ตอนที่ 2
แม้นรภัฏจะไม่ได้ทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่น่าเกรงขามสักเท่าไหร่ แต่ด้วยลักษณะบุคลิกของเขา ก็ทำให้ภานุวัฒน์หนุ่มรุ่นน้อง ไม่กล้าพูดจาเล่นด้วยยิ่งเห็นเขาเครียด ๆ แบบนี้ด้วยแล้ว แต่ภาณุวัฒน์เองเป็นคนในตระกูลเดียวกันกับนรภัฏ เพราะเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนรภัฏ และทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกัน ภาณุวัฒน์จึงได้รับหน้าที่ในการเป็นม้าเร็วให้มาสืบข่าวเรื่องนี้พร้อมกับเอกรินทร์ หรือต๊อบ รุ่นพี่ที่เคยเป็นอดีตหัวหน้าเก่าของนรภัฏมาก่อน และเคยสังสรรค์ด้วยกันอยู่เป็นประจำ แต่ว่าเอกรินทร์นั้นได้ย้ายไปเป็นหัวหน้าแผนกอื่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ไปแล้ว
“เธอกำลังจะแต่งงานครับ” นรภัฏตัดบทเสียงนิ่งๆ ไม่ละสายตาจากรูปในโทรศัพท์ ที่เขาตัดสินใจไม่ลบเพราะอยากเก็บภาพนี้เอาไว้ในความทรงจำ...
“เฮ้ย! ไรวะ ภัฏ...นี่แกจะยอมแพ้ให้กับเจ้า่สัวปรเมศวร์นั่นจริง ๆ เหรอวะ” หนุ่มรุ่นพี่ถามขึ้น
เอกรินทร์เคยคบหากับนรภัฏมานานหลายปีตั้งแต่เรียนด้วยกัน ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะเป็นในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ตาม แต่เขาก็รู้ว่าคนอย่างนรภัฏคงไม่ยอมปล่อยให้เรื่องราวแบบนี้ผ่านไปง่ายๆ และตั้งแต่รู้จักกันมา เอกรินทร์ก็ไม่เห็นว่ารุ่นน้องคนนี้จะมีสาว ๆ คนไหนที่กล้าปฏิเสธเขาเลยสักคน นรภัฏจะเดินไปไหนมาไหนก็มีแต่สาว ๆ กรี๊ดกร๊าดกันทั้งนั้นจนเอกรินทร์ตั้งฉายาให้รุ่นน้องคนนี้และมักจะเรียกนรภัฏว่า..ไอ้เสือ แต่ตัวนรภัฏเองกลับมาถูกเด็กสาวมัธยมบ้าน ๆ คนหนึ่งหักอก เนี่ยนะ!!! โอ๊ย..จะบ้าตาย!! เสียดายหน้าที่การงานของนรภัฏที่กำลังไปได้ดี ได้เลื่อนขั้นเป็นถึงหัวหน้าฝ่ายขายอีกทั้งค่าคอมในแต่ละเดือนก็ได้เดือนเป็นแสน แต่กลับต้องมาลาออกเพราะเสียใจแค่เรื่องที่ถูกเด็กสาวมัธยมหักอก!
