คุณ คุณอูโก้เป็นอะไรคะ ใครทำอะไรให้คุณอูโก้โกรธคะ” นันท์นภัสถามเสียงสั่น มองใบหน้าคมเข้มบึ้งตึงอย่างหวาดหวั่น             “มันไม่ใช่เรื่องของเธอ” อูโก้ตอบเสียงห้วน ก่อนจะกระแทกริมฝีปากได้รูปของตัวเองกับกลีบบางนุ่มของหญิงสาวใต้ร่างทันที รสจูบของเขาดุดันบดขยี้ราวกับลงโทษ ไร้ซึ่งความอ่อนโยนคล้ายกับว่ากำลังระบายอารมณ์ ลิ้นหนาที่พุ่งล้ำเข้าไปในโพรงปากหอมกระหวัดแลกรัดอย่างจาบจ้วง บางครั้งไรฟันคมกัดที่กลีบปากของเธอนำพาความเจ็บปวดมาให้ไม่น้อย การกระทำของเขาในครั้งนี้นันท์นภัสเดาไม่ยากเลยว่า คงมีใครทำให้เขาโกรธและโมโหถึงขั้นรุนแรง แล้วทุกครั้งที่เขาโกรธ อูโก้ก็จะมาลงที่เธอเสมอ             แควก แควก...เสียงเสื้อผ้าบนร่างสาวฉีกขาดตามแรงกระชากของมือใหญ่ ผิวเนื้อขาวลออตาแต้มไปด้วยริ้วรอยปื้นแดง จากการเสียดสีของเสื้อผ้ากับผิวเนื้อบอบบาง ชุดชั้นในทั้งด้านล่างและบนถูกกระชากเป็นชิ้นต่อไป ไม่สนใจเสียงร้อง ของเธอที่ระบายออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว น้ำตาของนันท์นภัสแทบเล็ดเมื่อน้ำหนักมือของเขาสัมผัสกับผิวกายสาวอย่างรุนแรง เสียงร้องครางเจ็บดังอยู่ในลำคอเท่านั้น ไม่สามารถเปล่งมันออกมาได้ เนื่องจากริมฝีปากหนาหยักได้รูปปิดทับปากอิ่มของเธออยู่กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ระบายผ่านลมหายใจและคุกรุ่นอยู่ในช่องปากของเขา ทำให้นันท์นภัสรู้ได้ว่า เขาน่าจะเมา             ทรวงอกสล้างถูกมือใหญ่ขยำและเคล้นอย่างหนักมือ ออกแรงขยำและดึงจนก้อนเนื้ออวบอั๋นแทบจะหลุดออกมาจากเต้า ปลายนิ้วใหญ่บี้บดเม็ดถันเม็ดสวย ใช้ปลายเล็บจิกลงบนเม็ดถันบ้าง ดึงขึ้นสูงบ้าง นันท์นภัสทนกับความเจ็บปวดนั้นไม่ไหว ออกแรงผลักร่างใหญ่ให้ออกห่างทันทีคนที่อยู่ด้านบนหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อถูกหญิงสาวปฏิเสธการร่วมรัก เขาถอนจุมพิตร่าร้อนและดุดันออก เขม้นมองสาวร่างสวยใต้ร่างด้วยสายตาที่ไม่พอใจเต็มกำลัง             “อย่าขัดใจฉัน ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” นันท์นภัสหลับตาลงทันทีที่เขาพูดจบ ปล่อยกายปล่อยใจให้เขากระทำตามอำเภอใจ มุมปากของอูโก้ยกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางที่ยอมจำนนของเธอ ใบหน้าคมซุกลงกับซอกคอหอมกรุ่น ปากหนาดูดดึงผิวเนื้อบริเวณลำคอ จนเกิดเป็นรอยจ้ำสีแดงหลายที่ ร่างงามสะดุ้งทุกครั้งที่เขาฝากฝังรอยจารึกไว้ให้             “อือ...” เสียงครางของนันท์นภัสที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดถูกเปล่งออกมาจากกล่องเสียง น้ำตาหยดใสๆ ไหลรินลงมาตามหางตา ฝ่ามือเล็กจิกลงบนผ้าปูที่นอนแน่น ไรฟันคมสะอาดกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้แน่น ข่มความปวดร้าวระบมจากปากหนาที่กำลังไล้ไปตามผิวกายสาว