ผมตื่นขึ้นมาตอนประมาณตีสาม สภาพน่ะเหรอ นอนกองรวมกันกับไอ้บ้านั่นล่ะ ดีนะไม่ได้กอดมัน ส่วนน้องช่างอีกคนคงกลับไปแล้วได้ข่าวว่าเมียดุ ส่วนอีป้าก็เข้าไปนอนตามระเบียบ ผมคลานไปยังตู้เย็นเพื่อจะดื่มน้ำโอยหนักหัวเหมือนกันนะเนี่ย
"นอนไม่หลับเหรอคุณ" เสียงมันทัก ผมสะดุ้งนิดหน่อย
"หลับแล้วจะเห็นลุกมาแบบนี้ไหม ถามอะไรประหลาด"
"อ้าวนะ คนถามดีๆ"
"ฉันมีงานมีการต้องทำนี่ ไม่เหมือนนาย"
"อ้าว ทำงานด้วยเหรอวันเสาร์น่ะ" เออว่ะวันเสาร์ธนาคารต่างชาติหยุดนี่ แต่เอ๊ะ ทำไมมันรู้ดี
"รู้ได้ไง"
"ใครรู้ผมแค่ถามว่าทำงานด้วยเหรอวันเสาร์"
"ฮ้า สบายจังไปนอนดีกว่า" ผมตีมึนทำท่าบิดขี้เกียจแล้วเดินเข้าห้องไป เชิดใส่มัน นอนดิ้นไปมาสักพักก็หลับ สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะมีคนมาเคาะประตูห้องเสียงดังเชียว
"ใครวะ" ผมเดินออกมานอกห้อง
"ไม่เปิดประตูล่ะ" ผมหันไปแว้ดใส่มันก่อน เพราะมันนั่งดูโทรทัศน์สบายใจอยู่
"อ้าว เผื่อไม่ใช่คนรู้จัก จะซวยเอา"
"แหม เปิดให้หน่อยมันจะตายเหรอ คนนอนอยู่นะ แล้วอีป้าล่ะ"
"ไปทำงานแล้ว"
อีป้ามันทำงานบริษัทนี่เนอะ วันเสาร์คงทำครึ่งวัน ผมงัวเงียเดินออกไปเปิดประตู พอประตูเปิดออก
"เพียะ" เหมือนโดนฟ้าผ่ายังไงไม่รู้ หน้าชาหันไปอีกทาง
"มึงทำแบบนี้ได้ไงไอ้นาย มึงทำร้ายน้องเขาได้ยังไง มึงเป็นคนอยู่ไหม" ผมยังไม่ทันตั้งตัวมันก็ผลักอกผมเซเข้าห้องมา ตอนนี้เองเพิ่งรู้ว่าใครที่ตบหน้าผม ไอเรย์นั่นเอง
"เฮ้ย ทำอะไรคุณ" ไอ้นั่นวิ่งมาขวางไว้ ผมเหมือนกำลังรวบรวมสมาธิดึงสติกลับคืนมา และผมก็ไม่ใช่คนที่ไม่กระตือรือร้นโดนตบหน้าขนาดนี้คงไม่ได้ใช้เวลานานมาก หรอกนะในการระลึกชาติ
"มึงเป็นใคร อ้อหรือว่าผัวใหม่"
"เฮ้ย"
"ผัวใหม่เป็นเด็กนักเรียนนี่เฮีย หรือว่านี่เป็นอีกผัว" ดูอีเด็กปากตลาดมันพูดฟ้องผัวมัน
"หลวงอย่า เดี๋ยวพี่จัดการเอง" ผมแตะแขนมันท่าทางกร่างไม่เบาเข้าท่าเหมือนกันนะมัน ผมเชิดหน้าขึ้น ตบหน้ากูใช่ไหมไอ้เรย์
"ไปทำน้องเขาแบบนั้นได้ยังไง มึงทำได้ยังไง"
