ใช่...ความเจ็บปวดมันพวยพุ่งขึ้นมาในหัวใจ แบบไม่ทันตั้งตัวมาก่อน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ชายหนุ่มตรงหน้าที่อายุอานามไล่เลี่ยกับเธอจะมีครอบครัวแล้ว รักแรกของเธอก็อกหักไม่เป็นท่า เกวลินรู้สึกอิจฉาภรรยาของชายหนุ่มที่ตนเองหมายปอง ริษยาที่ได้ครอบครองตะวัน ความรู้สึกนั้นมันพวยพุ่งขึ้นมาในใจ
ไม่มีทาง...เธอไม่ยอมอกหักแน่นอน
ความรักที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจ...
ความต้องการเขามาครอบครอง...
ความอยากเอาชนะ... และความอิจฉาริษยาคนที่เป็นภรรยาของตะวัน...
ทำให้ด้านมืดของเกวลินลุกพรึบพรับ บดบังความรู้สึกด้านดีที่มีอยู่ในจิตใจของเธอ ความคิดบางอย่างจึงแล่นขึ้นมาในสมอง
ความคิดอยากจะแย่งชิงตะวันมาเป็นของตน
“ภรรยาตะวันโชคดีจังเลยนะ ที่ได้แต่งงานกับตะวัน ท่าทางตะวันจะรักภรรยามากเลยนะ” เกวลินแสร้งพูดเสียงใส ทว่าในใจมีแต่ความริษยาและต้องการแย่งชิง
“ใช่ครับ รักมากเลย” ตะวันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม คนที่ได้รับคำตอบเจ็บเสียดหัวใจยิ่งนัก ไม่ว่าตะวันจะรักภรรยามากแค่ไหน เธอก็จะแย่งชิงเขามาเป็นของตนให้ได้ อยากรู้เหมือนกันว่า...
รักแท้ของตะวัน กับมารยาหญิงของเธอ
...ใครจะเป็นฝ่ายชนะ...
“ถึงแล้วค่ะตะวัน ผับนี้แหละคะ” เกวลินพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงผับ “เราเข้าไปกันเลยนะคะ เดี๋ยวที่จะเต็ม”
“ครับเดียร์” สิ้นคำพูดของชายหนุ่ม ทั้งคู่ก็พากันเดินเข้าไปในผับ ก่อนที่ทั้งสองจะได้ที่นั่งมุมสวีทที่อยู่ด้านมุมของผับ
“บรรยากาศที่นี่ดีจังเลยนะเดียร์ คนไม่พลุกพล่านดี”
ตะวันเอ่ยบอกสาวที่นั่งข้างๆ ตอนแรกเขาคิดไปว่าผับที่เกวลินพามาเที่ยวนั้น จะอึกทึกไปด้วยเสียงเพลงสนั่นผับ มีคนดีดดิ้นไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน แต่ทว่าที่นี่ไม่ใช่...
เสียงเพลงแจ๊สที่ดังขับกล่อมระรื่นหู ฟังแล้วเพลิดเพลิน ยิ่งดื่มด่ำกับไวน์รสเยี่ยม หรือวิสกี้ บรั่นดีและเครื่องดื่มอีกหลากหลาย เคล้าเสียงเพลงไปด้วย ยิ่งทำให้ความสุขมีเพิ่มมากขึ้น แล้วเป็นอีกครั้งที่ทำให้ตะวันคิดว่า หากสาวข้างกายเป็นหทัยชนกก็คงจะดีไม่น้อย เขาคงมีความสุขมากกว่านี้
“ใช่ค่ะ ที่นี่บรรยากาศดีมาก เหมาะสำหรับคู่รัก”
“มาที่นี่ทำให้ผมคิดถึงภรรยา” ถ้อยคำของตะวันทำให้อารมณ์สุนทรีย์ของเกวลินลดฮวบลง นึกหมั่นไส้ภรรยาสุดที่รักของตะวันขึ้นมาตงิดๆ
“ตะวันจะดื่มอะไรดี เดียร์จะได้สั่งให้”
เกวลินเปลี่ยนเรื่องพูด ยิ่งพูดถึงภรรยาของชายหนุ่มตรงหน้ามากเท่าไหร่ ความริษยาและความเกลียดชังยิ่งเพิ่มมากเท่านั้น
“ผมขอวอสก้าก็แล้วกัน”
“ได้เลย” เกวลินยกมือขึ้นเพื่อเรียกพนังงานของผับให้มารับออเดอร์ หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มไม่นาน สิ่งที่ทั้งสองต้องการก็นำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ
“ตะวันจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่เหรอ?” สาวเปรี้ยวเริ่มชวนคุยเมื่อดื่มเตกิล่าลงผ่านลำคอ
“เสร็จงานก็กลับเลย” ตะวันตอบ
“ไม่อยู่เที่ยวต่อเหรอ เดี๋ยวเดียร์เป็นไกด์พาเที่ยวเอง”
“ไม่ล่ะ ตะวันอยากกลับเมืองไทยมากกว่า ไม่อยากอยู่เที่ยวต่อ” เขาพูดจากใจ และนั่นทำให้เกวลินทำหน้าเบ้เล็กน้อย พลางคิดในใจว่า...
“ที่ไม่อยู่เที่ยวต่อเพราะอยากกลับไปหาเมียล่ะสิ อย่าได้หวังเลย”
“ตามใจตะวันนะ ถ้ามาที่นี่อีกครั้งก็บอกเดียร์นะ เดียร์จะเป็นไกด์ให้” เธอสงวนท่าทีเอาไว้ก่อน เพราะมันยังไม่ถึงเวลา
“ได้สิ”
“ตะวันลองดื่มเตกิล่าหน่อยมั้ย” เธอกล่าวชวนอย่างมีแผน
“ไม่ล่ะ มันแรง”
“ไม่แรงหรอก ถ้าแรงเดียร์จะดื่มเหรอ?” เกวลินสวนกลับ พยักหน้าให้เขาลองดื่ม ตะวันชั่งใจอยู่สักครู่จึงตอบตกลง
“ตะวันลองดื่มก็ได้” เมื่อได้รับคำตอบ เกวลินจึงเรียกพนักงานอีกครั้ง ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มชุดใหญ่...เตกิล่าสิบชอต
“ทำไมสั่งมาเยอะจังล่ะเดียร์ ตะวันดื่มแค่แก้วเดียวนะ” เสียงของตะวันค้านขึ้น หลังจากที่พนักงานเดินห่างโต๊ะที่เขานั่งอยู่
“ของบางอย่างที่ตะวันไม่เคยกิน แล้วได้ลิ้มลองรสชาติของมัน เกิดถูกปากตะวันขึ้นมาก็ต้องอยากจะชิมอีกครั้งและอีกครั้ง เดียร์เชื่อว่าหลังจากที่ตะวันได้ดื่มเตกิล่าแรง ๆ รสชาติเยี่ยม ตะวันจะลืมรสชาติจืดชืดของวอสก้าไปเลย”
เกวลินอยากจะพูดออกไปตรง ๆ มากกว่า ไม่อยากสรรค์สร้างข้อเปรียบเทียบให้ตะวันได้รับรู้ คำพูดที่เธออยากจะบอกเขานั้นคือคำพูดประโยคนี้
“ถ้าหากตะวันได้นอนกับเดียร์ รับรองว่าตะวันจะลืมเมียที่บ้านไปเลย แล้วอาจจะไม่กลับไปกินรสชาติชวนเลี่ยนนั้นอีกตอลดชีวิต”
แต่เธอทำอย่างนั้นไม่ได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอ จะต้องเป็นเรื่องบังเอิญ หรือไม่ก็เหตุสุดวิสัย เพราะฉะนั้นเธอต้องสร้างสถานการณ์นั้นขึ้นมา ให้สมจริงสมจัง
ไม่นานเกินรอพนักงานก็นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้บนโต๊ะ ตะวันกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเตกิล่าที่อยูใกล้มือ ทว่ามือของเกวลินได้เอื้อมมาชิงแก้วไปนั้นไปก่อน
“เดี๋ยวเดียร์ป้อนให้ตะวันนะ”
ยังไม่ทันที่ตะวันจะพูดอะไร แก้วเครื่องดื่มก็มาจ่อตรงปาก ทำให้เขาต้องเปิดปากแล้วดื่มเตกิล่าที่เธอป้อนให้ตามมารยาท
“เป็นไงตะวัน รสชาติดีมั้ย แรงหรือเปล่า?” เธอเอ่ยถามหลังจากที่เขาดื่มเตกิล่าไปจนหมดแก้ว
“รสชาติโอเคนะ” เขาตอบ “แต่จะแรงหรือไม่แรงต้องรอดูอีกสักพัก เพราะถ้ามึนเร็วก็แสดงว่าเอาเรื่องเหมือนกัน”
“แต่เดียร์ว่าคงไม่แรงพอที่จะทำให้ตะวันมึนหรอก ไม่เชื่อลองดื่มอีกแก้วสิ”
ไม่พูดเปล่าเธอยังยกแก้วเตกิล่าอีกแก้วหนึ่งขึ้นมา จดจ่อตรงปากของตะวัน “ลองดื่มอีกแล้วนึงนะตะวัน นะ อื่มนะ” เธอคะยั้นคะยอ ตะวันที่เกรงใจและไม่อยากให้เธอเสียน้ำใจ จึงยอมเปิดปากรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเข้าไปในลำคอจนหมดแก้ว
“อีกแก้วนึงนะตะวัน นะดื่มเลย” พอหมดแก้วนั้น เธอก็รีบหยิบอีกแก้วหนึ่งขึ้นมา จดจ่อตรงปากหนาเช่นเคย
“พอแล้ว เดี๋ยวเมา” เขาเริ่มค้านเพราะไม่ต้องการดื่มไปมากกว่านี้
“นะตะวันนะ ดื่มอีกแล้วนึงนะ ถ้าไม่ดื่มเดียร์ถือว่าตะวันไม่ให้เกียรติเดียร์ นะตะวันนะ ดื่มนะ” เธอใช้คำพูดเด็ดที่ทำให้ตะวันไม่อาจปฏิเสธได้
“แก้วสุดท้ายนะ” เขาต่อรอง
“จ้ะ แก้วสุดท้าย” ปากพูดแต่ในใจกำลังบอกว่า แก้วนี้จะไม่ใช่แก้วสุดท้าย
คำพูดและคำออดอ้อนของเกวลิน ส่งผลให้ความเกรงใจผุดขึ้นมาใจจิตใจของเขา ปากหนาของตะวันจึงเผยอกว้างหลังจากจบคำพูดของเธอ ดื่มเตกิล่าที่เกวลินป้อนให้ด้วยความจำยอม