องก์ ๑๑

3520 คำ
"เปล่า ก็แค่คิดว่าถ้าพี่อยากดู ไปที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ" ดูมันนะครับ ผมสูดลมหายใจเข้าปอด "ฉาด" "นี่แน่ะ กล้าพูดแบบนี้เหรอไอ้ต้อม" ตบหัวมันหนึ่งที ยังยังไม่พอ ง้างมือรออีกหนึ่งฉาด "อ่าพี่ ทำร้ายร่างกายอ่ะ" "ถอด รีบลอง อึดอัดนะ" ผมนั่งลงตรงม้านั่งแล้วทำสายตาเขียวใส่มัน มันทำหน้าเบ้ๆ แต่ก้ยอมถอดนะ คิดล่ะสิว่าผมจะมอง ผมไม่ได้สนใจมองหรอกนะ ไม่มีอารมณ์ ผมเอาโทรศัพท์ออกมากดเล่นๆ "เป็นไงอ่ะพี่" มันถามครับ ผมเลยเงยหน้าขึ้น "เอ้ย ทำไมไม่ใส่กางเกง" ผมตกใจ เพราะมันใส่แต่เสื้อ แหมแววตามันนะยั่วสุดฤทธิ์ "ก็ให้ลองเสื้ออ่ะ" "แหม ไอ้ฉลาด แล้วกางเกงล่ะ จะลองตอนไหน เร็วๆ แค่นี้เขาก็หาว่ามาทำอะไรกันแล้ว" หัวเราะครับ มันหัวเราะ วอนซะแล้วไอ้ต้อม กว่าจะลองเสร็จผมนี่ง้างมือหลายรอบมาก ว่าจะหวดมันอีกสักฉาด แต่พอเราจะตบจริงนะทำหน้าเหมือนหมาหลง แหมมันนะเข้าใจทำ สรุปมันก็ได้เสื้อมาสามตัว กางเกงสอง ผมไม่พอใจ เป็นบ้าครับพามันเข้าร้านซาร่าอีก ได้รองเท้ามาคู่ เสื้อสองกางเกงมันไม่เอา ตามใจ "อีนั่นยังตามอยู่ไหม" ผมถามมันระหว่างรอจ่ายเงิน "ตามพี่มันแอบอยู่ตรงโน้น" "อีนี่กะจะสิงแกให้ได้ว่างั้น ได้" ผมคิดเรื่องที่จะแกล้งมันเล่นๆให้มันร้อนใจ "น้องสองคนนี้น่ารักเนอะ เหมาะสมกันมากเลยอ่ะ" "อ๊ะ ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่ น้องผมเอง" พนักงานรุ่นหญิงน้อง หน้าใสเด้งเอ่ยขึ้น ผมนี่หันขวับทันที "ไม่ต้องอายหรอกครับน้อง เข้าใจกันนะ แต่น่ารักจริงๆนะ พี่ยังอิจฉาเลยอ่ะ" เออ เอาเข้าไป ผมนี่หน้าเหวอไปเลย นี่ผมแสดงออกขนาดนั้นเหรอว่าเป็นป๋าให้ไอ้ต้อม แต่เอ๊ะ เขาเรียกผมน้อง ทั้งที่เขาน่าจะอ่อนกว่าผม กรี๊ด ดีใจที่สุด แต่ก็ต้องยอมหุบยิ้มเดินออกจากร้านดีกว่า "ยิ้มไรไอ้ต้อม" ผมหันไปแหวใส่มันอีก คือต้องเข้าใจผมนะ ผมไม่มีที่ระบายอารมณ์ หาคนใกล้ตัวนี่ล่ะแล้วจะเป็นใครไปล่ะ ไม่ใช่มัน ซวยไปนะต้อม "เปล่า ก็เห็นพี่ยิ้มอ่ะ ชอบใจเหรอที่เขาบอกแบบนั้นน่ะ" "ชอบสิ ก็เขาเรียกพี่ว่าน้อง มีความสุข" "หมายถึงพี่กับผมน่ะ" "ไม่ได้สนใจฟัง ทำไม อย่ามาอิ๊อ๊ะนะ จะไปไหนเร็วจะไปส่ง แต่ไม่เอาดีกว่าไปเองเถอะ ขี้เกียจ" "อ้าว ไหงงี้อ่ะพี่ ไปส่งหน่อยดิ ไหนๆเขาก็มองว่าเราเป็น" "พี่น้อง" ผมย้ำพร้อมทั้งจ้องมันด้วยสายตาที่เกรี้ยวกราด