หนึ่งปีต่อมา
พยัคฆ์ ศศิวิมลกร ชายหนุ่มวัยสามสิบปี หุ้นส่วนสถานบันเทิงชื่อดังประจำจังหวัดที่เปิดกับเพื่อนสนิท
ลูกชายเพียงคนเดียวของเสี่ยอำนาจ ผู้มีอิทธิพลทั้งด้านขาวและเทา เป็นเจ้าของตลาดถึงสามแห่งภายในจังหวัด มีอาคารพาณิชย์ มีคอนโดใกล้เขตอุตสาหกรรมให้เช่า และยังเป็นเจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ รวมไปถึงเป็นเจ้ามือหวยรายใหญ่ระดับต้นๆ ในจังหวัด
ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร กำลังขยับเขยื้อนเคลื่อนเอวสอบ เข้าหาร่างบอบบางที่นอนอยู่ใต้ร่าง
สาดความเร่าร้อน ดุดัน ถาโถมเข้าใส่ในจังหวะสุดท้าย ผสมผสานกับการร่อนสะโพกรับของคนใต้ร่างอย่างรู้งาน เคล้าคลอเสียงครวญครางกระเส่า เรียกขานชายหนุ่มไพเราะเสนาะหู
“คุณเสือ...พริก...พริกจะไม่ไหว” เล็บยาวจิกลงบนแขนแกร่ง เมื่อชายหนุ่มนามว่าเสือ นำพาไปยังสุขาวดีแสนหวาน ที่ทอแสงเรืองรองสวยงามอยู่ด้านหน้า
“อืม... โคตรดีพริก อีกนิดเดียว” เสียงคำรามดังกระเส่าในลำคอ
เมื่อความอ่อนนุ่มภายใน โอบกอดแน่นกระชับ มวลสารแห่งความสุขไหลมารวมกันที่ปลายทางสวรรค์
สุดท้ายความเร่าร้อนก็แตกทะลักเข้าสู่แอ่งน้ำทิพย์ ไม่ต่างจากหญิงสาว ก็เดินไปยังวิมานสวรรค์พร้อมกัน ดวงดาวมากมายพร่างพราวระยิบระยับสวยงาม
ร่างสูงทรุดตัวลงบนร่างบอบบาง ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาซบลงบนทรวงอกอวบ ลมหายใจอุ่นผ่อนออกมาถี่กระชั้น เพราะเหน็ดเหนื่อยจากบทรักที่เพิ่งผ่านพ้นไป เมื่อลมหายใจเข้าสู่สภาวะปกติชายหนุ่มก็หยัดกายขึ้น ขยับออกจากร่างบอบบาง
“ฉันชอบนะ เวลาที่เธออยู่บนเตียงมันถึงใจดี เหมือนผู้หญิงอย่างว่าไม่มีผิด” คำพูดดูถูกเหยียดหยาม ถูกพ่นออกมาจากเรียวปากหยักของผู้ชายใจร้าย
พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นยืน คว้าผ้าเช็ดตัวที่วางบนพื้นมาพันรอบเอวสอบ ทอดสายตามองผู้หญิงหน้าเงิน ที่กำลังควานหาผ้าห่มมาคลุมกาย และนั่งพิงหัวเตียงมองมายังตน
ศยามลไม่รู้ว่าตัวเองควรดีใจกับคำชมนี้หรือไม่ เพราะมันเปรียบเสมือนการตอกย้ำให้เธอไม่ลืม ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร แต่ก็ยังกล้าดีกล่าวเหน็บแนมประชดประชันกลับไป
“ถ้าสิ่งที่พริกทำ มันทำให้คุณเสือมีความสุข ตอบสนองความต้องการของคุณเสือถึงใจ พริกก็ยินดีค่ะ” เรียวปากหยักเหยียดยิ้มดูแคลน นิ้วแกร่งเชยคางมนขึ้นสบตากับตน
“นับว่าพ่อฉันมองคนไม่ผิด ที่เลือกใช้เงินซื้อผู้หญิงเห็นแก่เงินอย่างเธอ มาเป็นของเล่นให้ฉัน”
“คงงั้นมั้งคะ” เชิดหน้าสบสายตาคมกลับไม่ยอมแพ้
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปทำหน้าที่ มอบความสุขให้ฉันต่อในห้องน้ำที ฉันเหนียวตัว อยากอาบน้ำ”
ศยามลสลัดผ้าห่มออกจากร่างงาม ก้าวลงจากเตียงยืนตรงหน้าพยัคฆ์ ยกแขนคล้องลำคอหนาเป็นเชิงบอกชายหนุ่มเป็นนัยๆ ว่าให้เขาอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ
พยัคฆ์ยกยิ้มมุมปาก เหลือบสายตามองเนินเนื้ออวบใหญ่ขาวเนียน ที่เบียดชิดกับแผ่นอกกว้าง ความแข็งขึงที่เพิ่งได้รับการปลดปล่อย ก็เหมือนอยากจะทำงานขึ้นมาอีกครั้ง
“หุ่นเธอนี่แม่งโคตรยั่วจริงๆ ต่ออีกรอบในห้องน้ำนะ” พูดจบ คนที่มีความต้องการทางเพศสูงอย่างพยัคฆ์ ก็ช้อนร่างบางของภรรยาลับๆ เดินเข้าห้องน้ำ
กว่าการอาบน้ำจะเสร็จสิ้นลง ก็กินเวลาไปร่วมชั่วโมง ศยามลเกิดอาการแข้งขาสั่น ส่วนคนต้นเหตุก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ยืนมองเสี้ยวหน้างอง้ำของหญิงสาว ที่กำลังแต่งตัวให้ตัวเองเพลินตา ไม่อยากยอมรับว่าศยามลมีใบหน้าที่น่ามองทีเดียว ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอ หัวใจเขายังเต้นระส่ำด้วยซ้ำ
“เรียบร้อยค่ะ” ใบหน้างามที่แสร้งยิ้มหวานเงยขึ้น มองสำรวจความเรียบร้อยของผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง
ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลา เผลอสบสายตาสีอำพันที่มองมา หัวใจของศยามลก็เต้นระส่ำ ไม่ชินเอาเสียเลยกับสายตาคมสีอำพันคู่นี้
ยอมรับอย่างสมเพชเวทนาให้กับตัวเอง ว่าผู้ชายคนนี้เริ่มมีอิทธิพลต่อหัวใจดวงน้อยของเธอเข้าให้แล้ว แม้เขาจะดูแคลนเธอสารพัด ทำร้ายจิตใจและความรู้สึกเธอให้ร้าวราน ทว่าหัวใจไม่รักดีก็เจ็บไม่รู้จักจำเสียที ว่าห้ามหลงรักผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
“คืนนี้เธอไม่ต้องรอฉัน กว่าจะเคลียร์งานที่ร้านเสร็จน่าจะดึก เพราะฉันต้องไปงานวันเกิดเบญ” น้ำเสียงเฉยชาไม่แพ้ใบหน้าเอ่ยบอก
“ค่ะ”
สิ้นเสียงตอบรับจากหญิงสาว พยัคฆ์ก็เดินออกจากห้องนอนไป ทิ้งศยามลให้ยืนมองประตูห้องนอน ที่ค่อยๆ ปิดลงพร้อมกับเปลือกตาที่ก็ปิดลงเช่นกัน
หลังจากปิดบ้านที่พยัคฆ์ให้เธอมาอยู่ด้วยเสร็จเรียบร้อย ศยามลก็เดินมานั่งที่โซฟา ดวงตากลมโตเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา เมื่อหวนคิดไปถึงคำว่าของเล่นที่พยัคฆ์กล่าวมา
หากเลือกได้ใครอยากจะมาอยู่ในสถานะนี้กัน หากเลือกได้ เธออยากจะหายไปจากโลกใบนี้ด้วยซ้ำ