ตอนที่ 13
ทั้งสามคนออกมาทานข้าวด้วยกันเรียบร้อย ก็กำลังจะเดินทางกลับ เจ้าเอยนั่งคาร์ซีสที่เพชรตะวันซื้อมาให้เมื่อสักครู่ เพราะห่วงความปลอดภัยเวลาที่นั่งรถไปไหนด้วยกัน แถมยังซื้อตุ๊กตาให้อีกพร้อมกับหมอนใบเล็กและผ้าห่มอีกสองผืน
“ต่อไปนี้ถ้าวันไหนที่พี่ปรัชญ์รีบไปทำงานแต่เช้า ผมไปส่งเจ้าเอยที่โรงเรียนให้ก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มหันมาบอกกับหญิงสาวที่นั่งมาด้วยกันข้าง ๆ วันนี้เขารู้สึกมีความสุขเหลือเกิน ที่ได้พาเธอและลูกออกมาทานข้าวด้วยกัน
“เย้!!!..พี่ฉลามใจดีที่สุดเลย” สาวน้อยดีใจรีบตะโกนลั่น ก่อนที่แม่ของเธอจะได้ตอบเสียอีก
“แล้วฉลามไม่รีบเข้าเรียนเหรอ” ปุริมปรัชญ์ถามด้วยความเกรงใจ
“อีกไม่กี่วันก็จะปิดเทอมแล้วครับ ส่วนเทอมหน้านี้ผมก็ฝึกงานทั้งเทอมเลย พอฝึกเสร็จก็จบพอดีครับ” เขาบอกเธอเสร็จก็รีบขอในสิ่งที่คิดไว้ในใจตั้งแต่แรก
“ผมขอไปฝึกงานที่โรงแรมพี่ได้มั้ยครับ” เพชรตะวันหันมาบอกกับหญิงสาวขณะที่รถกำลังจอดติดไฟแดง เขารู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งผู้จัดการโรงแรม ทำไงได้ก็เขาอยากอยู่ใกล้เธอตลอดเวลา ทั้งเป็นห่วงและทั้งอยากอยู่ใกล้ ๆ ในเวลานี้แม้แต่วินาทีเดียวเขาก็แทบไม่อยากจากเธอไปไหน
“ได้สิ ว่าแต่ฉลามเรียนมาทางด้านไหนล่ะ”
“ผมเรียนการท่องเที่ยวและโรงแรมครับ”
“จะต่อยอดธุรกิจที่บ้านเหรอจ๊ะ” หล่อนแกล้งแซว เพราะดูแล้วเด็กคนนี้รวยไม่ใช่เล่น แค่รถที่ขับก็หลายล้านแล้ว เขาดูไม่เหมือนกับเด็กวัยรุ่นทั่วไป
“ที่บ้านผมไม่ได้ทำธุรกิจโรงแรมหรอกครับ คุณแม่กับคุณแม่ทำลิฟต์จำหน่ายครับ คนละสายเลย แต่ผมชอบธุรกิจโรงแรมมากกว่า”
“ขายลิฟต์เหรอ!!!” หญิงสาวเอ่ยถามเหมือนอยากให้เด็กหนุ่มขยายความต่อ
“ครับพี่ ครอบครัวผมอยู่ที่ฟินแลนด์ ทำธุรกิจผลิตลิฟต์และบันไดเลื่อน จำหน่ายครับ”
“ว้าว!!.. อยากไปเห็นโรงงานจังเลย”
“ถ้าปิดเทอมผมกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ จะพาพี่กับเจ้าเอยไปด้วยนะครับ”
“ว่าไง..ไปมั้ยลูก” หญิงสาวหันมาถามลูกสาวก็ปรากฏว่าเด็กน้อยหลับไปเสียแล้ว เพชรตะวันมองตามไปผ่านกระจกมองหลัง ก็เห็นเด็กน้อยหลับปุ๋ย มือน้อย ๆ ถือตุ๊กตาที่เขาซื้อเอาไว้ให้ไม่ยอมปล่อย ภาพนี้ดูแล้วทำให้เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“เจ้าเอยคงจะง่วงครับพี่ เมื่อคืนน่าจะนอนไม่หลับ เพราะเปลี่ยนที่นอน”
“ฉลามนี่ดูรู้ใจเจ้าเอยไปซะหมดเลยนะ” เธอแกล้งต่อว่าเด็กหนุ่ม เพราะเมื่อคืนลูกสาวของเธอนอนไม่หลับจริง ๆ กว่าจะกล่อมให้หลับได้ก็เล่นเอาแทบแย่
“พ่อกับแม่ของฉลามนี่เป็นคนไทยใช่มั้ย”
“คนไทยครับ..หรือพี่มองว่าผมเป็นลูกครึ่ง"
"เปล่าหรอก ก็เห็นขาว ๆ หล่อ ๆ ก็คิดว่ามีเลือดผสม" เธอแอบชมเขา จนเด็กหนุ่มแอบเขินเล็กน้อย
"จะว่าไป..ผมก็เป็นแค่ลูกเสี้ยวครับ เพราะคุณปู่ผมเป็นคนฟินแลนด์ คุณย่าเป็นคนไทย พ่อผมเป็นลูกครึ่ง"
"พอดีคุณพ่อกับคุณแม่ไปทำธุรกิจอยู่ที่โน่นได้เกือบยี่สิบกว่าปีแล้วครับ ตั้งแต่ตอนคุณตากับคุณยายผมเสีย” เด็กหนุ่มอธิบาย
“พี่เสียใจด้วยนะ แล้วทำไมฉลามถึงไม่เรียนที่โน่นละ”
“แม่ผมเคยพามาเที่ยวที่เมืองไทยตอน เด็ก ๆ ตอนนั้นคุณตากับคุณยายของผมยังอยู่ ผมก็เลยชอบเมืองไทยครับ”
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เพชรตะวันก็ไปรับไปส่งเจ้าเอยแทนคุณแม่ของเธอ ก็ยิ่งทำให้เจ้าเอยติดพี่ฉลามจนแยกจากกันไม่ออก อะไร ๆ ก็พี่ฉลาม แถมก่อนนอนเพชรตะวันก็ยังไปเล่านิทานให้เด็กน้อยฟังอีก