ตอนที่ 11
นรภัฏกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง ก่อนจะหยุดคุยสักครู่กับเลขาฯ หน้าห้อง
“เดี๋ยวคุณวิ...ช่วยจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าให้ผมสองที่นะครับ”
“ค่ะ..คุณภัฏ” มุมปากของนักธุรกิจหนุ่มโค้งขึ้นนิดๆ ประกายดวงตาระยิบระยับเพียงแค่คิดว่าจะมีโอกาสใกล้ชิดกับปภวรินทร์อีกครั้ง เขาก็ดีใจจนบอกไม่ถูกก่อนจะเก็บอารมณ์ตนเองให้แนบเนียน และรีบเดินเข้าห้องเพื่อมาคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกไปทันที
“เดี๋ยวค่ะ คุณภัฏ” วิชชุดารีบเรียกเจ้านาย จนเขาต้องหยุดกะทันหัน
“ตกลงว่าไปดูงานครั้งนี้ คุณภีรดาจะส่งเลขาฯ ไปเป็นตัวแทนไปใช่มั้ยคะ” วิชชุดา ถามเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ใช่ครับคุณวิ..”
“โอเคค่ะ พอดีวิจะได้ลงชื่อจองตั๋วเครื่องบินให้ถูก” ชายหนุ่มแค่นยิ้ม ดวงตาวาววับวาบเมื่อคิดถึงการจะได้แก้แค้นอดีตคนรักของตนเองในครั้งนี้
17.00 น.
นรภัฏที่เดินมารอปภาวรินทร์ถึงหน้าห้องทำงานของน้องสาว เพราะกลัวว่าเธอจะหนีกลับไปก่อน จนเธอเลิกงานพอดีเขาก็รีบตามเธอออกไป แต่หญิงสาวก็ไม่กล้าขัดข้อง จึงยอมเดินตามเขามายังลานจอดรถ
“คุณไม่จำเป็นต้องเปิดประตูรถให้ฉันหรอกค่ะ คุณเป็นเจ้านาย” หญิงสาวเอ่ยขึ้น
“ไม่มีเจ้านายลูกน้อง นี่เลิกงานแล้ว ขึ้นไป” ปภาวรินทร์ถอนใจ เธอไม่กล้าขัดคำสั่งเพราะกลัวอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของเขา จึงยอมขึ้นไปนั่งแต่โดยดี
“คาดเข็มขัดซะ ผมไม่อยากมีปัญหากับตำรวจ” ปภาวรินทร์ใจลอยคิดเรื่องที่เธอเพิ่งจะคุยกับคุณยายโดยไม่ทันได้ฟังในสิ่งที่เขาพูด จนถูกชายหนุ่มโถมร่างเขาใส่ ใบหน้าคมอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงคืบ ก่อนที่หญิงสาวจะรู้ตัวว่าเขาจะทำอะไรให้เธอจึงค่อย ๆ หายใจเป็นปกติด้วยความโล่งอก อยู่กับเขามีเรื่องให้ตื่นเต้นได้ตลอดสินะ!
