ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
“ฮัลโหล~”
“ฉันมีเรื่องจะให้แกช่วย”
“เรื่องอะไรจ้ะ”
“เรื่องนายนั่น ผู้ชายที่เคยตามจีบแก”
“หูย~ ใครล่ะ พูดกว้างอะไรขนาดนั้น ฉันมีผู้ชายตามจีบเป็นร้อยเป็นพัน”
“แดเนียล”
“หือ? พี่แดเนียลเหรอ” พอฉันบอกชื่อไปควีนก็ลดระดับความดังของเสียงเป็นกระซิบทันที สงสัยจะอยู่กับสามีแน่นอน
“อื้ม แกไม่สะดวกคุยใช่ไหมเนี่ย แต่ไม่สนนะควีน ไม่สะดวกฉันก็ต้องคุยเพราะฉันกำลังลำบากมาก~”
“แป๊บ ๆๆ พี่วาคะเดี๋ยวควีนมานะ เม้าท์กับโรสนิดหน่อยค่ะ”
“เหอะ! กลัวผัวเหรอยะ” ฉันได้ยินเสียงที่คุยกับสามีเสียงหวานก็ถึงกับแค่นเสียงใส่ด้วยความหมั่นไส้
“ไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากให้เกิดเรื่อง แกก็รู้พี่วากับฉันเคยเลิกกันเพราะเรื่องพี่แดเนียล”
“มันก็ผ่านมาแล้วไหมล่ะ”
“ก็ใช่ ผ่านมาแบบปล่อยผ่านปล่อยเบลอเลยไม่อยากให้ชื่อพี่แดเนียลไปกระทบหูพี่วาไง แล้วว่าไงมีอะไรทำไมถึงโทรมาเรื่องพี่แดเนียล”
“ก็...” ฉันเริ่มเล่าความประสงค์พร้อมทั้งสิ่งที่เจอในวันนี้ให้ควีนฟัง เรื่องจะเอาเขามาเป็นพระเอกละครเรื่องแรกของตัวเองฉันยังไม่ได้บอกใครหรอกค่ะ อยากติดต่อเขาให้สำเร็จก่อนค่อยพูด แต่มันไม่ราบรื่นเลยต้องขอให้เพื่อนสนิทที่รู้จักกับเขาป็นการส่วนตัวช่วยหน่อย ไม่รู้ล่ะคนอย่างฉันไม่เคยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา!
“สรุปแกจะให้ฉันช่วยกดดันพี่แดเนียลให้” หลังจากเล่าจบควีนก็ถาม
“ก็ประมาณนั้นแหละ”
“แก ฉันแค่คนรู้จักไม่ใช่เมียเขานะยะที่จะไปสั่งให้เขารับงานได้”
“แต่เขาเคยชอบแกไงช่วยเพื่อนพูดหน่อยสินะคะคุณควีน ช่วยโรสหน่อยนะคะ” ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาวุ่นวายเพราะงานของฉันนะคะ แต่เขาเป็นนายแบบดังมีงานเยอะ ถ้าเขาตกลงรับงานจะได้ไปเคลียร์คิว จัดการอะไรต่าง ๆ อีกมากมาย ยิ่งตกลงรับงานเร็วก็ยิ่งทำให้งานอย่างอื่นของฉันเดินเร็วขึ้น เพราะงานกองถ่ายมันมีหลายส่วนวุ่นวายสารพัดร้อยแปดอย่าให้พูดเลยมันจะยาวเป็นหางว่าวจุฬาที่ลอยสูงเท่าตึกมหานครแต่หางไปโผล่ที่สมุทรสงคราม!
“จะช่วยคุยให้นะ แต่ไม่รับปาก”
“อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาหาเวลามาคุยกับฉันก็ยังดี ต้องมาอยู่แบบไม่รู้วันรู้เวลาว่าจะได้คุยกันวันไหนงานที่ไทยของฉันก็เสีย” ฉันรอมา 3 วันแล้วค่ะ ตั้งแต่วันที่เอลล่าผู้จัดการแดเนียลโทรมาเลื่อนนัดวันนั้นจนถึงวันนี้ฉันยังติดแหง็กอยู่ที่โรงแรมไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เพราะเหตุนี้ถึงต้องโทรขอร้องควีนไง
“โอเค ๆ จะลองคุยให้ รอแป๊บนะ”
“ค่า~” ฉันตอบรับแล้วควีนก็วางสาย ส่วนฉันโรสคนนี้ก็กลับมาสู่สภาวะเดิมก็คือ...รอ เฮ้อ!
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...ควีน
“ฮัลโหล ว่าไงแก” หลังจากผ่านไป 20 นาทีฉันก็ได้รับสายจากควีน พอเสียงโทรศัพ์ดังเท่านั้นล่ะค่ะ ความดีใจมันประดังเข้ามาเลย
“ติดต่อไม่ได้อ่ะแก”
“ฮะ?” เมื่อกี้ความดีใจทะยานถึงจุดเดือดแต่ตอนนี้ดิ่งลงเหวเลยค่ะ
“แกอย่าเพิ่งทำเสียงนอยด์สิ ฉันโทรมารายงานความคืบหน้าเฉย ๆ”
“เฮ้อ! ไม่อยากรบกวนแกนะควีน แต่ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว อีก 3 วันก็งานวันครบรอบ 40 ปีของช่อง คุณลุงคุณป้าก็รอให้ฉันกลับไป นี่ก็ไม่รู้จะกลับไปทันรึเปล่า”
“หาพระเอกใหม่ไม่ได้เหรอ คือ ฉันแค่ลองถามดูเฉย ๆ เป็นแผนสองไง”
“ลงทุนแล้วก็คาดหวังไปเยอะแล้วแก อีกอย่างแกก็น่าจะรู้ว่าฉันอยากพิสูจน์ตัวเอง”
“อื้ม เข้าใจ ถ้างั้นฉันจะติดต่อให้นะ สู้ ๆ นะแก”
“ขอบใจแกมากนะควีน” ฉันวางสายจากควีนแล้วก็หยิบงานขึ้นมาทำ ฉันหอบงานมาทำด้วยค่ะ งานที่หอบมาก็เกี่ยวกับละครเรื่องแรกของฉันนี่แหละ มันโคตรเหนื่อยเลยพอได้ทำจริง ๆ แต่ไม่รู้ล่ะ ฉันต้องทำมันให้ได้ ให้ตายก็ไม่ถอย
#ROSE END
#DANIEL TALK
“ให้เธอรอมาหลายวันแล้วนะแดน”
“แล้วไง?”
“ไม่สงสารเธอเหรอ”
“สงสาร? สงสารทำไม”
“แดน อย่าตีรวน”
“หึ ๆๆ เอาน่า ฉันสงสารนี่ไงถึงให้ยัยนั่นพักผ่อน”
“นายกำลังแกล้งเธอ”
“ฉันเปล่า”
“แกล้ง นายแกล้งเธออยู่แดน”
“เลิกสนใจเรื่องนั้นได้แล้วน่า เอาบทมาให้ฉันดูดีกว่า” ผมตัดบทเพราะขี้เกียจฟังเอลล่าบ่นเรื่องนี้ซ้ำ ๆ มันไร้สาระ ซึ่งก็ยังถือว่าดีที่เธอยอมหยุดพูดเรื่องนั้นแล้วหยิบบทละครมาให้ผมดู
“อ่านตั้งหลายรอบแล้ว ไม่เห็นจะตกลงสักที ไม่อยากกลับไปทำงานที่เมืองไทยรึไง”
“ไม่”
“ถ้างั้นก็ให้ฉันโทรไปปฏิเสธเธอ จะให้เธอมารอทำไมฉันไม่เข้าใจนายเลย”
“ก็ไม่ต้องเข้าใจ” ผมตอบเอลล่าแล้วตวัดขาข้างหนึ่งขึ้นไขว่ห้างจากนั้นก็พลิกดูบทละครข้างใน
“เฮ้อ!” เอลล่าถอนหายใจอย่างที่เธอชอบทำเวลาที่พูดอะไรแล้วผมไม่ฟังก่อนจะเดินหนีไป ส่วนผมก็นั่งอ่านบทละครอยู่ที่เดิมจนกระทั่งพักใหญ่เอลล่าก็เดินกลับมาพร้อมกับชาอุ่น ๆ
“เป็นไง อ่านรอบที่ 10 แล้วนะ ได้เรื่องยังไงบ้าง ช่วยตัดสินใจสักที”
“หึ ๆๆ บทดีน่าสนใจ แล้วก็น่าทำให้...”