ไม่ลืมที่จะฝากความเจ็บด้วยการกัดและขบเม้ม “อือ...” ปทุมถันสีชมพูอ่อนถูกกัดและดึง ก่อนที่อูโก้จะกลืนยอดถันเข้าไปในอุ้งปากร้อนผ่าว ดูดกลืนพร้อมกับปานสีอ่อน เต้าทรวงอีกข้างที่ว่างเว้นถูกมือใหญ่กอบกุม เคล้นอย่างหนักมือ เสียงครางครวญของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บที่คละเคล้ามาพร้อมกับความเสียวซ่าน “คุณอูโก้ แคทเจ็บ เจ็บค่ะ” ในที่สุดหญิงสาวผู้น่าสงสารก็ไม่อาจทนกับความเจ็บที่มาจากมือ ปากและลิ้นของเขาได้ เสียงของนันท์นภัสดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มที่ในใจมีแต่ความแค้นและความเกลียดชัง หาได้สนใจคำร้องครวญของเธอไม่ มโนภาพที่เขาเห็นตอนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อ นันท์นภัส แต่เป็นผู้หญิงที่ชื่อกานต์วิภา อูโก้จึงมอบความเจ็บปวดให้สาวใต้ร่างต่อไป ร่องรอยฝ่ามือใหญ่กระจายเต็มไปทั่วกายสาว ยังไม่รวมรอยกัดและขบเม้มที่มีมากมายจนนับไม่ไหว ความแค้นที่ฝังแน่นในอุราถูกถ่ายทอดไปสู่ร่างนวลผุดผ่องอย่างไร้ซึ่งความอ่อนโยน ทะนุถนอม ฝ่ามือแข็งแรงเลื่อนต่ำลงมากดคลึงเนินไหมนุ่มที่ปกคลุมอยู่บนเนินสวรรค์ ปลายนิ้วกรีดไปตามร่องสวรรค์ที่แย้มเปิดรับนิ้วมือหนา “คุณอูโก้ เจ็บ แคทเจ็บ” นันท์นภัสส่งเสียงร้องครางเจ็บอีกครั้ง เมื่อนิ้วใหญ่สองนิ้วล่วงล้ำเข้าไปในกลีบดอกไม้สาว หากเขาหยุดแช่นิ่งไว้เฉยๆ ความเจ็บปวดจะไม่เกิดขึ้นเลย แต่นี่เขากลับขยับเข้าออกอย่างหนักหน่วง รุนแรง พร้อมทั้งงอปลายนิ้วเล็กน้อย ทำให้ปลายเล็บครูดกับผนังเนื้อนุ่มด้านใน ซ้ำร้ายนิ้วโป้งของเขายังบดขยี้พลอยแดงตามจังหวะแรงขยับของนิ้วมือสองนิ้วที่เขยื้อนไม่หยุด ในขณะที่ปากยังคงเพียรสร้างความร้าวระบมไม่พัก ไม่หยุด “ฮือ...แคทเจ็บ” นันท์นภัสครางสะอื้นไห้ ดิ้นพล่าน ความเจ็บปวดตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง มันมากมายเกินกว่าที่เธอจะรับได้ เจ็บกายยังพอทน แต่เจ็บที่ใจนั้นเล่า ยากนักที่จะรักษาหาย เธอกับเขาเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ มีบาดแผลในใจจากคนที่ตัวเองรัก “เจ็บสิดี ฉันชอบ” เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยวาจาและสีหน้าที่ไร้ซึ่งความเมตตา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงปลดกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ตามด้วยชั้นในชาย จากนั้นก็นั่งคร่อมร่างเล็กที่นอนหลับตานิ่ง เตรียมตัวรับความเจ็บปวดที่มากมายกว่าเมื่อครู่ “คุณอูโก้ อือ...