"ทำอะไร ใครทำร้ายใคร" ผมแกล้งกวนมันเล่น เชิดหน้ายักไหล่ เพราะอีเด็กนั่นก็มาด้วย ต๊าย น่าสมเพชบ่ามันมีเหมือนผ้าพันอยู่คงจะช้ำหรือไม่ก็เคล็ดสินะ
"ก็มึงไปเหยียบบ่าน้องกูทำไม"
"น้องเหรอ ไม่ใช่เมียหรอกเหรอเรย์ อ้อ โทษทีนะน้อง โชคยังดีนะที่พี่ไม่ได้ใส่เฟอร์รากาโมส้นไม้ไปน่ะ ไม่งั้นคงไม่ใช่แค่พันบ่ามาสินะ"
"เฮีย"
"เลว"
"หยุด มึงจะทำอะไร นี่มันห้องกู" มันทำท่าจะปรี่เข้ามาหา พอผมตั้งตัวได้มีหรือจะยอมยื่นหน้าไปให้มันตบ มาเลย
"เรื่องมันไม่จบแค่นี้แน่ไอ้นาย"
"ใช่มันไม่จบแค่นี้แน่ มันแค่เพียงเริ่มต้น บอกไปแล้วนี่เมื่อวาน หรือจะให้ย้ำอีกรอบ"
"เลว" มันคงเหลืออดปรี่เข้ามาง้างมือมาแต่ไกลเชียว ถุย ไอ้มวยบ้านนอก ผมแค่ยกเท้าขึ้นตรงๆทำตัวเอียงร้อยเก้าสิบองศา เท้าผมก็ดีดไปอยู่ที่ระหว่างคอกับคางของมัน ไม่แรงเท่าไหร่นะ แต่มันเพียงพอที่จะให้มันเซล้มลง ผมไม่รอช้าเดินไปปิดประตู
"กล้าบุกถึงนี่เลยเหรอเรย์" ผมคำรามน้ำเสียงท้าทาย ก้าวเท้าคร่อมร่างของมัน
"ปึก โอ๊ย" ไม่รู้ทำไม เห็นใครผมข้างหน้ายาวๆไม่ได้สิ ผมอยากจะจับมันโขกกับปูน แบบนี้ๆๆ
"อย่านะ" อีเด็กนั่นเข้ามาเกาะหลังผม แหมจะสิงกูเหรอ ผมผลักมันออกไป แล้วหันมาเล่นไอ้เรย์
"หล่อนักใช่ไหมมึง" ผมเล่นแต่บริเวณหน้ามัน ตั้งต่อยทั้งตบ มันมากขอบอก
"เฮ้ยคุณ พอแล้วๆ" ไอ้หลวงมันมาดึงผมออกจากไอ้เรย์
"เดี๋ยว มัดมือมันไว้ให้หน่อย"
"คุณ"
"บอกให้มัด" ในเมื่อสั่งแล้วไม่ได้ดั่งใจผมก็มองหาอุปกรณ์สิ ผมยิ้มที่มุมปาก มันใส่เสื้อเชิ้ตมานี่นะ ขอหน่อยละกันนะเรย์ ผมฉีกชายเสื้อมันทันที
"บอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าให้ร้าย"
"อย่า ไอ้บ้า มึงมันบ้าไปแล้ว" มันพยายามดิ้น
"เออ กูบ้า มึงก็รู้นี่ แล้วมายุ่งกับกูทำไม" ผมจับมันนอนคว่ำแล้วเอาเสื้อที่ฉักออกมานั่นล่ะมัด
"โพล๊ะ" ผมรู้สึกมึนที่หัวอย่างจัง เหมือนร่างมันหมดแรง
"เฮ้ย" อีเด็กนั่นมันเอาโกแก้วใส่น้ำเอาไว้ประดับห้องของอีป้ามาทุ่มลงที่กลาง หัวผม แก้วแตกนะ พอผมสะบัดหัวหน่อยก็เอามือลูบที่หัวกลัวว่าหัวจะแตก ไม่มีเลือดมีแต่น้ำ
"อี...ทอง" ผมเปลี่ยนจากไอ้เรย์ไปหาอีเด็กชะตาขาดนั่นทันที
"อย่า อ๊ะ เฮีย" มันวิ่งแต่จะวิ่งไปไหนล่ะ ผมก้าวเท้าเข้าไปกระชากแขนมันมา
"เพียะ เพียะ" ตอนแรกก็ต้องทำแบบนางร้ายทั่วไปก่อน ตบ ตามด้วยตุ้ยท้องมัน พอร่างมันทรุด ผมก็ขึ้นคร่อมจิกผมด้านหน้าที่ผิดระเบียบยาวเกินเหตุ จิกแล้วลากไปกับพื้นมันดิ้นทุรนทุรายเสียงนี่ไม่ต้องให้บรรยาย ร้องเหมือนกำลังโดนเชือด ยังไม่ได้เชือดสักหน่อยแค่กำลังเท่านั้นเอง เศษแก้วกระจายอยู่เต็มพื้น โชคยังดีที่มันไม่บาดหน้าผม รู้สึกแสบๆบริเวณบ่ากับหลังเท่านั้นเอง
"พอแล้วคุณ พอแล้ว" ไอ้หลวงมันมาดึงผมออก
"เฮ้ยคุณกลับไปก่อนได้ไหม ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้" มันหันไปตะโกนบอกไอ้เรย์ ผมเองโดนมันเขย่าซะจนตัวอ่อน
"เฮีย ช่วยด้วย เฮีย" แหมนะยิ่งมันร้องผมยิ่งหมั่นไส้อยากจะตบให้อีกสักฉาด แต่ไอ้หลวงมันลากตัวผมออกมาไกลแล้วกอดไว้แน่น
"ปล่อยนะ"
"พอแล้วคุณ เดี๋ยวก็ฆ่ากันตายพอดี"
"กูจะไปแจ้งตำรวจ มึงเตรียมตัวติดคุกไว้เลยไอ้นาย" ไอ้เรย์มันร้องขู่เสียงดัง
"อ้อ เหรอ ข้อหาไรจ๊ะเรย์" ผมทั้งสั่นทั้งโมโห แต่ก็ยังรักษาคอนเซ็ปส์ของตัวเองเอาไว้ คือกวนไว้ก่อน
"ทำร้ายร่างกาย"
"เรียนกฏหมายมาหรือเปล่าไอ้ควาย นี่มันเคหสถานของกู มึงเคยเจอข้อหาบุกรุกไหมล่ะ กูทำแค่ป้องกันตัว โง่แบบนี้สิ ถึงโดนอีแรดนี่มันสวมเขาเอา" มันเงียบนะครับเหมือนจนต่อคำพูด ลากถูอีเด็กนั่นออกไปจากห้อง พอมันออกไปไอ้หลวงก็ไปปิดประตู ผมทรุดตัวนั่งลงที่โซฟา เหตุการณ์มันรวดเร็วมาก มากจนตอนนี้เริ่มรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป ไอ้หลวงมันก็เก็บกวาดทำความสะอาด แล้วมาดูบาดแผลจากเศษแก้วตามตัวผม
"ใครเหรอคุณ ทำแผลก่อนนะ ตรงหลังกับบ่ามีเลือดออก" พอมันเก็บเศษแก้วเสร็จมันก็มานั่งลงข้างๆ ในมือมีกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผมก็นั่งนิ่งๆนะ เหมือนอึ้งกับเหตุการณ์
"ผัวเก่า" แทนที่มันจะเห็นใจหรืออะไรนะ มันกลับอมยิ้มออกมา
"ไหนแตกไหมหัวน่ะ"
"เออดูให้หน่อยดิ" มันยืนขึ้นเกลี่ยนเส้นผมไปมา
"ไม่แตกนี่ ท่าทางจะหนา"
"ชมอยู่ใช่มะ"
"คุณนี่ร้ายจังนะ โหไม่น่าเชื่อ"
"ไม่น่าเชื่ออะไร ยังไม่หมดแม็กนะจะบอก"
"โห ไม่เอาด้วยหรอก ผมไม่กล้าแซวคุณแล้วล่ะ กลัวโดน โชคร้ายนะแฟนเก่าคุณน่ะ"
"ใช่ โชคร้ายของมัน"
"เฮ้อนะ เกย์เลิกกันเขาทำกันขนาดนี้เลยเหรอ"
"นี่ แล้วนายน่ะ คิดจะยอมเหรอ แฟนสาวพาชายหนุ่มมานอนทับที่ตัวเองน่ะ" มันหันขวับทันที สายตาเหมือนจะเขมือบหัวผมเข้าปากไป แต่มันก็นิ่งหยิบเครื่องมือทำแผลออกมา มันแอบถอนหายใจด้วยล่ะ
"กินกาแฟไหม ผมชงให้" เปลี่ยนเรื่องทันทีนะ มีปมอยู่ในใจ แต่มันไม่แกร่งเท่าผมหรอก
"ไม่ใส่เกลือนะ อย่างละสอง"
"แหม ผมนะไม่ใช่คุณ"
"ไอ้นี่" พอมันพูดดีๆมันก็เป็นคนน่าสนทนาด้วยมากคนหนึ่งนะ เรานั่งคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ อย่างที่บอกผมคุยกับใครก็ได้ขอให้คุยถูกคอ พอสักพักผมนั่งรอตำรวจอยู่นะเผื่อจะได้ไปเยี่ยมโรงพัก แต่รอจนเกือบเที่ยงก็ไม่เห็นมา จึงเข้าไปอาบน้ำ แสบได้ใจมาก กล้าทำเรือนร่างฉันเป็นแผลเหรอ ได้ตอนแรกคิดนะว่ามันจะเกินเหตุไปหรือเปล่ากับการแค่อกหัก โดนทิ้งแล้วต้องลงมือถึงขั้นนี้ แต่ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าอีเด็กนั่นกับไอ้เรย์ มันต้องเจอแบบนี้ล่ะมันถึงจะสาแก่ใจของมัน
"ต้อมเหรอ พร้อมดำเนินการหรือยัง" ผมกดโทรศัพท์ไปหาต้อมทันทีเมื่อแต่งตัวเสร็จ
"จะรอพี่ที่ไหนเดี๋ยวพี่ไปรับ จะพาไปดูหนัง" ผมไม่รอให้มันตอบ เยิ่นเย้อน่ารำคาญกว่าจะเอ่ยอะไรออกมาได้ไม่ทันกินเขาหรอก
"ครับพี่ แต่ผม"
"แต่อะไร"
"ผมต้องไปซ้อมบอล"
"ตามใจนะ เปลี่ยนใจแล้วใช่ไหมจะได้ไม่ตามอีก"
"เฮ้ย ไม่ใช่พี่ ปกติผมต้องซ้อมบอลอยู่แล้วนี่เสาร์อาทิตย์น่ะ ก็พี่ไม่นัดไว้ก่อนอ่ะ"
"แล้วไง ของพี่มันงานด่วน หรือจะให้พี่ไปรอที่เราซ้อมบอล"
"เอ่อ"
"อายเพื่อนเหรอ"
"เปล่าพี่ มาก็ได้ ผมซ้อมเสร็จบ่ายๆ"