คิดว่านะ แต่ทำไมมันยิ้มวะ "แต่อีเบียร์มันยังตามอยู่อ่ะพี่" เออลืมไปเลย มัวแต่ดีใจที่มีคนชมว่าหน้าเด็ก "อืมงั้นเดี๋ยวไปส่งที่หอ เอาไป ถือเองสิของน่ะ" ผมลืมตัวถือถุงให้มัน ยื่นคืนให้มันทั้งหมดเลย อะไรกันผมเป็นคนจ่ายเงินนะ ของตัวเองก็ไม่ใช่จะเอามาถืออีกมากไปแล้ว พอกลับไปที่รถก็คิดออกว่าจะทำอะไร "กดไปหามันซิต้อม แต่ไม่ต้องพูด ทำเหมือนโทรฯผิด เผลอกดอะไรแบบนี้" ผมบอก ไอ้ต้อมมันทำหน้างง แต่ก็ทำตามนะ "ต้อม อ๊ะ อย่าต้อม ไม่เอาเดี๋ยวคนมาเห็น" ผมแสดงละครทันที ได้ยินเสียงแว่วๆมาว่าอีนั่นมันเรียกชื่อไอ้ต้อมอยู่ ส่วนเจ้าตัวมันนั่งหน้าเหวออยู่ ผมพยักเพยิดให้ทำตาม "ผมอยากอ่ะพี่" ผมสะดุ้งหันไปมองมันตาเขียว แก่่แดดเหลือเกินนะแก "อ่า ต้อม ทำไมของต้อมมันมหึมาขนาดนี้อ่ะ พี่กลัว" ผมทำเสียงดัดจริต ไม่สะใจ เอาโทรศัพทืมันมาวางใกล้ๆเลย เน้นคำว่ามหึมาด้วยนะจะบอก ผมเห็นฝ่ายโน้นยังไม่กดวางสายไปคงอยากรู้ล่ะสิ หึหึ "ไม่ไหวแล้วต้อม ไปโรงแรมเถอะ" ก่อนกดวางสายผมก็ทำเสียงซี๊ดซ๊าดสุดฤทธิ์ ทั้งที่มือยังจับพวงมาลัยรถอยู่นะ "โห ร้ายว่ะพี่" "ร้ายอะไร ห้ามรับสายมันนะ พอพรุ่งนี้มันถามก็บอกเราไปนอนกับพี่มา แต่บอกว่าเราโดนบังคับ ไม่ทำก็ไม่ได้ตังค์ โอเคไหม" "เหมือนผมขายตัวเลยอ่ะพี่" มันพูดขึ้นมา ผมสะอึก เออลืมไปเลย ผมหันไปมองหน้ามัน "ต้อม พี่ไม่ได้ตั้งใจนะ ไม่อยากให้เราคิดแบบนั้นหรอกนะ แต่เราเป็นอะไร ทำอะไรเรารู้ตัวดีนี่" ผมพูดเสียงนิ่งๆ เป็นเสียงที่นิ่งที่สุดของวันนี้เลยก็ว่าได้ "เฮ้ยพี่ ผมไม่ได้คิดมากขนาดนั้น พี่ทำเสียงซะ" อ้าว กูผิดว่างั้น "กรุณานั่งเงียบๆนะ จะฟังเพลง" ผมหันไปยิ้ม รอยยิ้มแบบกูไม่ไหวแล้ว อะไรประมาณนี้ แล้วเอื้อมมือไปเลือกแผ่นตอนที่ยังไม่ออกรถ "ฟังป้า วิทนีย์นี่ล่ะ คิดถึง" ผมพูดคนเดียวไม่ได้สนใจ พอเพลงดังขึ้นก็แหกปากร้องตาม ไม่สนใจจริงๆนะ นี่มันเป็นโลกส่วนตัวของผม ใครจะทำไม ผมไปส่งมันที่หอแล้วก็กลับ "ถึงไหนแล้วล่ะป้า" ผมกดโทรศัพท์ไปหาอีป้า ก่อนจะออกจากถนนพระรามสี่ "ถึงไหนอะไรล่ะยะ ซื้อเสร็จเป็นชาติแล้ว เออ แกแวะซื้อข้าวเข้ามาหน่อยสิ หิว" เออนะ ออกมาเดินทั้งทีไม่กินไปเลยวะ นังป้าหนังเหี่ยวนี่ ตลอดเวลา ผมก็ได้แต่บ่นในใจไปอย่างนั้นล่ะครับ ต้องตามใจมัน จะว่าไปผมก็ไม่เคยขัดใจมันนะ พอกลับถึงห้องผมก็ไม่ได้อะไรมาก ไม่อยากอารมณ์เสียกับไอ้หน้าปลาทูเข่งนั่นอีก