ฮือ” เสียงครางของนันท์นภัสถูกขับออกมาจากกลำคอทันทีที่ร่างกายของอูโก้เริ่มขยับ หลังจากที่ส่งความดุดันเข้าไปในกลีบสาว แรงส่งของชายหนุ่มนั้นมีพลังรุนแรงถึงขั้นสูงสุด ไม่ผ่อนปรนจังหวะเลยแม้แต่นิด ตั้งหน้าตั้งตากระแทกตัวตนให้ลึกที่สุด แรงที่สุด หนักหน่วงที่สุด ร่างกายสาวแทบจะฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ ความเจ็บ ร้าวระบมกระจายแผ่เป็นวงกว้างความดิบเถื่อนของอูโก้ไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขามอบทั้งความเจ็บและความสุข รวมทั้งความเสียวจนเกินบรรยายให้กับเธอพร้อมๆ กัน “โอว...” อูโก้ครางต่ำ หน้าแดงด้วยไฟพิศวาสและความความแค้นเผาผลาญ เอวใหญ่ขยับซอยแรงๆ แบบไม่ยั้งด้วยการแยกขาของเธอออกกว้าง ก่อนจะรวบขาทั้งสองข้างให้ชิดติดกัน มือใหญ่กำรอบข้อเท้าเล็กทั้งสองข้างด้วยมือใหญ่เพียงมือเดียว โย้ขาของเธอไปด้านหน้าจนเข่าทั้งสองข้างของเธอพับงอ สัมผัสกับทรวงอกนุ่มเต่งตึง แรงอัดกระแทกมากมายมหาศาลเกิดขึ้นทันที เขาซอยถี่อย่างไม่ลืมหูลืมตา ความเมามันเกิดขึ้นในใจของชายหนุ่ม กลีบดอกไม้สาวดอกนี้ช่างแน่นตึง ตอดรัดกายแกร่งเขาเหลือเกิน ความโกรธที่มีอยู่ในใจเริ่มคลายลงโดยไม่รู้ตัว “อือ...อา” เธอกัดฟันคราง ความเจ็บจากแรงกระแทกกระทั้นที่มากมายเดินทางมาพร้อมกับความเสียว ความเสียวที่มาจากปลายนิ้วมือใหญ่ของอูโก้ สะกิดทักทายกับพลอยแดงกลางร่องกลีบดอกไม้ ความเสียวสะท้านเข้ามาเยือนร่างสาวในวินาทีต่อมา ยิ่งเขากระชั้นเอวแรงเท่าไหร่ ปลายนิ้วที่สะกิดก็มากตามไปด้วย “อา คุณอูโก้” ความเจ็บเริ่มเบาบางลง ความสยิวซ่านเข้ามาแทนที่ แรงส่งของอูโก้เริ่มผ่อนลงเป็นเนิบช้า เขาถอนกายแกร่งออกไปจนเกือบสุด ย้ำเข้าไปใหม่ด้วยความแรงและหนักหน่วง ทำอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งเสียงครวญของนันท์นภัสดังยาว ตามด้วยเสียงกรีดร้อง เมื่อเธอถูกนิ้วมือและความเป็นชายกระตุ้นให้สาวเจ้าเดินทางไปยังสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า อยู่ๆ แรงส่งที่ผ่อนปรนของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นรุนแรงอีกครั้ง ถาโถมสาดใส่อย่างไม่ออมกำลัง เมื่อภาพของกานต์วิภากับชายอื่นย้อนเข้ามาในสมอง ความแค้น ความโกรธจึงโถมทับเข้ามาในจิตใจ ข้อเท้าเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระ มือหนาเอื้อมไปหยิบหมอนหนุนศีรษะมาสองใบ ฝ่ามือแกร่งอีกข้างยกสะโพกของเธอให้ลอยขึ้นสูง ก่อนจะสอดหมอนสองใบเข้าไปรองบั้นท้าย “ฉันไม่ทางให้เธอมีความสุขหรอก ผู้หญิงอย่างเธอต้องมีแต่ความเจ็บปวดเท่านั้น เชอรี่” นันท์นภัสเข้าใจที่มาของแรงโทสะของเขา ที่แท้เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นเองหรอกหรือ เขาโกรธ เขาแค้นกานต์วิภาแล้วมาลงที่ผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่ชื่อ นันท์นภัส “ไม่ แคทไม่ใช่คุณเชอรี่ ไม่ใช่ ปล่อยแคท...ปล่อยแคท” มือเล็กผลักไสร่างหนาที่กำลังเคลื่อนไหวบนร่างกายของเธอ ทว่าความโกรธที่มากมายเกินพอดีของอูโก้ ทำให้แรงของเธอไม่อาจยับยั้งเขาได้เลย “เธอ-คือ-เชอ-รี่” เขาย้ำเสียงเน้นหนัก ใบหน้าสวยที่เขามองเห็นคือ กานต์วิภา หาใช่นันท์นภัสอย่างที่เธอบอก อูโก้แสดงความป่าเถื่อนที่ซุกซ่อนไว้ในหัวใจที่ดำมืดทันที ไม่ปรานีปราศรัยร่างน้อยแม้แต่น้อย “ฮือ...คุณอูโก้” นันท์นภัสปล่อยเสียงสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร ความเจ็บปวดออกมาไม่ขาดสาย ดวงตาทั้งสองข้างเอ่อนองด้วยหยาดน้ำตา ไหลรินลงมาไม่หยุดหย่อน เหมือนกับพละกำลังทางเพศของเขาที่โถมแรงเข้าใส่กลีบสาวไม่หยุด หมอนสองใบที่ซ้อนรองอยู่ทำให้เขาด่ำดิ่งกายแกร่งลงไปอย่างล้ำลึก การกระโจนจ้วงจึงเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อูโก้โน้มใบหน้าลงต่ำประกบจูบปากนุ่มที่เผยอร้องครางสลับกับเสียงสะอื้น พุ่งลิ้นเข้าไปกระชากลิ้นนุ่มของเธอเข้ามาดูดดึง พันพัวอย่างเร่าร้อน เธอพยายามประท้วงการกระทำของเขาด้วยการสะบัดหน้าหนีจูบที่เต็มไปด้วยความกักขฬะ ความเจ็บช้ำทั้งกายและใจของหญิงสาวเสมือนก้อนเมฆสีดำทะมึนปกคลุมไปรอบๆ ห้องรอบกายของเธอ ไร้ซึ่งแสงสว่างของหมู่เดือนและดาว ไร้หนทางที่จะก้าวเดิน พ่ายแพ้และจำนน นันท์นภัสไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น ไม่อยากได้ยินชื่อ เชอรี่ ที่เขาเปล่งออกมาไม่หยุดปาก ไม่อยากรับรู้ความเจ็บช้ำใดๆ ทั้งสิ้น ปล่อยให้พายุร้ายกระหน่ำซัดร่างสาวตามใจชอบ หญิงสาวนอนนับนาทีที่เคลื่อนผ่าน อยากให้ทุกอย่างมันจบสิ้นเร็วๆ ก่อนที่ร่างของเธอจะฉีกขาดออกจากกันเวลาที่สาวผู้น่าสงสารรอคอยได้เดินทางมาถึง เมื่อเขาหยุดนิ่งการแรงรัก ปลดปล่อยสายน้ำแห่งความเคียดแค้นชุ่มฉ่ำกลีบดอกไม้ช้ำซบหน้าลงบนอกนุ่มกระเพื่อมแรง “ฮือ ฮือ” เสียงร้องไห้ที่ดังเข้ามากระทบกับหูของอูโก้ ทำให้เขาเงยหน้ามองเจ้าของเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงตาสีฟ้ามองดวงหน้าเจ่อนองไปด้วยคราบน้ำตาด้วยความไม่พอใจ ไม่สำนึกเลยว่าเขาคือสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้ปานขาดใจแบบนี้ “ร้องไห้อยู่ได้ รำคาญ หนวกหู ญาติฝ่ายไหนของเธอตาย...หา” อูโก้สบถอย่างหัวเสีย “โธ่โว้ย...” เขาถอนกายแกร่งออกจากร่างสวย ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ไม่มีคำปลอบโยน ไม่มีคำขอโทษ ไม่มีจูบหวานๆ ให้เธอคลายความปวดร้าว ไม่เหลียวตาแลมองผู้หญิงที่เขาเพิ่งปลดปล่อยความดิบเถื่อนเลยแม้แต่นิดเดียว นันท์นภัสพลิกกายนอนตะแคง งอตัวเหมือนกุ้ง ร้องไห้ออกมาอย่างสุดแสนจะกลั้น น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินไม่ขาดสาย เธออยากให้ความทุกข์ ความเจ็บช้ำ ความเจ็บปวดระบายออกไปบ้าง ทว่ามันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวง มันยังฝังแน่น หยั่งรากลึกอยู่ในหัวใจของเธอเหมือนเดิม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม