ภายในห้องโถงของคฤหสน์ตระกูลไป๋
ร่างสูงของไป๋เริ่นเจินก้าวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตัวแทนของสมาชิกที่เดินทางมาร่วมงานในคืนนี้จนเต็มเกือบทุกเก้าอี้เหลือเพียงเก้าอี้ของหัวหน้าแก๊งทางประเทศญี่ปุ่นไป๋หลันฮวาและฮ่องกงหวังเหล่ยที่ยังคงว่างอยู่เช่นนั้น
ดวงตายาวรีเหลือบไปมองเก้าอี้ประจำตำแหน่งของน้องสาวนอกไส้และเพื่อนชายคนสนิทที่ถูกสั่งให้กำจัดไปแล้วอย่างสิ้นซาก
รอยแสยะยิ้มเหยียดเต็มไปด้วยความลำพองที่ทุกอย่างเต็มไปตามความต้องการของตนตามแผนที่ถูกวางเอาไว้ ก่อนจะมองตรงไปที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของแก๊งเจ้าพ่อซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในจีนรวมไปถึงสามประเทศหลักและเครือข่ายที่กระจัดกระจายอยู่ทุกมุมโลกในขณะนี้
“ขอต้อนรับพี่น้องร่วมแก๊งทุกคนที่เดินทางมาร่วมประชุมในค่ำคืนนี้ ต้องขอบใจที่สละเวลาอันมีค่าทุกเวลาและทุกนาทีที่ก่อให้เกิดรายได้มหาศาลให้กับแก๊งสามพยัคฆ์ของเรา ต่างเข้ามาเป็นพยานในการประกาศว่านายใหญ่ รุ่นที่ 4 ซึ่งจะต้องสืบทอดขึ้นนั่งตำแหน่งคนต่อไปหลังจากอดีตนายใหญ่คนก่อนเสียชีวิตลงนั้นก็คือฉะ....”
ยังมิทันที่ไป๋เริ่นเจินจะกล่าวจนจบประโยค พลันเสียงเคลื่อนตัวบางอย่างดังก้องแทรกขึ้นภายในห้องโถงดังกล่าวทำลายความเงียบงันขึ้นมาทันที
ครืดดด!!! ต้นเสาขนาดใหญ่ที่มีความสูงขนาดตึกสามชั้นประหนึ่งเสาหลักค้ำคฤหาสน์ตระกูลไป๋ ซึ่งมีทั้งด้านซ้ายและด้านขวา พลันเสาใหญ่ทางด้านซ้ายซึ่งอยู่ใกล้เก้าอี้ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่มากที่สุดพลิกกลับด้านโดยพลัน
พร้อมพระวรกายล่องหนของรัชทายาทในอดีตพระดำเนินก้าวออกมาหยุดยืนทอดพระเนตรผู้คนมากมายในยุคปัจจุบันด้วยความแปลกพระทัยอย่างยิ่งยวด
ในขณะที่ร่างระหงของไป๋หลันฮวาก้าวออกมาจากเสาดังกล่าว ติดตามด้วยหวังเหล่ยเดินออกมาอย่างกระชั้นชิดท่ามกลางทุกสายตาของสมาชิกร่วมแก๊งต่างหันกลับมามองเป็นจุดเดียวกัน
“ฉันคือทายาทรุ่นที่ 4 ! และนั่งตำแหน่งนายใหญ่ของแก๊งสามพยัคฆ์นี้ต่อไป!”ไป๋หลันฮวาตะโกนอย่างกึกก้อง
ร่างระหงก้าวเข้าไปหาพี่ชายกำมะลอของเธออย่างมิรั้งรอในขณะที่อีกฝ่ายกำลังตกตะลึงกับการปรากฏตัวน้องสาวนอกไส้ที่มีคำสั่งให้กำจัดจนสิ้นซากไปแล้ว หญิงสาวมาหยุดยืนตรงพื้นที่มีขั้นบันไดขวางเอาไว้หลายขั้นพร้อมแสยะยิ้มเหยียดส่งให้กับพี่ชายนอกไส้