"ที่ไหน" มันบอกสถานที่มา ฮึ รู้จักคนอย่างนายพลน้อยไป แกก้าวขาลงมาทั้งตัวแล้วนะไอ้ต้อม อย่าคิดชักขาขึ้นเชียว จะเอาให้หนัก พอรู้สถานที่ผมก็ขับรถตรงดิ่งไปหาทันที ผมแวะซื้อน้ำเกลือแร่ไปโหลหนึ่ง ขนมเย็นๆอีกสองสามอย่างอย่างละเท่าๆกัน แต่ขอโทษไม่ได้ซื้อที่เซเว่นนะครับ ผมแวะเอ็มโพเรียมก่อน แหมนะ จะให้เด็กมันตาโตก็นิดหน่อยน่า ผมขับรถเข้าไปในสนามของโรงเรียนของมัน จอดรถไว้แล้วเดินไปที่วางของที่เหมือนจะเป็นที่วางของของนักกีฬานั่นล่ะครับ
"สวัสดีครับ อาจารย์เป็นโค้ชหรือเปล่าครับ" ผมก็แถเข้าหาชายวัยกลางคนตัวท้วมๆหน่อย ยืนเด่นดำเป็นสง่าอยู่กลางแดด
"อ้อ ครับ มีอะไรเหรอครับน้อง" ต๊ายน่ารักเชียวเรียกน้อง
"อ้อ คือผมเป็นพี่ของต้อมน่ะครับ วันนี้มาดูน้องซ้อม ขออนุญาตอาจารย์นะครับ พอดีผมแวะซื้อน้ำเกลือแร่มาฝาก" ผมรีบยกถุงในมือขึ้นทันที
"อ้าวเหรอ ขอบใจมากน้อง แต่เอ๊ะไอ้ต้อมมันมีพี่ด้วยเหรอ"
"อ้อ ผมเป็นญาติฝ่ายแม่ของน้องต้อมน่ะครับ ผมเพิ่งกลับมาจากเมกา พอรู้ว่ามีญาติเรียนที่นี่ก็ดีใจนะครับ ต้องดูแลน้องหน่อย ผมเองก็ไม่มีน้อง อาจารย์รับไปสิครับ ผมซื้อมาเผื่อทุกคนเลย" นะ ผมก็ไม่ใช่กะโหลกกะลาหรอกนะ แหมไม่ใช่เกย์ชอบสำแดงฤทธิ์ที่ออกฤทธิ์ออกเดชอย่างเดียวต้องปกป้องมันไว้บ้าง เดี๋ยวเด็กมันจะอาย
"ดีครับดี ต้อมมันเป็นเด็กเก่ง แต่เหมือนทางบ้านมันจะ"
"อ้อ ไม่ต้องห่วงครับอาจารย์ แม่ผมบอกไว้แล้วว่าฝากน้องต้อมด้วย ยังไงผมฝากอาจารย์เข็นน้องต้อมหนักๆเลยนะครับ ผมอยากให้น้องติดทีมชาติ เรื่องส่งเสียผมรับผิดชอบเอง"
"ดีจัง น่าดีใจแทนไอ้ต้อมมัน โห ซื้ออะไรมาเยอะแยะครับน้อง"
"ไม่เป็นไรครับอาจารย์ เพื่อน้องคนเดียวผมทำได้สบายมาก" ผมรู้สึกว่าไม่ได้มีแค่สวนแล้วนะสตอเบอร์รี่น่ะ มันมาเป็นไร่แล้ว แต่เอาเถอะถ้าไอ้ต้อมมันอยู่ในโอวาทจริงผมก็จะทำอย่างที่พูด
"พักได้แล้ว" อาจารย์เป่านกหวีด บอกให้ผู้ช่วยบอกน้องๆออกมาพัก พอเด็กๆเดินออกมาจากสนามก็มองหน้าผมแปลกๆ
"นี่พี่ไอ้ต้อมเพิ่งมาจากเมกา พี่เขาซื้อของมาฝาก" ตอนแรกไอ้ต้อมก็หน้าเสียนะ ไอ้อูกับไอ้โป้งก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก
"ขอบคุณพี่เขาสิ เด็กพวกนี้นี่ ไม่ไหวเลยจริง"
"อ้อ ไม่เป็นไรครับ เล็กน้อยเอง ต้อม เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม" ผมมีเหรอจะรอให้มันตั้งหลัก ปรี่เข้าหาทันที มันทำหน้าเหมือนกำลังโดนตามทวงหนี้หน้าเสาธงตอนเข้าแถวตอนเช้าอย่างงั้นเลยครับ
"เป็นไง ใช้คล่องหรือยัง อยากได้ฟีเจอร์อะไรเพิ่มไหม เดี๋ยวพี่พาไปให้เขาลงเพิ่มให้ ไหนมานี่หน่อย" สนใจที่ไหนล่ะ
"เอ่อพี่"
"ต้อม พี่บอกอาจารย์ไปว่าพี่เป็นญาติเรานะ ญาติห่างๆ ไม่ต้องทำท่าอายขนาดนั้น เดินตามมา" ผมกระซิบบอกมัน เงยหน้านิดหน่อยเพราะมันสูงกว่าผม มันค่อยทำหน้าตาเหมือนโล่ง เอ๊ะไอ้นี่ แหม คิดล่ะสิว่าะบอกว่าเป็นเด็กของเรา อย่าได้ฝันยังไม่สิ้นคิดขนาดนั้นโว้ย
"ซ้อมอีกนานป่ะ" พอไปนั่งลงม้านั่งข้างสนาม ผมก็ถามขึ้นไม่ได้จะทำให้มันหรอกนะ ไม่ได้จะลงฟีเจอร์อะไรเพิ่มหรอกนะ เรื่องอะไรจะให้เอาแอคเคาท์ผม เดี๋ยวมันก็ช็อปเพลินบรรเทิงบัตรผมน่ะสิ
"ก็อีกสักพักอ่ะพี่ พี่จะรอเหรอ"
"ไม่ได้ หรือว่าได้"
"ได้พี่ ก็พี่บอกแล้วนี่ว่าเป็นญาติ ไม่ใช่"
"เออ อย่าย้ำมาก ไหนเอามือถือเรามานี่ซิ" มันยอมแต่โดยดี ว่าง่ายๆสิไอ้น้องแม่ยกจะได้ประทับใจ
"ไปซ้อมต่อเถอะพี่ยืมเล่นอะไรหน่อย"
"โห พี่อย่าให้อีนั่นมันมาวอแวอีกนะ"
"ก็ลองดู ใครกันจะอาย" ผมพูดไปอย่างนั้นล่ะครับ สำหรับผมในพจนานุกรมส่วนตัวไม่มีคำว่าอาย สะกดไม่เป็น เพราะแต่ละอย่างที่ทำผมมั่นใจว่าผมคิดดีแล้วถึงทำ อายเพื่อ อายทำไม อายแล้วได้อย่างที่ต้องการไหม เชิดใส่
"ไหน เฟสบุ้ค ถึงไหนแล้ว ช่วยหน่อยนะสื่อออนไลน์" ผมเปิดเข้าไปในเฟสบุ้คของมัน ต๊าย สามสิบกว่าเมนต์ กับอีแค่เมื่อวานกับกระทู้เมื่อวันก่อน เรตติ้งดีจริงๆนะแกไอ้ต้อม งั้นต้องเติมอีก
"นายคือคนที่ดีที่สุด เรารัก "นาย"" อิอิ นิดหน่อยเอง โพสต์แล้วก็วางมองดูรอบๆสนาม เออ เพิ่งสังเกตว่าคนมาดูเด็กๆซ้อมก็เยอะอยู่นะ โอ แล้วเสียงกรี๊ดนี่ล่ะ ผมมองไปตามเสียงกรี๊ดที่พอเด็กลงสนามไปซ้อมก็กระหึ่มดังขึ้น เด็กวัยรุ่น ทั้งผู้หญิงทั้ง เอ่อ น้องสาว ตายๆ ไม่ไปเรียนพิเศษกันหรือไงนะ
"พี่ต้อมๆ พี่ต้อมเท่สุดๆเลยอ่ะ กรี๊ด" ผมได้แต่ส่ายหน้า
"แกๆ พี่ต้อมโพสต์ลงเฟสบุ้ค ใครกัน นาย พี่ต้อมเป็นเกย์เหรอ กรี๊ด" เสียงสนทนาผสานเสียงกรี๊ดดังลั่น จากที่แว่วๆอยู่ไกลๆตอนนี้มันดังเหมือนมาอยู่ข้างๆหูนี่เอง อ้าวขยับมาตรงนี้แล้วเด็กพวกนี้อะไรกัน
"พี่ต้อมอยู่ในสนามนี่ โพสต์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน ใครกัน" ผมแอบหัวเราะออกมา ต๊าย แอบฉลาดนะพวกเธอ ทีเรื่องแบบนี้ฉลาดกันจัง เวลาสอบมันแบบนี้ไหมนะ อีเด็กเวร ผมยักไหล่แล้วยกโทรศัพท์ของไอ้ต้อมขึ้นให้เห็นชัดๆ เอานิ้วชี้จิ้มช้าๆ
"รักต้อมที่สุด รักมากกกกก จุ๊บๆๆ" แล้วก็โพสต์
"กรี๊ดดด พี่เป็นใคร" งานเข้าแล้วครับท่าน ผมนี่ก็โรคจิตจังนะ อยู่ดีไม่ว่าดี แต่ก็ดีปากว่างอยู่พอดี เด็กแกนนำ ต้องเรียกว่าแกนนำเพราะมีกันสี่คน น้องนีสอง น้องสาวอีกสอง แต่โอ้โห น้องสาวนี่คิ้วจะโก่งไปไหนเนี่ย ปากแดงเหมือนเอาสีอะไรแต้มมา แป้งก็นะผิดเบอร์หรือเปล่านั่นน่ะ
"พี่เป็นใคร ทำไมไปใช้มือถือของพี่ต้อม" มันท้าวสะเอวยืนจ้องหน้าผม ไม่เกรงใจกันเลย นี่ฉันจะสามสิบอยู่แล้วนะพวกเธอ
"นั่นสิ มีสิทธิ์อะไร ไปใช้มือถือพี่ต้อม"
"อะไรกันน้องๆ"
"ไม่ต้องมาไก๋ พี่เป็นใครบอกมานะ" อ้าวนะ วอนซะแล้ว เดี๋ยวอัญเชิญพระแม่ประทับร่างจะหนาวกันนะหนูๆ
"ทำไมล่ะครับน้อง" ผมยักคิ้วให้ไม่สนใจ ทำเป็นเอานิ้วชี้เลื่อนนั่นเลื่อนนี่บนหน้าจอมือถือไปเรื่อย
"พี่ถือสิทธิ์อะไร เอามือถือของพี่ต้อมวางลงนะ" อีเด็กหัวโปกคิ้วโก่งปากแดงกว่าใครแว้ดเสียงขึ้น
"นี่น้อง สิทธิ์ที่พวกน้องไม่มีไงล่ะ จะทำไม"
"หน้าด้านที่สุด"
"น้อยๆหน่อยนะน้อง พี่เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ จะว่าอะไรหัดเกรงใจกันซะบ้าง หรือที่บ้านไม่มีผู้ใหญ่เหรอ น้องๆถึงได้มากร่างกันแบบนี้ ต้อมเป็นน้องพี่ พี่เป็นคนให้มือถือนี่เองใครจะทำไม อีกอย่าง พี่สามารถบอกให้ต้อมคบหรือไม่คบใครก็ได้ หึหึ แต่พวกน้องๆนี่คงหมดสิทธิ์แล้วล่ะน่ะ" มันทั้งสี่คนอ้าปากค้าง
"ไม่เชื่อ พี่ต้อมไม่มีพี่ หนูสืบประวัติมาหมดแล้ว" น้องชะนีน้อยแต่งตัวเหมือนอยู่เมืองหนาวแว้ดเสียงขึ้น คราวนี้ทั้งสามคนแกนนำก็พยักหน้าเออออตาม
"อ้อเหรอ ว่างมากขนาดต้องสืบประวัติคนอื่น นี่น้องจ๋า ถ้าว่างมากไม่เอาเวลาไปเจียดให้ตำรับตำราบ้างล่ะจ๊ะ มากรี๊ดๆให้ผู้ชายแบบนี้ พี่ว่ามันดูด้อยค่าไปนะ ถ้าพี่เป็นต้อมหรือผู้ชายคนอื่นๆ ก็ไม่เอานะ มันดูราคาถูกไป" ผมยักไหล่เบะปากใส่
"กรี๊ดดด" เออเอาเข้าไป
"เดี๋ยวยังไม่พอ อะไรกันเป็นสาวเป็นนาง มาเฝ้าผู้ชายแบบนี้ไม่อายเขาบ้างเหรอหนู อยากมีมากเหรอผัวน่ะ ไม่เอาเวลาไปหัดทำตัวให้เรียบร้อยน่ารักสมวัยกว่านี้หน่อย ต้อมน่ะหมดสิทธิ์แล้วนะพวกเธอน่ะ ไม่ต้องมากรี๊ดเสียเวลา พี่ไม่อนุญาตให้มันคบหากับเด็กแรดๆแบบนี้ แต่ถ้าอยากให้มันเป็นทางผ่านก็ได้นะ ไม่ว่ากัน ส่วนเธอสองตัว เอ้ยสองคน ออกหน้าออกตาไปไหม อย่ามาเรียกตัวเองว่าเป็นเกย์นะเสียสถาบันเกย์ อย่างเธอน่ะทำตัวให้เรียบร้อยกว่านี้หน่อยนะ อย่าแรดให้มาก มาเรียนนะไม่ได้มาหาไม้ ไปได้แล้วรำคาญ" มันทั้งสี่คนอ้าปากจะกรี๊ด ผมยืนขึ้นถลึงตาใส่ชี้หน้าเรียงตัว แหมนึกว่าจะแน่ ทั้งสี่คนสะบัดหน้าเดินหนีไปคงเกลียดผมมาก ไม่ใช่เรื่องอะไรของผมหรอกนะที่จะไปว่าลูกเต้าใครก็ไม่รู้ มันสิทธิ์ของเขา แต่ขอโทษมันก็สิทธิ์ของผมเหมือนกันในเมื่อมันมายืนแว้ดๆใส่ผมก่อน ช่วยไม่ได้ เลือกด่าได้ถูกตัวแล้วล่ะน้องๆ
"ไปกันยังต้อมพี่หิวแล้ว" พอเห็นต้อมซ้อมเสร็จผมก็เดินไปถาม ไม่น่าเชื่อว่าผมจะมาทนนั่งรอเด็กมัธยมซ้อมบอล เหลือเชื่อจริงๆ แต่เอาเถอะเพื่อแผนในขั้นปฏิบัติการณ์ขั้นต่อไป เอาวะยอมเหนื่อย ยอมดำ
"ครับพี่ แต่ผมอยากอาบน้ำ"
"อ้าว ต้องอาบน้ำอีกเหรอ"
"อาบดิพี่ เหม็นจะตาย"
"โป้ง อู ไปดูหนังด้วยกันไหม" ผมหันไปชวนสองคนที่เดินตามหลังไอ้ต้อมมา
"ไปครับ"
"ไม่ไป เฮ้ย ไอ้อู" มันสองคนเหมือนไม่ได้นัดกันมา
"ไม่ต้องคิดมาก รีบไปอาบน้ำพี่รอในรถนะ ไม่อยากจะตบเด็กแรดๆแถวนี้ก่อนไปดูหนัง" ผมพูดแล้วเดินไปที่รถทันที มันสามคนคงทำหน้าเหวอๆไป