ประเทศไทย
หกโมงเช้าตามเวลาในประเทศไทย เสียงโทรศัพท์มือถือของอัญญาณีก็ดังขึ้นหลายครั้งติดๆ กัน ดังจนเจ้าของเครื่องต้องงัวเงียตื่นขึ้นมากดรับสายอย่างไม่เต็มใจนัก
“เกตุทำไมรับช้าจังเลย” ทันทีที่อัญญาณีกดรับสาย เสียงของ เกวลินก็ไหลมาตามสาย
“เพิ่งตื่น” สาวลูกสี่ที่อยู่ประเทศไทย งัวเงียตอบ
“มีเรื่องตื่นเต้นจะเล่าให้ฟัง” น้ำเสียงของเกวลินนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นจริงๆ
“มีไรก็รีบพูดว่า ง่วง”
“เดียร์เจอรักแรกพบน่ะ” เกวลินรีบพูด
“รักแรกพบเหรอ รักแรกพบอีกแล้ว อย่างเดียร์ต้องพูดว่ารักหลายพบดีกว่ามั้ง เปลี่ยนผู้ชายอย่างกับเปลี่ยนเสื้อผ้า”
อัญญาณีที่รู้จักนิสัยเพื่อนคนนี้ดี เพราะต่างกันสุดขั้วกับอุปนิสัยรักนวลสงวนตัวอย่างหทัยชนกอย่างสิ้นเชิง แต่เธอก็ไม่คิดว่าการที่เกวลินเป็นผู้หญิงมากรักจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเสื่อมถอยลง คิดเพียงชีวิตใครชีวิตมัน ไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน
“อย่าแซวสิเกตุ คนนี้รักจริง ๆ นะเห็นครั้งแรกใจเดียร์สั่นมาก ๆ เลย สั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนด้วยนะเกตุ” เกวลินเล่าความรู้สึกเวลานั้นให้เพื่อนสนิทได้รับฟัง อีกฝ่ายก็นั่งฟังแบบง่วงนอน หาววอดหลายครั้ง
“แล้วไงต่อ ตกลงเดียร์จีบผู้ชายคนนั้นหรือยัง?”
“ก็กำลังจะจีบ แต่ต้องรอให้เขากลับจากไปเยี่ยมญาติก่อน วันอาทิตย์น่ะถึงจะเริ่มจีบ ตื่นเต้นจังเลยเกตุ ห่างหายจากการจีบผู้ชายมานาน มีแต่โดนจีบ ทำอะไรแทบไม่ถูกเลย”
อาการตื่นเต้นของเกวลินยังไม่หมดไปง่าย ๆ ยังถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดให้คนที่ตกอยู่ในอาการง่วงนอนได้รับฟัง คล้ายกับว่า เกวลินโทรศัพท์มาระบายความตื่นเต้นดีใจให้อัญญาณีได้รับฟัง
คนที่รับฟังแบบง่วง ๆ ก็ไม่คิดที่จะถามไถ่ว่าชายคนนั้นเป็นใคร ชื่ออะไร เพราะคิดว่าไม่จำเป็นเนื่องจากเกวลินคบผู้ชายคนไหนไม่เกินหนึ่งเดือน จำไปก็ปวดหัว ไม่จำเลยดีกว่า อีกฝ่ายเล่ามาเธอก็รับฟัง
“ใจเย็น ๆ ตั้งหลักให้มั่นแล้วลุย”
อัญญาณีพูดออกไปอย่างนั้น ไม่อยากให้เพื่อนคิดว่าเธอไม่สนใจคำพูดตื่นเต้นที่ไหลผ่านลำคอของเกวลิน เธอแคร์ความรู้สึกของเพื่อนทุกคน ไม่ต้องการให้ใครรู้สึกไม่ดีต่อเธอ
“แล้วเกตุคิดว่าเดียร์จะจีบเขาได้หรือเปล่าล่ะ เดียร์สวยมากพอมั้ย มีเสน่ห์มากแค่ไหน เดียร์ประหม่าไปหมดเลย ความมั่นใจในตัวของเดียร์มันหายไปหมด เมื่อได้สบตาคู่นั้นของเขา กรี๊ด ๆ ยิ่งคิดยิ่งอยากกรี๊ด”
ใจของเกวลินตอนนี้แทบจะละลาย ยามที่นึกถึงใบหน้าและดวงตาของตะวัน ชายหนุ่มที่ทำให้หัวใจเธอเต้นผิดปกติ
“ใจเย็น ๆ เดียร์ทำได้อยู่แล้ว รับรองว่าผู้ชายคนนั้นต้องหลงรักเดียร์แน่ ๆ เพื่อนเกตุทั้งสวยทั้งน่ารัก มีเสน่ห์ผู้ชายคนนั้นไม่มีทางหลุดมือไปหรอก เกตุเป็นกำลังใจให้นะ”
สาวอ้วนเอาใจช่วยเพื่อน โดยไม่รู้ว่าชายคนนั้นคือใคร แล้วถ้าหากเธอรู้ว่าชายคนนั้น คนที่เกวลินคลั่งไคล้คือตะวัน อัญญาณีจะพูดเชียร์เพื่อนสาวคนสนิทอยู่หรือไม่ หากเธอปากเบาถามชื่อแซ่ของชายคนนั้น ทุกเหตุการณ์ในวันข้างหน้าก็คงไม่เกิดขึ้น
“อืม ๆ ขอบใจนะ แค่นี้นะเกตุรถมาแล้ว บายจ้ะ”
“บายจ้ะ” อัญญาณีตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ ก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ที่นอน แล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ปิดเปลือกตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราอีกหน ปล่อยให้เรื่องรักแรกพบของเกวลินผ่านไปโดยไม่ติดใจสงสัยเรื่องใด ๆ
ทั้งสิ้น...เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา
วันนัดหมาย
เกวลินมายังโรงแรมที่ตะวันพักตามเวลานัดหมาย เธอรอตะวันเพียงชั่วครู่ คนที่เธอเฝ้าฝัน เฝ้ารอคอยให้วันนี้มาถึงเร็วๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น
“รอนานหรือเปล่าเดียร์ ขอโทษทีนะพอดีปวดท้องกะทันหันน่ะ” ตะวันเอ่ยคำขอโทษที่เขาลงมายังล็อบบี้ช้ากว่าเวลานัดหมาย
“ไม่เป็นไร สำหรับตะวันนานแค่ไหน เดียร์ก็คอยได้”
เธอตอบกลับเสียงใส รอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า อีกฝ่ายยิ้มตอบรับคำพูดของหญิงสาวที่เขาไม่รู้สึกตัวเลยว่า แฝงไว้ด้วยความนัยบางอย่าง
“เราไปกันเลยดีกว่านะ เดี๋ยวจะกลับดึก”
“ไปสิ วันนี้เดียร์จะพาตะวันไปตะลอนทัวร์นิวยอร์กให้ชุ่มปอดเลย”
ไกด์จำเป็นเอ่ยบอกลูกทัวร์หนุ่ม ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกไปจากโรงแรม เริ่มโปรแกรมการเที่ยวราตรีตามแบบฉบับของเกวลิน
เกวลินพาตะวันไปดูแสงสีของนครนิวยอร์กที่สวยงาม และเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวหลายคนที่มายืนโพสต์ท่าถ่ายรูป ตามตึกสูงระฟ้า ตามร้านอาหารที่จัดไฟอย่างสวยงาม เช่นเดียวกับตะวันและเกวลินที่ถ่ายภาพบันทึกความสวยงามที่เห็นอย่างสนุกสนาน
เกวลินมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้เดินเคียงคู่และเที่ยวกับตะวัน มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เธอช่างความรู้สึกตอนที่ไปเที่ยวกับชายอื่นที่ผ่าน ๆ มา ความรู้สึกนั้นมันแตกต่างกันเหลือเกิน เกวลินคิดว่าหากมีเขาอยู่ข้างกายทุกวัน ทุกคืน เธอจะมีความสุขมากแค่ไหน คงจะสุดบรรยายกับความรู้สึกที่ได้รับ
แต่สำหรับตะวัน เขาไม่รู้สึกอะไรกับหญิงสาวสวยเฉี่ยวที่ยืนอยู่ข้างกาย มากเกินไปกว่าคำว่าเพื่อน เพราะเวลานี้ตะวันกำลังคิดถึงภรรยาสาว หากเวลานี้เธอมาอยู่ตรงนี้กับเขา เขาคงจะมีความสุขมากกว่านี้ เดินเกี่ยวก้อย โอบกอดกันถ่ายภาพกับสถานที่สวยงามระดับโลก เดินเลือกซื้อของถูกใจตามร้านนั้นร้านนี้ รอยยิ้มบาง ๆ จึงเกิดขึ้นบนใบหน้าของตะวัน ยามที่จินตนาการถึงภาพหวานของเขากับหทัยชนก
“ตะวันยิ้มอะไรเหรอ?” เกวลินเอ่ยถามเมื่อเห็นเขาเดินยิ้มระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินไปยังผับชื่อดังกลางเมืองนิวยอร์ก
“กำลังคิดถึงภรรยาอยู่ครับ”
ตะวันตอบด้วยเสียงและสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่ทว่าคนที่ไม่มีความสุขก็คือเกวลิน มันเหมือนกับความฝันที่วาดไว้มันพักครืนลงมา อาการนิ่งงันเกิดขึ้นทันทีทันใด หัวใจแทบหยุดเต้นเลยก็ว่าได้เมื่อรู้ว่า เขามีครอบครัวแล้ว
“ตะวันแต่งงานแล้วเหรอ?” เกวลินถามสวนทันควัน
“ใช่ครับ ตะวันแต่งงานแล้ว” คำตอบที่ย้ำชัดเหมือนตอกย้ำให้เธอเจ็บปวด