“นี่แก! แก...หลันฮวา!!!”ไป๋เริ่นเจินเอ่ยพร้อมยกนิ้ว ชี้หน้าน้องสาวนอกไส้ออกไปทันใด
“เออ..ฉันเองพี่ชาย!ตกใจมากนักเหรอที่เห็นยังไม่ตาย แหม!คิดแผนได้แยบยลมากจับตัวเอาไปฆ่าทิ้งกลางทะเลทรายโน้น! แต่คนมันไม่ตายทำไงได้วะเพราะคนที่ดันมาตายแทนฉันกับเพื่อน กลับกลายเป็นลูกน้องของแก! ไอ้เริ่นเจิน!”ไป๋หลันฮวาตวาดเสียงดังกระหึ่ม
สมาชิกแก๊งที่นั่งฟังอยู่ในขณะนั้นต่างพากันลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินลูกสาวแท้ๆ ของอดีตเจ้าพ่อกล่าวเช่นนั้นออกมา
“ที่แท้ข่าวลือที่ได้ยินมาก็เป็นความจริง! มิน่าถึงไม่เห็นหัวหน้าทางฮ่องกงและญี่ปุ่นก็เพราะเป็นแบบนี้เอง คิดจะก้าวขึ้นมาแทนนายใหญ่อย่างนั้นเหรอ! ไม่มีทางหรอกเริ่นเจินเพราะแกไม่มีคุณสมบัติที่จะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าคุมพวกเรา ยิ่งไม่ใช่สายเลือดของนายใหญ่ด้วยแล้ว อย่าหวังว่าสมาชิกแก๊งจะยอมรับแก!”
ใบหน้าตอบสั่นระริกขึ้นมาทันทีครั้นได้ยินถ้อยคำดังกล่าวเช่นนั้น ร่างผอมสูงเงยหน้าขึ้นไปมองแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองที่กำลังยืนฟังด้วยความตกใจ เมื่อเหตุการณ์ดันกลับตาลปัตรอย่างสิ้นเชิง ก่อนจะหันกลับไปมองโดยรอบไม่คาดคิดว่าจะมีคนล่วงรู้ว่าตนมิใช่ลูกแท้ๆ ของอดีตเจ้าพ่อผู้ล่วงลับ
“พวกแกเอาอะไรมาพูด!ว่าฉันไม่ใช่ลูกพ่อ!”ไป๋เริ่นเจินตวาดกลับไป
“คนเก่าแก่รู้กันหมดนั้นแหละไอ้หน้าโง่! อยู่ที่ว่าจะพูดหรือไม่พูดเท่านั้น”เสียงของสมาชิกอายุเกือบ 60 ปี ตะโกนแทรกขึ้นมาทันที
มือผ่ายผอมราวกระดูกกระชากปืนพกที่ซุกอยู่ในเสื้อกั๊กดึงออกมาจากซองปืนทันที ก่อนจะลั่นไกพุ่งตรงไปที่ร่างสมาชิกแก๊งอาวุโสคนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง!!! เสียงปืนดังกึกก้องท่ามกลางความตกใจของทุกชีวิตที่อยู่ภายในห้องโถงเวลานี้พร้อมร่างของสมาชิกร่วมแก๊งคนดังกล่าวทรุดฮวบลงกับพื้นขาดใจตายต่อหน้าเพื่อนทุกคน
“ไอ้เริ่นเจิ่นฆ่าสมาชิกแก๊งเดียวกันได้อย่างไง!ไอ้ชั่ว!”เสียงก่นด่าของสมาชิกคนอื่นๆ ที่ต่างเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างกันอย่างถ้วนหน้าตวาดก้องถามกลับไปทันที
“กูไม่ฆ่าแค่นี้หรอกเว้ย! ในเมื่อพวกมึงล่วงรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้แม้แต่คนเดียว กูจะปิดประตูขังพวกมึงเอาไว้ในนี้ให้แม่งตายกันหมดทุกคน! ปิดประตู!!!!”ไป๋เริ่นเจินตะโกนก้องสั่งการออกมาทันใด
ครืนนน!!! ประตูทางเข้าออกทุกทางเคลื่อนตัวปิดอย่างพร้อมเพรียงกันรวมไปถึงหน้าต่างทุกบานก็ด้วยเช่นกัน พร้อมชายฉกรรจ์มากมายนับหลายร้อยชีวิตต่างมีอาวุธครบมือกระจายกำลังโอบล้อมสมาชิกภายในแก๊งเอาไว้ทั้งหมด แผนสำรองของสองแม่ลูกเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าอุบัติขึ้นแล้ว หากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ในกรณีที่สมาชิกแก๊งไม่ยอมรับไป๋เริ่นเจิ่นก้าวขึ้นปกครองเป็นนายใหญ่รุ่นที่ 4 ของแก๊งสามพยัคฆ์ แผนการสังหารหมู่ทุกชีวิตจะเริ่มต้นขึ้นทันทีเพื่อปิดปากมิให้ผู้ใดรอดชีวิตกลับไปได้
หลังจากนั้นก็รวบรัดตัดตอนประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรไปทั่วทุกภูมิภาคและทุกประเทศที่แก๊งสามพยัคฆ์มีเครือข่ายอยู่ด้วยกันทั้งหมด และเหตุการณ์ดังกล่าวกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ณ.บัดนี้
ร่างผอมสูงส่งสัญญาณมือให้นักฆ่าเล็งเป้าไปที่ร่างของไป๋หลันฮวา
แกรก!แกรก!แกรก! ปากกระบอกปืนนานาชนิดหันกลับไปเล็งเป้าที่ร่างของลูกสาวอดีตเจ้าพ่อทันทีที่เห็นสัญญาณมือดังกล่าว ท่ามกลางสายตาของพี่ชายกำมะลอ ดวงตายาวรีจ้องเขม็งไปที่น้องสาวนอกไส้อย่างเลือดเย็นพร้อมแสยะยิ้มเหยียดเย้ยหยันกลับไป
“แกคิดว่าฉลาดนักใช่ไหม ที่จู่ๆ จะได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างไปเพียงคนเดียว มันไม่ง่ายหรอกโว้ย!”ไป๋เริ่นเจินเอ่ยถากถางกลับไปพลางหัวเราะขบขันอยู่ในลำคอ
ในขณะที่ใบหน้าสวยคมของน้องสาวนอกไส้ส่ายหน้าไปมาติดต่อกัน พลางเบ้ปากเหยียดหยามอีกฝ่ายกลับไป
“ฉลาดกว่าคนอย่างแกก็แล้วกัน อีกอย่างตัวแกต่างหากที่พยายามแย่งจากฉันไป ไม่ใช่ฉันแย่งของแกนะโว้ยไอ้งั่ง!”หญิงสาวเหน็บสวนกลับไปจนอีกฝ่ายหน้าร้อนผ่าวด้วยความโกรธขึ้นมาทันที
“กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าครั้งนี้มึงจะรอดจากดงกระสุนปืนไปได้อีกไหม ไม่โชคดีเสียทุกครั้งหรอกอุตสาห์หาที่ฝังร่างสงบๆ นอนกินลมชมวิวดูดาวกลางทะเลทรายดีๆ ไม่ชอบ แต่เสือกชอบตายแบบสุดโต่ง ถ้าเช่นนั้นก็ดี! กูจะสงเคราะห์ให้เอง!ฆ่ามัน!”ไป๋เริ่นเจินตวาดเสียงดังก้องพร้อมส่งสัญญาณมือสั่งฆ่าหญิงสาวทันที
ในขณะที่ไป๋หลันฮวาเหลือบสายตามองไปรอบกายเธอเพื่อหาทางหนีเอาตัวรอดให้ได้ แต่ท่าทางงานนี้คงจะรอดยากเสียแล้ว มือเรียวทั้งสองข้างกระชากปืนพกที่อยู่ด้านในเสื้อกั๊กของเธอมาถือเอาไว้ในมือพลางกวาดสายตาไปรอบๆ บริเวณเพื่อหาช่องทางให้มีชีวิตรอดออกไป
“เสร็จกัน! คงได้ตายคาบ้านก็คราวนี้ ดันติดกับไอ้เริ่นเจินอีกจนได้ ทำไมโง่จริงๆ เลยวะเราดันคิดไม่ถึงข้อนี้”หญิงสาวบ่นพึมพำออกมาโดยมิล่วงรู้เลยว่า พระวรกายล่องหนของแม่ทัพชื่อก้องในอดีตทรงยืนเคียงข้างเธออยู่ตลอดเวลา
ฉับพลัน! เสียงดังกระหึ่มกึกก้องดังรัวเสียยิ่งกว่าประทัดปริแตก ในขณะที่ทุกชีวิตยังมิทันได้ระมัดระวังตัวแต่อย่างใด รัชทายาทในอดีตกาลทรงมีพลังยุทธ์กล้าแข็งและผ่านการฝึกฝนมานานตั้งแต่ทรงพระเยาว์จนเจริญพระชันษาเข้าสู่ปีที่ 23 ก่อนจะสิ้นพระชนม์กะทันหันอย่างที่มิควรจะเป็น
องค์ชายหนุ่มเดินลมปราณพร้อมใช้กำลังภายในแผ่พลังหยินหยางของพระองค์จนกระจายออกเป็นกว้างเพื่อปกป้องสตรีที่ยืนเคียงข้างอยู่ในขณะนี้
และวรยุทธ์ของพระองค์สามารถหยุดลูกกระสุนที่กำลังวิ่งตรงมาที่ร่างของไป๋หลันฮวาให้หยุดนิ่ง ก่อนจะเอื้อมพระหัตถ์กวาดลูกกระสุนทั้งหมดกำเอาไว้ในอุ้งพระหัตถ์ราวกับว่าสิ่งนั้นเป็นเพียงแค่ก้อนหินเท่านั้น ต่อหน้าต่อตาของทุกๆ คนที่เห็นเหตุการณ์
“ลูกกลมยาวรีนี่นะรึ สามารถทำให้ผู้คนล้มตายได้ดั่งเช่นชายผู้นั้น ไม่น่าเชื่อจริงๆ นี่ถ้าข้าปรากฏกายออกมาถูกสิ่งนี้แล้วไซร้ ข้าจะเป็นเยี่ยงไรกันเล่า”รับสั่งสุรเสียงพึมพำ
และทันทีที่ทรงมีรับสั่งออกมาเช่นนั้น กระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงวาววับออกมาทันใด พร้อมพระวรกายล่องหนเริ่มวูบวาบเดี๋ยวก็ผลุบเดี๋ยวก็โผล่ออกมาให้ทุกชีวิตที่อยู่ภายในห้องโถงได้เห็นกันอย่างถ้วนหน้า
เหวอออ!!! ทุกสายตาที่ได้เห็นเปล่งเสียงด้วยความตื่นตระหนกออกมาพร้อมกัน
พรึ่บ! และแล้วพระวรกายล่องหนจู่ๆ ก็ปรากฏออกมาทันใดต่อหน้าผู้คนหลายร้อยชีวิต วงองค์สูงใหญ่ทะมึนฉลองพระองค์พระบรรทมด้านในสีขาวทาบทับด้วยเสื้อคลุมสีดำทะมึนชั้นนอก ซึ่งทำมาจากเนื้อผ้าชั้นดีของเชื้อพระวงศ์ระดับสูง
พระเกศาสีดำสนิทยาวสลวยถึงบั้นพระองค์และมีปอยเกศาบางส่วนตกปรกพระพักตร์ ท่วงท่าองอาจเต็มไปด้วยความห้าวหาญอย่างยิ่งยวด
“ผะ...ผะ..ผีไอ้รูปหล่อ!!!”เสียงของหวังเหล่ยแผดดังก้องทำลายความเงียบขึ้นมาทันที
และนั่นทำให้ทุกชีวิตต่างพากันรู้สึกตัวขึ้นมาทันใดเมื่อได้เห็นการปรากฏกายของผู้ชายปริศนาซึ่งอยู่ในชุดสมัยโบราณเห็นได้ทั่วไปจากละครย้อนยุคของจีน
พระเนตรสีนิลคู่สวยก้มลงทอดพระเนตรพระวรกายของพระองค์ครั้นได้ยินเสียงของหวังเหล่ยตะโกนออกมา
“นี่ข้าปรากฏร่างได้เองทันที เพียงแค่คิดหรือพูดออกมาอย่างนั้นหรือนี่..ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก”รับสั่งด้วยทรงรู้สึกอัศจรรย์ในพระทัยอย่างยิ่งยวดก่อนจะเหลือบสายพระเนตรไปทางใบหน้าคมเฉี่ยวของไป๋หลันฮวาที่กำลังยืนมองพระองค์อ้าปากค้างอยู่ในขณะนี้
“พบกันอีกแล้วนะเจ้า”รับสั่งพร้อมคลี่พระโอษฐ์แย้มยิ้มออกมาบางๆ ส่งกลับไปให้มาเฟียสาวทรงเสน่ห์ ที่กำลังถือปืนอยู่ในมือตั้งค้างเอาไว้อยู่เช่นนั้น
พระพักตร์หล่อเหลาหันกลับมาทอดพระเนตรไป๋เริ่นเจินที่กำลังยืนมองด้วยความตื่นตระหนกไม่แพ้กัน วรองค์สูงทะมึนพระดำเนินไปเบื้องหน้าทรงยืนขวางระหว่างกลางไป๋เริ่นเจินและสตรีที่ทรงตามติดมาโดยตลอด
เพื่อออกหน้าปกป้องนางด้วยพระองค์เอง พระหัตถ์ใหญ่ที่เต็มไปด้วยกระสุนปืนนานาชนิดถูกทิ้งลงพื้นต่อหน้าอีกฝ่าย
แกรก!แกรก!แกรก!แกรก! ลูกกระสุนร่วงกราวออกจากพระหัตถ์ตกลงสู่พื้นกระจัดกระจายต่อหน้าต่อตาไป๋เริ่นเจินอยู่ในขณะนี้ ท่ามกลางความงงงันซึ่งเกิดขึ้นกับทุกคนที่ได้เห็นเหตุการณ์
ไป๋เริ่นเจิ่นกะพริบตาขึ้นลงติดต่อกัน ก่อนจะสะบัดหน้าไปมาครั้นเมื่อหายจากอาการตกตะลึง ปากของมันก็เริ่มทำงานขึ้นมาทันที
“แกไร้สิ้นฝีมือแล้วหรือวะหลันฮวาถึงได้หาพวกเล่นมายากลเอามาตายที่นี่พร้อมกับแกด้วย!ยอมรับว่ามันเล่นได้ดีวะเมื่อกี้ถึงกับอึ้งไปเลยเหมือนกัน แต่มันคงจะไม่รู้ว่าเข้ามาได้แต่กลับออกไปไม่ได้!!”มาเฟียปากเปราะเย้ยหยันน้องสาวนอกไส้พร้อมเหลือบสายตาหันกลับไปมองร่างสูงทะมึนในชุดสมัยโบราณ
“มึงมันจะแน่สักแค่ไหนกันเชียววะ มีปัญญาหลบลูกกระสุนเป็นหมื่นนัดของกูได้ไหมไอ้กระจอก!”
ไป๋เริ่นเจินกล่าววาจาเหยียดหยามและดูแคลนผู้ชายตัวโตเท่าตึกและสูงใหญ่บึกบึนกำยำตรงหน้าอย่างไม่กลัวเกรงด้วยถือดีว่าตนมีลูกสมุนพร้อมอาวุธครบมือสามารถสังหารหมู่ได้นับพันชีวิต
พระโอษฐ์หยักได้รูปสวยแสยะยิ้มเหยียด ทว่ากลับเต็มไปด้วยรอยอำมหิตปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนสายพระเนตรคมกล้าเต็มไปด้วยความเลือดเย็นฉายวาววับออกมาทันใด พระหัตถ์ค่อยๆ ดึงมีดสั้นจากชายแขนเสื้อฉลองพระองค์มากระชับเอาไว้ในพระหัตถ์
“สงครามจบสิ้นได้เมื่อสังหารแม่ทัพ และเจ้าก็คือเป้าหมายของข้าที่ต้องกำจัด!!!”สุรเสียงรับสั่งเย็นยะเยียบ
ทันทีที่ไป๋เริ่นเจินได้ยินเช่นนั้นเสียงหัวเราะแผดดังก้องออกมาทันทีด้วยความขบขันเสียนี่กระไร
“ถุย!!! พูดจาแบบนี้มึงเป็นพระเอกงิ้วละสิท่า! โชคร้ายไปหน่อยนะที่ไม่มีโอกาสกลับไปเล่นได้อีกแล้ว กะอีแค่มีดเล่มเล็กๆ ที่ถืออยู่ในมือ มึงคิดหรือว่าจะมีปัญญาฆ่ากูและลูกน้องของกูที่มีอยู่ถึงหลายร้อยคนได้อย่างไงกันวะไอ้กระจอก!!!”ไป๋เริ่นเจินตวาดกลับไปอย่างท้าทาย
“เจ้าจะได้เห็นเดี๋ยวนี้!ไอ้หน้าโง่!!!”สุรเสียงตวาดดังกระหึ่ม
สิ้นพระสุรเสียงพระวรกายใหญ่ก้าวประชิดตัวโดยใช้วรยุทธ์ของพระองค์บุกเข้าหาไป๋เริ่นเจิน โดยที่อีกฝ่ายยังมิทันได้กะพริบตาเสียด้วยซ้ำ พร้อมมีดสั้นคมกริบตรงเข้าเชือดลำคอของมันอย่างรวดเร็ว
ฉัวววว!!! ลำคอเกิดรอยเส้นเป็นทางยาวก่อนจะเปิดออกกว้าง เผยให้เห็นลูกกระเดือกถูกคมมีดเชือดจนขาดเป็นแผลเหวอะหวะต่อหน้าสมาชิกของแก๊งนับหลายร้อยคน
ฉูดดดด!!! โลหิตแดงฉานพุ่งออกมาจนกระเด็นถูกฉลองพระองค์
อ๊าคคคค!!! เสียงโหยหวนเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวดดังออกมาโดยพลัน
แม่ทัพในตำนานยังมิทรงหยุดเพียงแค่นั้น พระหัตถ์อีกข้างตรงเข้าขย้ำลูกกระเดือกไป๋เริ่นเจิ่นทันใด
พรืดดด!!! กระดูกต้นคอถูกกระชากออกมาอย่างแรงจนส่วนกระดูกตรงลำตัวที่บริเวณต้นลำคอหลุดติดพระหัตถ์กลับมาด้วยทันที
ตุบ! ร่างผอมสูงทรุดฮวบลงกับพื้นโดยพลัน สิ้นใจตายคาพระหัตถ์แม่ทัพในตำนานโดยมิทันได้ตั้งตัว ดวงตาเบิกค้างอยู่เช่นนั้นบริเวณลำคอถูกเชือด กระดูกถูกดึงออกจากร่างตั้งแต่ส่วนของลำคอจนไปถึงซี่โครงบางส่วนหลุดติดพระหัตถ์กลับมาเป็นที่สยดสยองต่อผู้คนที่ได้เห็นเหตุการณ์กันอย่างถ้วนหน้า พระหัตถ์ยกชิ้นส่วนที่ติดมาชูขึ้นสูงเหนือพระเศียรก่อนจะหันไปโดยรอบ
ตุบ! ซากชิ้นส่วนของศพไป๋เริ่นเจิ่นถูกโยนออกไปตรงกลางลานเพื่อให้ทุกคนได้เห็นเต็มสองตา
“ผู้นำของเจ้าแพ้แล้ว! ทิ้งอาวุธให้หมดหาไม่พวกเจ้าทุกคนจะมีสภาพไม่ต่างจากมันผู้นี้!!!”รับสั่งพร้อมหันกลับไปชี้ซากศพของไป๋เริ่นเจินที่เพิ่งถูกพระองค์สังหารเมื่อครู่ที่ผ่านมา
กรี๊ดดดด!!! เสียงกรีดร้องของคุณนายรองแผดออกมาจนสุดเสียงก่อนจะเป็นลมหมดสติไปทันทีเมื่อได้เห็นสภาพศพที่ทุกคนต่างต้องพากันเบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกสยดสยองเป็นยิ่งนัก
ตุบ!ตุบ!ตุบ! เสียงทิ้งอาวุธลงพื้นดังขึ้นติดต่อกัน บรรดาลูกน้องของไป๋เริ่นเจินที่ถูกซื้อตัวเอาไว้เป็นพวกเดียวกันต่างยอมจำนนด้วยกันทั้งหมด สมาชิกคนอื่นที่หายจากอาการตกตะลึงต่างเข้าประกบพวกมันทีละคนเพื่อยึดอาวุธกลับคืน
ท่ามกลางสายพระเนตรของรัชทายาทในอดีต พระองค์หันกลับไปทอดพระเนตรไป๋หลันฮวาอยู่เช่นนั้นนิ่งนานในขณะที่อีกฝ่ายยังคงยืนชะงักงันอยู่กับที่เช่นนั้น
“เจ้าจะไม่กล่าวขอบใจข้าหรือแม้แต่จะเอ่ยถ้อยเจรจาอื่นใดแม้สักเพียงครึ่งคำบ้างเชียวรึ”พระองค์อดไม่ได้จึงเป็นฝ่ายมีรับสั่งถามกลับไป
และนั่นทำให้แม่มาเฟียคนงามได้สติกลับคืนมา ครั้นเธอหายจากอาการตกตะลึง
“ทะ...ท่าน...ท่านผู้เฒ่าตกลงเป็นผีหรือคนกันแน่...แล้วทำไม..ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”หญิงสาวตัดสินใจถามกลับไปในขณะที่หวังเหล่ยที่หายจากอาการตกตะลึงแล้วเช่นกัน ค่อยๆ ก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังทางเพื่อนสาวของเขา
“ชะ..ใช่!ตกลงเป็นคนหรือเป็นผี ตอนอยู่กลางทะเลทรายเราสองคนเห็นคุณเป็นโครงกระดูกเดินได้นะ แต่ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นคนหรือว่าแปลงกายได้อย่างนั้นเหรอ”หวังเหล่ยอดไม่ได้ที่จะถามกลับไป
พระพักตร์หล่อเหลาที่มีรอยแย้มยิ้มเมื่อครู่ที่ผ่านมาเลือนหายไปโดยพลันครั้นทรงถูกถามกลับมาเช่นนั้น
“ข้าก็มิรู้เช่นกันว่าตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริงหรือดั่งฝันร้าย แต่ในยามนี้ข้าเป็นคน!และเจ้าเป็นผู้ทำให้ข้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง”รับสั่งบอกสตรีสาวที่ยืนอยู่ตรงพระพักตร์
“หนูนะเหรอ!”ไป๋หลันฮวาชี้นิ้วหันกลับไปที่เธอทันที
พระพักตร์หล่อคมคายพยักขึ้นลงติดต่อกันเพื่อย้ำเตือนให้อีกฝ่ายแน่ใจ ในขณะที่สตรีสาวคนงามหันกลับไปมองเพื่อนร่วมแก๊งคนสนิท