“เธอกำลังจะหมั้นแล้วก็แต่งงานภายในเดือนหน้านี้ครับ” นรภัฏเอ่ยขึ้น
“เธอบอกพี่ว่างั้นเหรอ” นุถามบ้าง
“อืม” เขาหันมาตอบรุ่นน้อง
“เธอเพิ่งตัดสินใจรับหมั้นเจ้าสัวปรเมศวร์ เมื่อสองวันที่ผ่านมา” เสียงนั้นเบาลงเล็กน้อย... อันที่จริงภาณุวัฒน์ก็นึกเสียดายแทนนรภัฏอยู่เหมือนกัน เพราะเขาเคยเห็นภาวรินทร์มาแล้ว เธอนั้นสวยราวกับนางฟ้าถึงแม้จะเป็นแค่เด็กมัธยม แต่หุ่นเธอนั้นก็พอ ๆ กับนางแบบเวทีระดับโลก เธอเป็นถึงดัมเมเยอร์ของโรงเรียน เมื่อก่อนเขาเห็นทั้งคู่รักกันมาก จนไม่คิดว่าจะมีวันนี้เลย
“แล้วเธอให้เหตุผลแกว่าอย่างไรบ้าง” เอกรินทร์ถามต่อไปอีก
“น้องเค้าให้เหตุผลเพียงแค่ว่าจำเป็นต้องแต่งงานกับเจ้าสัวปรเมศวร์เท่านั้นครับ ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากนั้นเลยจริง ๆ ครับพี่” นรภัฏตอบคำถามของชายหนุ่มรุ่นพี่
“ส่งคนไปฉุดเลยดีมั้ยพี่” ภานุวัฒน์ หนุ่มรุ่นน้องพูดขึ้นทันควันด้วยความคะนองปาก เมื่อแอลกอฮอล์ทั้งหลายเพิ่มจำนวนมากขึ้นในเลือดของเขา
“เฮ่ย..ไอ้บ้า คนดีที่ไหนเค้าทำกันแบบนั้นล่ะ” นรภัฏสวนกลับทันทีเช่นกัน
“แต่พี่ภัฏลืมสโลแกนของพวกเราไปแล้วรึไง จีบคนโสดศัตรูเป็นแสน จีบคนมีแฟนศัตรูแค่คนเดียวเองนะพี่” เสียงอู้อี้คล้ายคนเมาเอ่ยขึ้น พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม
“พอเถอะไอ้นุ ขอบใจที่แกเป็นห่วงพี่ แต่แย่งแฟนคนที่เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว พี่คงไม่หน้าด้านพอหรอกว่ะ” คนเป็นพี่รีบตัดบทอีกรอบพลางมองปราม แต่ก็หาได้หยุดความพยายามของผู้เป็นน้องไม่
“เฮ้ย! พี่ภัฏ อย่าเพิ่งท้อสิ หมั้นได้ก็ถอนได้นี่พี่ หมั้นสายฟ้าแลบขนาดนั้นมันต้องมีอะไรแหละ ลอง ๆ สืบดูก่อนดีมั้ย พี่ไม่น่ารีบไปลาออกจากงานเล้ย!”
เอกรินทร์หนุ่มรุ่นพี่ รีบยกมือห้ามเมื่อเห็นว่าภานุวัฒน์หนุ่มรุ่นน้องพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และก็พูดมากเกินไป
“แกเมาแล้วนั่งดื่มเฉย ๆ ไป ไอ้นุ เรื่องนี้ปล่อยให้ภัฏมันตัดสินใจของมันเอง”
เสียงเอกรินทร์พูดขึ้น จากนั้นภานุวัฒน์จึงนั่งดื่มอย่างเงียบ ๆ และในฐานะรุ่นน้องที่เคยสนิทและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เขารู้ตัวว่ามาถึงจุดที่เขาล้ำเส้นรุ่นพี่คนนี้อีกไม่ได้แล้ว นรภัฏมองรอยยิ้มเจื่อน ๆ ของภานุวัฒน์ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ขอบใจที่แกเป็นห่วงนะ แต่พี่ตัดใจได้ละ ผู้ชายคนนั้นเค้ามีดีกว่าพี่ทุกอย่าง เขารวยล้นฟ้าซะขนาดนั้น พี่จะเอาอะไรไปสู้กับเขาวะ”
นรภัฏ หนุ่มโสดในฝันของสาวๆ หลายคน ที่ถึงแม้ภายนอกจะฉาบด้วยมาดเข้มของหัวหน้าฝ่ายขายที่ได้เป็นพนักงานดีเด่นถึงสองปีซ้อนในบริษัทนำเข้าเครื่องมือแพทย์รวมไปถึงยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่ เมื่อปีทีแล้วเขาได้คบหาอยู่กับเด็กสาวมัธยมปลายคนหนึ่ง เธอชื่อว่าปภาวรินทร์ และเร็ว ๆ นี้ เด็กสาวคนดังกล่าวก็บอกเลิกกับเขาอย่างกะทันหัน และประกาศว่าเธอนั้นจะต้องหมั้นกับคนแก่คราวพ่ออย่างเจ้าสัวปรเมศวร์ที่อายุแก่คราวพ่อ จนทำให้นรภัฏไม่ทันตั้งตัว