อกหักเพราะรักเด็ก
ตอนที่ 1
สถานบันเทิงหรูใจกลางกรุง
ชายร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสเล็คสีดำ ดวงตาคมคิ้วเข้มจมูกโด่ง ริมฝีปากหยักได้รูป ก้าวลงจากรถเบนซ์สีดำคันหรู ก่อนจะเดินเข้าไปในสถานบันเทิงแห่งนี้ด้วยจิตใจอันห่อเหี่ยว
เขาเดินฝ่ากลุ่มนักท่องเที่ยวราตรีกลุ่มใหญ่ หญิงสาวมากหน้าหลายตาร้องทักเขาด้วยความเสน่หา แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้สนใจเสียงเชื้อเชิญเหล่านั้น มือหนาเอื้อมไปหมุนลูกบิดประตูก่อนจะเดินเข้าไปในห้องที่ตนเองได้จองเอาไว้ล่วงหน้า ภายในห้องมีเฟอร์นิเจอร์ครบครันเพราะห้องนี้เป็นห้องวีไอพีของสถานบันเทิงหรูแห่งนี้ ที่ผู้จองต้องการความเป็นส่วนตัวนั่นเอง
ชายหนุ่มทิ้งร่างลงบนโซฟาตัวยาว ก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อเปิดดูรูปใครบางคน จากนั้นแววตาเศร้าหมองบนใบหน้าก็เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่นานนักก็มีชายร่างสูงอีกคน ในชุดสูทสีเทาเข้มที่เปิดประตูเข้ามา เขาเอ่ยทักชายคนดังกล่าวด้วยความเป็นกันเอง
“หวัดครับ...พี่ต๊อบ เชิญนั่งก่อนครับพี่” ชายหนุ่มละสายตาจากจอมือถือและเชื้อเชิญหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความเคารพ
“ไงไอ้เสือ..ได้ข่าวว่าอกหักงั้นรึ ตอนไอ้นุมันโทรมาบอก พี่เนี่ย..แทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยนะ พี่ถามมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะยังไงพี่ก็ไม่เชื่อ!....จนพี่ได้โทรหาแกเนี่ยแหละ” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ ปรายตามองรุ่นพี่ที่เพิ่งเข้าใหม่ ก่อนที่เขาจะนั่งลงข้าง ๆ ตามคำเชิญ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะชวนรุ่นพี่คนนี้มา แต่พอเอกรินทร์ อดีตหัวหน้าที่รู้ว่านรภัฏอกหัก จึงอยากมาให้กำลังใจหนุ่มรุ่นน้อง ในฐานะรุ่นพี่อดีตหัวหน้างานคนหนึ่ง เอกรินทร์ได้รู้จากรุ่นน้องที่แผนกฝ่ายบุคคลว่านรภัฏได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากบริษัท และมีการนัดมาเลี้ยงอำลากันที่นี่ เขารู้ข่าวจึงได้โทรถามนรภัฏและเดินทางตามมา
“พี่เองก็ไม่อยากเชื่อหรอกนะ ว่าเจ้าสัวปรเมศวร์จะมาพิศวาสเด็กรุ่นลูกอย่างแฟนของภัฏไปได้” เขาเอ่ยขึ้นเมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“แต่มันก็เป็นไปแล้วนี่ครับ” เขาตอบด้วยเสียงเรียบ แต่ระหว่างที่นั่งสนทนากันอยู่นั้น เสียงที่คุ้นเคยก็เอ่ยทักคนทั้งสองอยู่หน้าประตู ก่อนที่หนุ่มรุ่นน้องคนนั้นจะเดินเข้ามา
“สวัสดีครับพี่ภัฏ สวัสดีครับพี่ต๊อบ” ร่างสูงที่เข้ามาใหม่เอ่ยทักทายสองหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวอย่างเป็นทางการพร้อมกับยกมือไหว้ทั้งคู่
“มาได้สักทีนะไอ้นุ” นรภัฏเอ่ยทักทายคนที่เข้ามาใหม่ เขาคือภาณุวัฒน์ รุ่นน้องในแผนกฝ่ายบุคคลและทำงานที่เดียวกับนรภัฏ
“หล่อ ๆ อย่างไอ้ภัฏยังอกหัก แล้วเราสองคนจะไปเหลืออาไร้วะไอ้นุ” เอกรินทร์พี่ใหญ่สุดเอ่ยขึ้นหลังคุยกันเรื่องที่นรภัฏอกหักแบบสายฟ้าแลบ
“นั่นสิพี่ ถ้าเป็นผมก็ว่าไปอย่าง ขนาดวันก่อนนะ..ผมจะเล่าให้ฟัง ผมไปนัดเจอสาวในแอพหาคู่คนหนึ่ง คุยกันได้เกือบสองอาทิตย์แล้วเราก็นัดเจอกัน....แมร่งเอ๊ย!!!..โครตไม่ตรงปกเลยครับพี่! ผมนี่ไปไม่เป็นเลยนะ พี่รู้มั้ยผมวิ่งขึ้นรถแทบไม่ทัน ไม่ตกปกยังไม่พอนะ แต่นั่นน่ะ!!! รุ่นแม่ผมเลย ฮ่า ๆๆ” นุเล่าทุกอย่างให้เอกรินทร์และนรภัฏฟังอย่างขำ ๆ เพื่อทำให้นรภัฏหายจากอาการซึมเศร้าและอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“ว่าแต่แกเถอะ..ภัฏ หล่อเลือกได้แบบนี้จะมานั่งเสียใจกับเรื่องแค่นี้ทำไมวะ” รุ่นพี่หนุ่มใหญ่ตบไหล่นรภัฏเบา ๆ แล้วเอ่ยถาม
“พี่ไม่รู้อะไร..เด็กคนนี้ผมจริงจังกับเธอครับ” นรภัฏยอมพูดออกมาหลังจากที่เอาแต่ฟังทั้งสองคุยกัน
“แล้วเรื่องราวมันเป็นยังไง ไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ ไอ้นุมันเล่าไม่ละเอียดเลยว่ะ พี่ตกใจน่ะ ตอนที่แกเขียนใบลาออกน่ะ”
แม้คู่สนทนาจะตีหน้านิ่งเฉยไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่หนุ่มรุ่นพี่ก็ใช้ความอาวุโสกว่าเอ่ยถามขึ้นมาจนได้ ทั้งสองรู้ดีว่านรภัฏเป็นเสือผู้หญิง และตัดสินใจถอดเขี้ยวเล็บตั้งแต่ที่เขาได้คบหากับปภาวรินทร์เด็กสาวที่เรียนอยู่แค่มัธยมปลาย ทั้งสองไม่ได้เคยคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับเขาได้ สิ่งเดียวพี่พวกเขากลัวก็คือ คดีพรากผู้เยาว์ต่างหาก แต่กลับกลายเป็นว่านรภัฏถูกเด็กหลอก!