“ตกลงแกไปทำอีท่าไหนเข้าให้วะหลันฮวา ไอ้หมอนี่ถึงได้บอกกลับมาแบบนั้น”หวังเหล่ยถามกลับไปด้วยความอยากรู้
ในขณะที่อีกฝ่ายรีบส่ายหน้าไปมาเป็นพัลวัน
“ไม่รู้! ไม่ได้ทำอะไรเลย! ก็อยู่เฉยๆ นายก็เห็นเหมือนกับฉันไม่ใช่เหรอ”หญิงสาวตอบกลับไป
“เออใช่!..มันก็จริงอย่างที่แกพูด แล้วทำไมถึง...”ยังมิทันที่หวังเหล่ยจะกล่าวจนจบประโยค ประตูทางเข้าพลันถูกเปิดออกด้วยแผงควบคุมจนเผยให้เห็นด้านนอกของคฤหาสน์
แวบบบ!!! แสงจากพระจันทร์ทางด้านนอกสาดส่องเข้ามาภายในห้องโถงดังกล่าวทันที ด้วยค่ำคืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง
ทันใดนั้นเองพระวรกายบึกบึน สูงใหญ่กำยำ มีบางอย่างเปลี่ยนไปต่อหน้าสองสหายขึ้นมาโดยพลัน ครั้นถูกแสงในคืนพระจันทร์เต็มดวงสาดกระทบมาถึงจุดที่ทั้งหมดกำลังยืนอยู่เข้าให้อย่างจัง
กายเนื้อค่อยๆ เลือนหายไปโดยพลันหวนคืนเป็นซากโครงกระดูกแห้งกรังสลับไปสลับมา เดี๋ยวเป็นคนเดี๋ยวเป็นโครงกระดูกอยู่เช่นนั้นปรากฏให้หญิงสาวและเพื่อนร่วมแก๊งของเธอได้เห็น มิเพียงเท่านั้นต่อหน้าทุกสายตาที่กำลังหันกลับมามองเป็นจุดเดียวกัน
“นี่นะเหรอคน! ไม่ใช่แล้วท่านผู้เฒ่า!!!”ไป๋หลันฮวาเอ่ยออกมาทันทีครั้นกายมนุษย์เลือนหายไปเหลือเพียงซากโครงกระดูกเข้ามาแทนที่
“ข้าเป็นคนจริงๆ นะแม่นาง”แม่ทัพหนุ่มรับสั่งยืนยันกลับไปโดยมิทันได้สังเกตพระวรกายของพระองค์ในขณะนี้
ทันใดนั้นเองเสียงแตกตื่นตกใจกลัวดังขึ้นไปทั่วบริเวณ เมื่อสมาชิกแก๊งคนอื่นๆ ต่างพากันเห็นซากโครงกระดูกแห้งกรังกำลังยืนสนทนากับลูกสาวอดีตเจ้าพ่อและหวังเหล่ยอยู่ในขณะนั้น
“ผะ...ผี...ผีหลอก!!!”เสียงตะโกนด้วยความหวาดกลัวแผดดังก้อง ความบันเทิงบังเกิดขึ้นมาโดยพลัน เทศกาลหนีผีปรากฏขึ้นตามติดมา สมาชิกแก๊งต่างวิ่งหนีออกจากห้องโถงกันอย่างอลหม่าน
“ลาขาดถาวรไม่อยู่แล้ว!!!”หวังเหล่ยตะโกนก้องพร้อมสับขาวิ่งหนีออกให้ไกลห่างจากซากโครงกระดูกในตำนาน โดยมิวายที่จะหันกลับไปฉุดกระชากเพื่อนสนิทให้วิ่งตามไปด้วย
“รีบหนีไปให้ไกลหลันฮวา ไอ้ผีรูปหล่อตามเกาะแกไปทุกที่! อีกหน่อยจะต้องลากไปอยู่ด้วยแน่ๆ ไปเร็วเข้า..ไปเร็ว!”หวังเหล่ยตะโกนไปพลางวิ่งหนีไปพร้อมกัน โดยมีร่างอรชรของไป๋หลันฮวาวิ่งตามแรงฉุดไปติดๆ
“เดี๋ยวก่อน! อย่าไป! อย่าเพิ่งหนีข้าไป! ข้าเป็นคนนะไม่ใช่..ผีแม่นาง! เนี่ยนเจิน!”สุรเสียงของแม่ทัพในตำนานรับสั่งร้องเรียกตามหลัง