“ไม่ต้องไปส่งฉันที่บ้านหรอกค่ะ วันนี้คุณยายอยู่ที่ตลาด” ออกรถมาได้สักระยะปภาวรินทร์ก็รีบบอกเจ้านายทันที
“อ่าวเหรอ! คุณยายมาขายขนมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมไม่บอกผมบ้าง”
“เพิ่งจะมาขายวันนี้เป็นวันแรกค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยเสียงเป็นปกติ
“อื้ม!!!...งั้นดีเลย ผมกำลังอยากกินของหวานอยู่พอดี” ดูท่าทางเขาดีใจ ก่อนที่เธอจะเห็นเขายิ้มออกมา
นรภัฏขับรถมาจอดส่งหญิงสาวที่ตลาด วันนี้คุณยายของเธอมาขายขนมตามเดิม หลังจากไม่ได้ขายมาเกือบเป็นเดือน แต่คุณยายของเธอแก่ลงไปมาก พอรถจากลงเรียบร้อยนรภัฏก็รีบเดินเข้าไปทักทายกับหญิงชราที่กำลังหยิบขนมหวานใส่ถุงให้กับลูกค้าเสร็จพอดี
“สวัสดีครับคุณยาย จำผมได้มั้ยครับ” นรภัฏยกมือไหว้หญิงชรา เธอยืนจ้องหน้าชายหนุ่มร่างสูงอยู่ไม่นานก็ร้องรีบอ๋อ
“คุณภัฏ!!!....คุณภัฏจริง ๆ ด้วย โห!!!..ไม่เห็นกันตั้งนานสบายดีหรือคะ นึกว่าจะไม่มาหายายเสียแล้ว”
“ผมสบายดีครับ..คุณยาย ว่าจะมาหาคุณยายหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสสักทีเลย เห็นหลานสาวคุณยายบอกว่าคุณยายเลิกขายขนมไปแล้ว”
“คนแก่น่ะค่ะ สามวันดีสี่วันไข้ มาขายบ้างไม่มาบ้าง เห็นหนูฝ้ายบอกว่าคุณภัฏมีบริษัทเป็นของตัวเองแล้ว คงร่ำรวยกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยสินะ ก้าวหน้าเหลือเกินนะพ่อคุณ” หญิงชราเอ่ยชมอย่างเป็นกันเอง ในหว่างที่ปภาวรินทร์เอากระเป๋าสะพายของเธอไปเก็บไว้ในลิ้นชักของรถเข็น แล้วรีบทำหน้าที่เป็นผู้ขายทันที
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณยาย แล้ววันนี้คุณยายเหลือขนมอะไรให้ผมกินบ้างครับ” นรภัฏพูดคุยกับหญิงชราอย่างเป็นกันเองโดยไม่ถือเนื้อถือตัว
“คุณยายคะ มาค่ะ..เดี๋ยวหนูตักเองดีกว่า” หญิงชรามือสั่นเล็กน้อย หลานสาวจึงคว้าเอายาดมมายื่นให้ ก่อนจะทำหน้าที่แทนคุณยายของเธอ
“คุณยาย ไปนั่งพักเถอะค่ะ ฝ้ายบอกแล้วไง..ว่าไม่ไหวก็ไม่ต้องขาย” เธอดุคุณยายของเธอ
“ฝ้าย! คุณก็อย่าไปดุคุณยายอย่างนั้นสิครับ คุณเล่นให้คุณยายท่านอยู่เฉย ๆ ท่านก็เหงาสิครับ คุณนี่ไม่เข้าใจคนแก่เอาซะเลย” เขาพูดเหมือนรู้ใจคนสูงวัยได้เป็นอย่างดี จนปภาวรินทร์รู้สึกหมั่นไส้ นรภัฏเดินไปนั่งและเอาอกเอาใจคุณยายของเธอสารพัดขณะที่เธอเองก็ยุ่งกับการขาย
“คุณยายจะอยู่คนเดียวได้มั้ยครับเนี่ย ถ้าหลานสาวคนเก่งเค้าจะต้องไปต่างจังหวัดหลาย ๆ วัน”
“ได้สิคะ ยายอยู่ได้ ว่าแต่ คุณภัฏเถอะ จะให้หลานยายไปไหนรึ” ก่อนมาปภาวรินทร์ได้โทรมาเกริ่นกับคุณยายของเธอบ้างแล้ว เพราะเธอรู้ว่ายังไงวันนี้ นรภัฏก็คงไม่ยอมให้เธอกลับบ้านคนเดียวอย่างแน่นอน
“ช่วงภายในอาทิตย์หน้านี้ครับ..คุณยาย ผมจะขออนุญาตคุณยายพาฝ้ายเค้าไปดูงานที่เมืองนอก คุณยายจะอนุญาตมั้ยครับ”
“เอาสิ!!..ยายไม่ว่าหรอก”
“ขอบคุณครับ คุณยาย” ชายหนุ่มรีบยกมือไหว้หญิงชรา และปรายตามองใบหน้าของหลานสาวทันที เหมือนจะยิ้มเยาะ ที่เขาสามารถเอาใจคุณยาย จนท่านไม่ขัดข้องอะไร แต่นั่นเป็นเพราะปภาวรินทร์ได้โทรมาบอกคุณยายของเธอก่อนหน้านี้แล้วต่างหาก