สัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาลืมเธอไม่ได้

691 คำ
ตอนที่ 8 ในสถานการณ์เช่นนี้ ปภาวรินทร์ถึงกับวางตัวไม่ถูก เพราะตั้งแต่เธอบอกเลิกเขาในอดีต เธอก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย จะเจอบ้างก็แค่เพื่อน ๆ ของเขาซึ่งเธอก็ไม่กล้าบอกอะไร มีอยู่ครั้งหนึ่งปภาวรินทร์เคยไปหาเขาที่บ้าน แต่ปรากฏว่าเขาก็ไม่อยู่เสียแล้ว และนั่นก็ทำให้เธอได้อยู่จักกับภีรดาน้องสาวของนรภัฏ วันนี้เธอถูกเขาต้อนจนมุมไปหลายครา แต่ก็หาวิธีเอาตัวรอดมาจนได้ “เอ่อ....” หญิงสาวกำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างเพื่อทำลายความเงียบ แต่นรภัฏก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน “ได้ข่าวว่านุ เป็นคนรับเธอเข้ามาทำงานงั้นรึ” เมื่ออยู่กันสองต่อสองอีกครั้ง นรภัฏจึงเอ่ยถามด้วยเสียงเข้มเพื่อเริ่มต้นบทสนทนา ชายหนุ่มกวาดตาอ่านประวัติการเรียนคร่าวๆ ของปภาวรินทร์อีกครั้ง ก่อนจะเห็นว่าเธอนั้นเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีและก็ได้เกียรตินิยม “ค่ะ” หญิงสาวตอบสั้น ๆ “คุณยายเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีมั้ย” นรภัฏเลือกหัวข้อคำถามได้ดี เพราะดวงตาใสแจ๋วคู่นั้นเป็นประกายวับยามเธอเล่าเรื่องของคุณยายของเธอ “สบายดีค่ะ แต่คุณยายอายุมากขึ้นทุกวัน ฝ้ายว่าจะให้ท่านเลิกขายขนมหวานแล้ว” หญิงสาวลืมตัวเลยแทนชื่อเล่นของเธอกับเขาไป นรภัฏก็ได้่แต่ยิ้ม ๆ ก่อนจะถามเธอต่อไปอีก “เอกบัญชีจุฬา เรียนหนักมั้ย” “เอาจริงๆ ก็หนักอยู่ค่ะ ด้วยเนื้อหาวิชาที่มันต้องละเอียดมากๆ แล้วก็ใช้คณิตกับภาษาอังกฤษแทบจะตลอด 4 ปีเลย เทอมแรกต้องเรียนแคล แต่ก็ไม่ได้ยากมาก ส่วนวิชาอื่นๆ ก็พอเอาอยู่ค่ะ” “เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คงไม่เรียกว่าแค่เอาอยู่หรอกมั่ง” เขาเอ่ยแซว ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นมองเมื่อเห็นว่าหญิงสาวถ่อมตัวมากไปหน่อย “แล้วตลอดเวลาที่เรียน กู้เงินเรียน หรือว่ามีใครส่งเสีย” “กู้เรียนค่ะ ไม่มีใครส่งเสีย” หญิงสาวตอบทันควัน “จบบัญชี คิดยังไงถึงมาเป็นเลขาฯ” เขาถามต่อไปอีก เหมือนเธอถูกเข้าสัมภาษณ์เข้างานยังไงยังงั้น เขายิ้มบางๆ และขยับนั่งในท่าที่สบายๆ พิงพนักเก้าอี้แล้วก็กอดอก ทำให้เธอเกร็งเล็กน้อย “ก็ตำแหน่งมันว่างตรงไหน ดิฉันก็รีบคว้าเอาไว้ก่อน ดีกว่าไม่มีงานค่ะ” นรภัฏลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะมาหาเธอที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม “เมื่อกี้เธอยังแทนตัวเอง ด้วยชื่อเล่นอยู่เลย” เขาพูดอยู่ข้างหลังเธอ “ดิฉันขอโทษค่ะ” หญิงสาวพูดโดยไม่มองเขา นรภัฏยื่นหน้ามาใกล้เธอจากทางด้านหลังแล้วพูดขึ้น ข้าง ๆ ใบหู “ไม่ต้องขอโทษหรอก ต่อไปนี้เวลาเธออยู่กับฉัน เธอต้องแทนตัวเองด้วยชื่อเล่น เข้าใจมั้ย!!!” เขาเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ทิ้งตัวลงไปกับพนักพิง แล้วซักถามเธอต่อ “แล้วเธอไปสนิทกับคุณภีรดาตั้งแต่เมื่อไหร่” “น่าจะช่วงตอนปีสีค่ะ ตอนนั้นฝ้ายไปฝึกงานอยู่บริษัทของแฟนเธอ และพอฝึกเสร็จคุณพริมก็ชวนมาเป็นเลขาฯ” ปภาวรินทร์จำใจต้องพูดความจริงกับเขา ถึงแม้ภีรดาจะสั่งห้ามเธอก็ตาม “สรุปว่าเธอก็เป็นเด็กเส้นสินะ” “แต่ดิฉัน!!!..” หญิงสาวหยุดทันที “แต่ฝ้ายก็ไปเขียนไปสมัครที่ฝ่ายบุคคลแล้ว” “ประธานบริษัท รับรองซะขนาดนั้น หัวหน้าฝ่ายบุคคลคงจะกล้าตรวจสอบหรอกนะ” “ถ้าอย่างนั้น คุณก็ให้เขาตรวจสอบดิฉันใหม่ก็ได้นี่คะ” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย นรภัฏไม่พอใจที่เธอไม่ยอมแทนตัวเองว่าฝ้ายเหมือนในอดีต จึงลุกขึ้นมาหาเธอ และเดินเข้ามาประชิด “ดี!!! ถ้างั้นระหว่างนี้ฉันจะเป็นฝ่ายตรวจสอบเธอเอง” “ค่ะ” ปภาวรินทร์ใจเต้นรัวเมื่อเขาลุกมาประชิดร่างของเธอ แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ก่อนที่จะเห็นเขากลับไปนั่ง หญิงสาวจึงค่อยโล่งอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม