บทที่ 1
วันนี้เป็นเวลาที่แสนพิเศษของฉัน
ฉันชื่อลิซซี่ โซอี้ ฉันอายุ 27และยังโสดอยู่
คืนนี้ฉันอยากจะจับผู้ชายคนนั้นที่บาร์ ฉันต้องการมีลูกและสิ่งนั้นจากเขา เพราะในชีวิตนี้ฉันไม่อยากแต่งงานเลยด้วยซ้ำ
"ลูน่า อย่าไปนะ..."
ชายหนุ่มพรมจูบลงตำหนิบนร่างกายสีแดงทรงกลมระหว่างคิ้วของฉันพร้อมตะโกนชื่อของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา
ลูน่าเหรอ? เธอเป็นใครกัน? ดูเหมือนว่าเขาจะชอบหล่อนนะ
แฟนเก่า? หรือ อดีตภรรยาล่ะ?
มันไม่สำคัญหรอกนะ ทั้งหมดที่ฉันต้องการก็คือเด็กที่สมบรูณ์แบบที่สุด
งั้น ฉันรู้สึกสบายใจล่ะ จะได้ล่อลวงเขาได้อย่างเปิดเผย "ใช่ ฉันอยู่นี่ ฉันตรงนี้..."
ฉันไม่ได้คาดหวังว่าฉันจะทรมานแบบนี้ ยังโชคดีที่ทักษะของผู้ชายคนนั้นดี ดีเกินคาดเลยด้วยซ้ำ ในที่สุด ความพอใจอย่างใหญ่หลวงก็ห้อมล้อมฉันเอาไว้
มันสุดยอดและตราตรึงใจซะจนฉันคิดว่าฉันสามารถตายได้เลย
เช้ารุ่งขึ้นตอนฉันตื่นนอนผู้ชายคนนั้นยังคงหลับอยู่ ฉันฝืนทนความเจ็บปวดนี้ไว้พร้อมค่อยๆส่วมเสื้อผ้าก่อนที่จะหนีไป
ก่อนที่จะปิดประตูบานนั้นลง ฉันก็ชายตาหันหลังกลับไปมอง
เขายังคงสลบไสลอยู่ในห้วงนิทรา ในแสงยามเช้า เขาดูหล่อเหลาจนฉันแทบจะละสายตาจากไปไม่ได้เลย
ผ้าห่มพันธนาการรอบเอวแกร่งเผยให้เห็นหน้าอกแกร่งแสนกำยำของชายหนุ่ม เขามีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
ความสมบรูณ์แบบนี้หาผู้ใดมาเทียบได้ ฉันขอสาบานด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ของฉันว่าฉันจะดูแลลูกของเราให้ดี และทำให้เด็กคนนี้เป็นตุ๊กตาที่เพรียบพร้อมไปด้วยพัฒนาการรอบด้านทั้งในด้านศีลธรรม สติปัญญา ร่างกาย ศิลปะ และ หน้าที่การงาน
อารมณ์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ฉันออกไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทของฉันอย่าง เคธี่ แวน
"เคธี่ แสดงความยินดีกับฉันด้วยนะ เมื่อคืนฉันทำมันได้สำเร็จ อีกสิบเดือนหลังจากนี้ ฉันจะกลายเป็นแม่คนแล้ว!"
ฉันดื่มกาแฟแก้วใหญ่ลงไป ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ เคธี่ ฟังอย่างภาคภูมิใจ
เคธี่ จ้องมองมาที่ฉันด้วยอารมร์ขุ่นเคือง "จริงป่ะเนี่ย? เธอหลับนอนกับคนแปลกหน้าลงได้ยังไงกันห่ะ?"
ฉันดึงปกคอเสื้อลงพร้อมโชว์รอยจูบบริเวณต้นคออย่างภาคภูมิใจ
เคธี่แทบเป็นลมล้มลงไป "สุดยอด!"
เธอถามฉันด้วยคำถามที่ว่า "ผู้ชายคนนั้นเป็นใครใช่ไหม? เธอตรวจประวัติเขาอย่างดีแล้วใช่ไหม? เขาแต่งงานไปหรือยัง? เขามีไวรัสตับอักเสบบี เอดส์ หรือพวกโรคทางพันธุกรรมหรือเปล่า?"
ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
เคธี่ กลอกตาไปมา
ฉันพูดต่อว่าเสริมว่า "ฉันเฝ้ามองเขามานานแสนาน ทุกๆวันที่ 15 ของทุกเดือน เขาจะไปที่ร้านมูนไลท์บาร์ เขามักจะอยู่คนเดียวเสมอและไม่เคยจีบผู้หญิงคนไหนเลยด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าผู้ชายคนนั้นแข็งแรงมาก"
เคธี่ถึงกลับพูดไม่ออก
หลังจากที่ทั้งคู่เถียงกันอยู่ซักพัก พวกเราทั้งคู่ก็ไม่สามารถโน้มน้าวใจกันและกันได้ สุดท้าย พวกเราเริ่มหารือเกี่ยวกับการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงบุคลากรระดับสูงสุดของบริษัท
"อำนาจของการรั่วไหลข้อมูลลูกค้ารายนี้มันเลวร้ายซะเหลือเกิน แล้วฉันก็ได้ยินมาว่าคณะกรรมการได้ตัดสินใจเลิกจ้างคุณจางแล้ว" เคธี่พูดด้วยน้ำเสียงเนิ่บๆช้าๆ
เธอรับรู้มันมาโดยตลอด
"แล้วใครจะมาแทนที่เขาที่เขาล่ะ?"
"ฉันไปได้ยินมาว่า เจ้านายคนใหม่ได้รับเชิญจากบริษัทชั้นนำ 500 บริษัท เขาอายุแค่32เอง"
"ก็โอเคอยู่ ถึงเจ้านายจะโดนเปลี่ยนตลอดเวลา แต่บริษัทก็ยังอยู่ตลอดแหละ พวกเราไม่ได้สำคัญพอที่จะได้ผลกระทบหรอก"
เคธี่ กับ ฉันเป็นเพื่อนร่วมงานกันและเราทั้งคู่ทำงานให้กับบริษัทประกันต่างประเทศ
ฉันประจำตำแหน่งแผนกคณิตศาสตร์ประกันภัย และเธอประจำต่ำแหน่งแผนกบริการลูกค้า
ระหว่างที่พวกเราคุยกัน แม่ของฉันก็โทรมา
"ลิซซี่ ตอนนี้ลูกว่างหรือเปล่า? แม่มีอะไรจะบอกลูกน่ะ"
แม่ของฉันถามออกไปอย่างเหนียมอาย
ฉันถอนหายใจออกมา “ว่าไงเหรอคะแม่”
"น้าโจวอยากแนะนำให้ลูกรู้จักกับคนคนหนึ่งเขาน่ารักมากๆเลยนะลูก เมื่อไหร่ลูกจะว่าง? น้าเขาจะได้หาเวลาให้ลูกได้ทำความรู้จักกับเขาคนนั้น"
นัดดูตัวอีกแล้วสินะ
แม่ของฉันคือหญิงสูงวัยที่ว่างงานและฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าแม่ไปรู้จักกับคนหนุ่มโสดแบบนั้นได้ยังไง?
"อืม อาทิตย์นี้หนูว่าง" ฉันเป็นคนสบายๆ และตกลงตามคำขอร้องจากผู้เป็นแม่ แม่ของฉันชอบร้องไห้ ฉันไม่อยากเห็นน้ำตาของแม่สักเท่าไหร่
"จริงๆเหรอ?"
น้ำเสียงแม่ดูตื่นเต้นมากๆซึ่งมันทำให้ฉันเศร้ามากๆ
เเม่หย่ากับพ่อของฉันมาสิบกว่าปีแล้ว พ่อของฉันแต่งงานกับเมียน้อยของเขาและมีลูกด้วยกัน สมาชิกครอบครัวที่มีกันอยู่สี่คนชั่งดีเสียจริง
แม่มักจะถูกพ่อทุบตีเสมอและคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้พ่อเลิกกับเมียน้อยของเขาฉันเห็นเหตุการณ์แบบนี้ตอนฉันยังเป็นเด็ก
มีปัญหากัน การทะเลาะวิวาท ทุบตี การทรยศ... นี่คือความประทับใจของฉันที่มีต่อการแต่งงานของพ่อแม่
เพราะฉะนั้นแล้ว ฉันไม่เชื่อว่าการแต่งการจะมีความสุขบริบูรณ์หรือชายคนไหนจะทำให้ฉันมีความสุขอย่างที่ฉันปรารถนา