เข้าห้องนอนกลางวันหน่อย "เอส ไปทำอะไรมาตาโบ๋เชียว" พอวันทำงานผมก็ทำท่าทักมันไปเพราะรู้ดีว่ามันไปทำอะไรมา แต่ที่ทักเพราะจะหาข้อมูลนั่นเอง "เปล่านี่ เรานอนดึกไปหน่อยอ่ะ" "อ้าว นอนดึก เราโทรฯหาไม่รับสายอ่ะ" ผมยังจ้องหน้ามันอยู่ มันดีตรงไหนเนี่ยอัพยา หน้าตานี่เหมือนคนอดนอนมาสามปีก็ไม่ปาน "อ้อ เราคงมัวแต่เอาสายยัดหูมั๊งเลยไม่ได้ยิน" แถนะแก ได้ ตรงประเด็นเลยก็ได้ "เอส นายพอจะรู้ว่าใครมีน้ำแข็งขายไหม เราอยากตี้อ่ะ" ได้ผลสิครับ มันอ้าปากค้างตกใจเหมือนเห็นว่าผมเป็นผี "อ๊ะ นาย นายอยากลองเหรอ เรา เราไม่รู้" "ไม่ต้องมาปิด เรารู้หมดแล้ว เราก็อยาก" ผมขี้เกียจจับผิดใคร เสียเวลา เอาแบบนี้ล่ะ ไม่เข้าใจมันจะมาแอ๊บมารยาทงามเพื่ออะไร แหมนะแรดก็แรดไปเลยสิ ใครจะทำอะไร ขยันกันจริงสร้างภาพเนี่ย ไม่ไปทำงานวาดภาพขึ้นป้ายโฆษณาเลยล่ะแก ผมด่ามันด้วยสายตา "เอ่อ ใครบอก" "อย่าถามหาต้นตอ ว่าไง พอจะรู้ไหมว่าที่ไหน ใคร เราจะต้องทำยังไง" ผมเริ่มชักสีหน้ารำคาญเต็มแก่ "เอ่อ นาย นายอย่าไปบอกใครนะว่าเราทำ" แหม แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ดูมันทำท่าเหมือนกับกำลังจะขโมยของใครอย่างนั้น "ไม่บอกหรอก เราไม่ได้โง่นะเอส เรารู้ว่ามันผิดกฏหมายนี่จะบอกใครล่ะ" "นั่นล่ะ ถ้านายอยากตี้ พรุ่งนี้เราก็ว่าจะตี้อีก" อ้อ นี่มันกะจะตี้ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันหยุดธรรมดาเลยว่างั้น เพราะวันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของธนาคาร "ที่ไหนอ่ะ" "คอนโดฯเราอ่ะ" "กับใครบ้าง" "เอ่อ ก็มีน้องเรา เพื่อนน้องเรา" "ประมาณกี่คนอ่ะเอส" "ห้า" "อืม เราชวนน้องเราไปด้วยได้ไหม หรือถ้าเราไม่ไปเราให้น้องเราไปได้ไหม" "น้องที่นายจีบอยู่น่ะเหรอ" "อืม อยากให้มันลองกับเพื่อนมันน่ะ" "ได้ๆ แต่ไม่ฟรีนะนาย" แหม งกขึ้นมาเชียวนะแก "ก็ไม่คิดจะไปฟรีนี่ แต่นอกจากอัพแล้วเขาทำอะไรกันบ้างอ่ะเอส" คราวนี้มันอายหน้าแดงเลยครับ "ไม่นี่ก็อัพเฉยๆ" "ว้าเหรอ เราอยากให้น้องเราลองประสบการณ์ใหม่ๆอ่ะ อยากให้มันถ่ายคลิปมาให้เราดูด้วย" ผมพูดแล้วก็เดินไปโต๊ะตัวเองหน้าห้องไอ้เอ็ดเวิร์ด ให้มันคิดซะบ้างว่าผมต้องการอะไร ไม่ได้ว่ามันนะที่มันเป็นคนเรียบร้อย แลดูนิสัยดี แต่เกลียดที่มันจะมาเหนียมอายทำไม ในเมื่อผมถามออกโต้งๆขนาดนั้น ปากอายแต่เวลาทำนะ นี่น่ะหรือที่อีป้ามันเคยบอกมือถือสากปากถือศีล เห็นภาพชัดจริงๆ มือถือสากเนี่ย "ต้อม พรุ่งนี้นะ ชวนมันได้เลย ไม่ต้องพามันไปนัดมันเจอที่นี่" ผมบอกสถานที่มันไปเวลาด้วย "ส่วนเราพี่จะไปรับเอง จะรอด้วย ไม่ต้องคิดที่จะไปลอง รู้ใช่ไหมว่าถ้าผิดสัญญาพี่คงไม่ต้องพูดย้ำนะ" ผมพูดอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ให้มันอิ๊อ๊ะ "คร้าบ แต่ผมหวั่นๆอ่ะพี่ ไม่เคยทำแบบนั้น" "ไม่ได้จะให้แกทำ ให้พาไป" มันเงียบไป ผมก็เงียบ "เราไม่ต้องรู้สึกผิดนะต้อม เราเป็นคนทำตามที่พี่บอกเท่านั้น สงสารมันเหรอ" "เอ่อ ผมแค่รู้สึกแปลกๆ ผมกลายเป็นคนเลวเห็นแก่เงินไปแล้ว" รู้ไหม ผมใจหาย ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้เลยนะ ผมอ้าปากค้าง ลืมไปสนิท ไอ้ต้อมมันผิดอะไรทำไมผมต้องดึงมันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ผมเริ่มตั้งคำถามให้ตัวเองอีกครั้ง ไอ้ต้อมมันเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วผมจะลากมันเข้ามาทำเรื่องแบบนี้น่ะหรือ ผมจะเอาโคลนเน่าเหม็นไปป้ายตัวมันได้ลงหรอกหรือ "จะเลิกก็ได้นะต้อม พี่ไม่ได้บังคับ พี่เข้าใจเรา พี่เองก็ไม่อยากให้เรารู้สึกอย่างนั้นหรอกนะ" "ครับพี่" มันตอบมาแค่นี้ ผมนี่แทบหมดแรง แต่บอกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้จะไม่มีคำว่าสงสารใจอ่อนให้กับมัน โดยเด็ดขาด ผมเป็นนางร้าย นางร้ายจะไม่มีวันเห็นใจศัตรู "งั้นพี่ให้คนอื่นทำนะต้อม โชคดีนะ" "เฮ้ยพี่ พี่เดี๋ยว" ผมได้ยินนะแต่กดวางสายไปแล้ว รู้สึกผิดกับไอ้ตัวดีนี่ล่ะ มันโทรฯเข้ามาทันที ผมก็กดสายทิ้งไป โทรฯเข้ามาอีก โยนเข้ากระเป๋าไปเลยปิดเสียงให้เรียบร้อย ใจอ่อนแกก็ไม่ต้องทำ คนดีไม่ควรมายุ่งกับฉันตั้งแต่แรก "ป๊อบใช่ไหมครับ" ผมบันทึกเบอร์นี้ไว้นานแล้วล่ะตั้งแต่ไอ้อูมันให้ไว้ แต่ไม่คิดว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้ "ใคร" มันส่งข้อความกลับมา "อยากชวนไปตี้อ่ะ ไปไหม ฟรี" "ใครวะกูไม่รู้จักมึง" ดูมัน ได้ เลวๆแบบนี้ล่ะถูกใจนายพล ผมส่งรูปผมไปให้มันดู "ที่ไหนพี่" หึหึ ใครบอกมนุษย์เราไม่มองเปลือกนอก ผมค้านหัวชนฝา ผมมั่นใจนะว่าอย่างน้อยผมก็ยังอยู่ในตลาดอยู่หน้าตานะ ผมบอกสถานที่ไป "ชวนเบียร์ด้วยสิ รู้จักเบียร์ใช่ไหม" "ไม่เอา มันแรด" "พี่ให้เพิ่มอีกถ้าเรายอมชวนมัน" นานเหมือนกันกว่ามันจะตอบกลับมา "ฟรีแน่นะพี่ จะรู้ได้ไงว่าพี่ไม่หลอก" "พี่ได้เบอร์เรามาจาก พี่เอส รู้จักไหม" ผมสุ่มเดาเอา คิดว่าวงการนี้มันไม่น่าจะกว้าง "พี่เป็นเพื่อนพี่เอสเหรอ โอเคพี่ ผมจะชวนมัน" หึหึ ง่ายจัง แค่นี้เอง "แต่ข้อแม้" "อะไร" "ถ่ายคลิปเห็นหน้าอีเบียร์มาแลกกับเงินพิเศษ" "พี่ไม่ไปเหรอ" "ไปดิ แต่พี่อยากให้เราทำ" "ไม่เอาพี่ ผมเกลียดมัน" "งั้นแค่นี้นะ" ผมยิงจรวดไป ไม่นานจริงๆนะ "ได้ๆพี่ เมาแล้วคงไม่รู้เรื่อง" "ดีมาก ตามนั้นครับน้องป๊อป" ผมเดินไปบอกเอสว่าจะมีน้องไปด้วยเพิ่มสองคน "เราต้องให้เอสเท่าไหร่" ผมถามเลย ไม่อยากเยิ้นเย้อ มันทำหน้าเลิ่กลั่ก "สามพันพอไหม คนละพันกว่าๆ" "เอ่อ ที่จริง" "สามพันนั่นล่ะ เราไม่ได้ไปด้วยนี่เอส นะนะถือว่าให้น้องเรามีความสุข" ผมก็นะ เรื่องอะไรจะรอให้มันเรียกราคา "ได้ๆ ที่จริงมีน้องคนนึงเรียนหมอ น้องเขาเอายามาได้ไม่แพงหรอก แต่ต้องช่วยกัน" เรียนหมอ ผมแทบจะกรี๊ดออกมา ยิ่งได้ยินสถาบันด้วยแล้ว ผมเซเลยครับ โลกเรามันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ แต่เรื่องของมันไม่เกี่ยวกับผม ผมเกี่ยวอยู่แค่อีเบียร์เท่านั้นเอง "มีน้องคนนึงอ่ะ อยากให้เอสกับน้องๆของเอสจัดเป็นพิเศษ อยากให้น้องเขาชอบใจ อยากไปลองอีก" "ไหนบอกเกลียดมันไม่ใช่เหรอนาย" "บ้าเอส เราให้อภัยน้องเขาแล้ว" "อย่ามาหลอก นี่นายจะให้เราถ่ายคลิปน้องมันใช่ไหม" บอกแล้วไอ้นี่มันไม่ได้โง่นะ แววตามันแอบฉลาดอยู่เพียงแต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันต้องทำท่าทางเป็นคนเรียบร้อย "เอสเข้าใจเรานะ เราเจ็บมากนะเอส เรารักเรย์มาก เอสรู้ไหม น้องเขาพาเรย์ไปทำร้ายเราถึงที่ห้อง เพราะน้องมันอยากกันเราออกให้ห่างเรย์ เราเจ็บนะเอส" เอ่อ ผมเองก็ทำไปได้ ยืนบีบน้ำตาออกมา เม้มปากแน่นเอามือทาบอกเหมือนกำลังปวดร้าวในใจมากมายนัก น้ำตาผมมันก็นะต้องตามเจ้าของร่างมันสิ ไหลออกมา เอสมันคงตกใจรีบเข้ามาโอบบ่าผมไว้ "เราเข้าใจนาย เราเข้าใจว่าการโดนแย่งคนที่เรารักมันเจ็บยังไง" อ่า นี่มันก็เคยโดนเหรอ เข้าใจแล้วสินะ จะได้ไม่ต้องบีบน้ำตามาก "ขอบใจมากนะเอส เราแค่อยากทำให้เรย์มันรู้ว่าน้องมันไม่ได้จริงใจเหมือนเรา" ผมยังสะอื้นอยู่ เอสมันก็ปลอบนะ แอบเหลือบมองแววตามัน มันเม้มปากแน่น ไม่ยักรู้ว่าคุณนายก็มีอดีตที่ฝังใจ "เราจะจัดการให้ นายจะเอาแบบไหนล่ะ" "เอาให้เห็นหน้า เอาแต่หน้ามันคนทำมันไม่ต้องการ เอาทุกท่วงท่า อยากให้มันติดด้วยนะเอส ติดแบบขาดไม่ได้" ผมพูดบนสะอื้น เอสมันพยักหน้า "เราก็อยากทำแบบนี้กับคนนั้นนะ แต่เขาไปอยู่เมืองนอกแล้ว ถือว่าเราช่วยนายก็แล้วกัน" "ขอบใจมากนะเอส เอสเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา" ผมทำตาซาบซึ้งเหมือนมันประทานชีวิตใหม่ให้ผม พอตกลงกันเสร็จผมก็เดินไปเข้าห้องน้ำ "ต๊าย ระวังนะยะนาย อีเอสน่ะมันงูพิษ" อีคริสครับ ผมก้มล้างหน้าอยู่เลยไม่ทันมอง "ใครงูพิษ ถ้าจะว่าคนอื่นเขา ตัวเองล่ะคริส" "ฉันไม่ได้เป็นงูพิษนะยะ คิดยังไงพูดอย่างนั้น ไม่ตอแหล" "อ้อเหรอ งั้นเราก็เข้าใจผิดมาตลอดเลยสิ ที่ว่านายปลูกไร่สตอเบอร์รี่ไว้ที่บ้านน่ะ" ผมเองห็หมั่นไส้มันนะ ไม่ค่อยได้คุยกัน แต่พอคุยก็ประมาณนี้ล่ะครับ "ฉันเตือนด้วยความหวังดีนะนาย เห็นแรงๆเหมือนกัน ไม่อยากให้อีแอ๊บนั่นมันหลอกเอา" "ขอบใจนะคริส แต่เราก็แน่พอที่จะไม่ให้ใครมาหลอกง่ายๆ" "ตามใจ ชิ คิดว่าสวยมากนักรึไง" มันสะบัดหน้าออกไปจากห้องน้ำ "สวยไม่สวยก็เลือกอ่ะจ๊ะ ไม่ใช่กินดะเหมือนใครบางคน" "แกว่าใครอีนาย" "ต๊าย อี ในที่สุดก็สำแดงกำพืดออกมาแล้วสินะ แม่คริส..ตอริส" "อีนาย" มันโผจะเข้ามา ผมยกเท้ารอเลย มันชะงักผมพยักหน้าท้าทาย "ฝากไว้ก่อนเถอะแก" "อุ๊ยตาย รู้สึกว่าเข้าใจผิดแล้วนะ ถ้าอยากฝากเชิญเคาท์เตอร์ด้านล่าง ลืมไปแล้วเหรอ ว่าฉันตำแหน่งอะไร เลขาฯผู้จัดการทั่วไปน่ะ ลืมเหรอ" "อีนาย" มันกัดปากตัวเอง กลัวริมฝีปากมันจะขาดจังเลย พอมันออกไปจากห้องน้ำผมก็มองกระจก ไหนลองทำเหมือนในละครในนิยายหน่อยซิ "บอกแล้วว่าอย่าให้ร้าย เพราะถ้าร้ายฉันจะไม่มีวันใจอ่อน" ผมแสยะยิ้มให้ตัวเองในกระจกเหมือนคนบ้า ชักจะบ้าแล้วจริงๆ พอเดินกลับไปที่โต๊ะก็เห็นข้อความนับสิบ สายไม่ได้รับอีกเกือบสามสิบ ไอ้ต้อมนั่นล่ะครับ "เราผิดสัญญาเองนะต้อม ยกเลิก ของที่ให้ไม่เอาคืน" "ผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมจะทำพี่ ผมจะทำ" "สายไปแล้วต้อม พี่ให้คนอื่ทำไปแล้ว แค่นี้นะจะทำงาน" ผมโทรฯไปหามันเองล่ะครับ รำคาญมาเป็นบ้าอะไรส่งข้อความมาเยอะแยะขนาดนี้ "พี่ ผมขอร้อง ผมไม่เอาอะไรเลยก็ได้ ผมจะทำให้พี่เอง นะพี่นะ" "ต้อม พูดไม่รู้เรื่องเหรอ พี่บอกแล้วนี่ อย่าผิดสัญญา เราคงคิดว่าพี่ทำไม่จริงสินะ ถ้าเราคิดอย่างนั้น เราก็มองพี่ผิดไป แค่นี้นะ อย่าโทรฯมาอีก" ผมกดวางสายไปแล้วไม่สนใจอีกเลย จนเวลาพักเที่ยง "โทรฯมาจังโว้ย รำคาญแล้วนะ" ผมโวยวาย ตอนออกมากินข้าวกับจอย เอสไม่มามันบอกไม่อยากกิน "รับสิแก คุยให้รู้เรื่อง" "คุยแล้วนะ เด็กมันพูดไม่รู้เรื่อง" "ต๊าย เหวี่ยงเด็กเหรอยะ ร้ายนะแก" "ช่วยไม่ได้ ไม่สนองความต้องการ เหวี่ยงทิ้งสิ" "รับๆหน่อยเถอะแก เผื่อน้องเขาจะคิดผิดๆก็ได้นะ เด็กมันไม่ได้มีความคิดเหมือนเรานะแก" จอยพูด อืม ผมเพิ่งคิดได้เหมือนกัน "อืม" "พี่ ผมอูเองนะครับ" สายไม่คุ้นหรอกครับ แต่ก็คิดว่าเป็นมันนั่นล่ะที่โทรฯมา "อ้าวอู ว่าไงครับ" "พี่ทะเลาะกับไอ้ต้อมเหรอพี่ มันร้องไห้อ่ะ ข้าวก็ไม่กิน เรียนก็ไม่เรียน" "อาวเหรอ เปล่านี่ มันเป็นอะไรล่ะ" "มันบอกว่าพี่งอนมัน" ต๊าย กล้าพูดนะ เป็นอะไรกันเนี่ยฉันถึงจะไปงอนแก "บ้าเหรอ อูบอกมันให้หน่อยว่าไม่ต้องร้องไห้ เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ" "พี่ครับ ตั้งแต่ผมรู้จักมันมามันไม่เคยร้องไห้หรือเป็นแบบนี้เลยนะพี่ มันคงเสียใจมากอ่ะ พี่ง้อมันหน่อยสิ" ให้ฉันเนี่ยนะง้อเด็ก ไม่เอา ตัดก็ตัดให้ขาด มันจะร้องไห้ทำไมวะ ในเมื่อของมันก็ได้ แตะตัวมันก็ไม่เคยคิด มันยังจะมาอะไรอีก หรือว่าเสียดายสิ่งที่ผมเสนอไปว่าจะส่งเสียมัน ช่วยไม่ได้นะ เป็นคนดีเกินไป ไม่เหมาะกับผม หมายถึง เออนั่นสินะ มันเป็นคนดีแล้วทำไมผมถึงจะไม่เอาล่ะ "พี่ขอคุยกับมันหน่อยสิอู" ผมลดระดับเสียงลง ถอนหายใจ "พี่ พี่ ผมขอโทษ พี่อย่าทำแบบนี้เลยนะ ผมจะไม่ใจอ่อนอีกแล้ว" โห มาแบบว่าสะอึกสะอื้นเลยพ่อคุณ "ผมสัญญา ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ผมจะไม่ผิดสัญญา" มีด้วยเหรอเด็กแบบนี้อ่ะ ผมไม่เคยเจอ ธรรมดาก็ไม่เคยกินเด็กนะ แต่ไม่คิดว่าเด็กมันจะสนใจอะไรมากมายขนาดนี้ ได้ของไปแล้วก็น่าจะพอใจ "ต้อม เลิกเรียนแล้วมาหาพี่ที่โรบินสันสุขุมวิทนะ เลิกร้องไห้ได้แล้ว" ที่เลือกที่นี่เพราะขี้เกียจเข้าไปในเมืองมากๆเดี๋ยวรถติด อีกอย่างมันก็จะได้นั่งรถไฟฟ้ามา นั่งคุยกันที่ร้านแม็คโดนัลนี่ล่ะไม่เปลือง เริ่มมาคิดยอดค่าใช้จ่ายแล้ว เดือนนี้กระฉูดครับท่าน "ว่าไงแก เด็กมันโอเคไหม" จอยมันก็คอยถามนะ "มันคงอยากเป็นผัวฉันน่ะสิ ได้ จะยัดเยียดให้เลย อยากมีนักใช่ไหมเมียเกย์เนี่ย"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม