ตอนที่ 18 แม่ทัพหวนคืน

2659 คำ
บริเวณด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลไป๋ “ไม่อยู่แล้วโว้ย! สภาพแบบนี้ยังมาบอกว่าเป็นคนได้อีกอย่างนั้นเหรอพ่อคุณ”หวังเหล่ยแหกปากตะโกนร้องลั่นออกมาจนสุดเสียง ด้วยเพราะเป็นคนกลัวผีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ชายหนุ่มวิ่งออกมาจากห้องโถงพร้อมฉุดลากเพื่อนสาวให้วิ่งตามมาด้วยกัน ในขณะที่สมาชิกแก๊งคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันวิ่งออกมาด้านนอกของตัวคฤหาสน์ด้วยเช่นกัน ทั้งที่คนกลัวผีและคนที่ไม่กลัวผีต่างก็ผสมโรงวิ่งออกมาด้วยเพราะอยากรู้อยากเห็นนั่นเอง ในขณะที่รัชทายาทในอดีตเริ่มทอดพระเนตรความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกับพระองค์อยู่ในขณะนี้ “เกิดอะไรขึ้นกับข้าอีกแล้ว!เหตุใดกายข้าเดี๋ยวก็เป็นมนุษย์เดี๋ยวก็กลายเป็นโครงกระดูก สลับไปสลับมาอยู่เช่นนี้เล่า มีเหตุใดผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือไร”รับสั่งพลางพลิกพระหัตถ์ทั้งสองข้างของพระองค์ไปมา พร้อมก้มลงทอดพระเนตรไปทั่วพระวรกายที่ยังคงผลุบโผล่อยู่เช่นนั้น “ไม่ได้การแล้ว! นางเพียงผู้เดียวที่เท่านั้นจะทำให้ข้าหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้”รับสั่งพร้อมรีบเร้นพระวรกายติดตามไป๋หลันฮวาที่กำลังถูกหวังเหล่ยลากออกไปจากบริเวณนั้น ร่างระหงวิ่งออกมาจากตัวคฤหาสน์ตามแรงลากของเพื่อนชายคนสนิท ในขณะที่ทั้งสองวิ่งใกล้มาถึงสนามหญ้าซึ่งถัดไปก็จะถึงโรงเก็บรถที่มีรถยนต์คันหรูจอดสงบนิ่งอยู่ภายในนั้นนับหลายสิบคนเลือกหาขับขี่ได้ดั่งใจ พรึ่บ!!! แม่ทัพในตำนานรีบรุดตามติดมาอย่างทันท่วงทีก่อนจะปรากฏพระวรกายใหญ่ยืนขวางหน้าสองสหายที่กำลังวิ่งหน้าเริ่ดมาอย่างไม่คิดชีวิตเพราะความกลัวผีของหวังเหล่ย ในขณะที่คนกำลังวิ่งตามหลังมานั้นแม้จะกลัวแต่ก็ไม่ถึงกับขาดสติ เอี๊ยดดด!!! ร่างสันทัดของหวังเหล่ยเบรกจนตัวโก่งเมื่อสายตาเห็นรัชทายาทในอดีตจู่ๆ ก็ปรากฏพระวรกายยืนขวางหน้าก่อนจะกลายเป็นซากโครงกระดูกอย่างชัดเจน ทันทีที่ทรงยืนอาบแสงพระจันทร์เต็มดวงที่สาดส่องกระทบถูกพระองค์อย่างเต็มที่ “มันมายืนขวางหน้าอีกแล้วเว้ยหลันฮวา!”หวังเหล่ยหันกลับไปบอกเพื่อน “เออเห็นแล้วตาไม่บอด! จะไปกลัวทำไม!วิ่งฝ่าเข้าไปเลยในเมื่อเป็นผีไม่ใช่คน”หญิงสาวบอกหวังเหล่ยกลับไป “แกเชิญวิ่งฝ่าไปคนเดียวเถอะไม่เอาด้วยหรอก”หวังเหล่ยกล่าวพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธไปมา ครั้นแม่สาวน้อยคนงามได้ยินเช่นนั้น เธอตัดสินใจก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อถามไถ่ซากโครงกระดูกโบราณที่คอยตามติดเธอมาโดยตลอดตั้งแต่อยู่ในทะเลทราย “นี่ท่านผู้เฒ่าคอยตามติดหนูตั้งแต่อยู่ในทะเลทรายจนมาถึงบ้านเป็นเพราะอะไร!”หญิงสาวทำใจดีสู้เสือถามความต้องการอีกฝ่ายกลับไปเพื่อมิต้องคอยวิ่งหนีผีอยู่เช่นนี้ไปโดยตลอด ทันทีที่แม่ทัพในตำนานทรงได้ยินสาวน้อยแรกรุ่นนางนั้น ถ้าหากกล่าวกันตามตรง ไป๋หลันฮวาซึ่งปีนี้เพิ่งอายุเต็ม 20 ย่างเข้าสู่ปีที่21 ดังนั้นเธอจึงอ่อนเยาว์กว่าพระองค์ 3 ปีในขณะที่ทรงมีพระชนม์มายุ 23 ชันษาเมื่อครั้งยังมีพระชนม์ชีพ “เจ้าเรียกข้าว่าท่านผู้เฒ่าอย่างนั้นเหรอแม่นาง!ข้าไม่ได้ชราภาพดั่งเช่นที่เจ้าคิดเลยนะ”รับสั่งถามกลับไปด้วยความสงสัยกับสิ่งที่หญิงสาวใช้ถ้อยเจรจากับพระองค์เช่นนั้น พร้อมรับสั่งสำทับตามติดมา “แล้วเหตุใดเจ้าจึงมอบหนู ให้แก่ข้าทั้งๆ ที่หามีไม่”รับสั่งถามกลับไป “เออนั่น! เจอผีคนโบราณยุคสมัยไหนกันละเนี่ย พูดอะไรไปก็ไม่เข้าใจสักอย่างพับผ่าสิ”หญิงสาวรำพึงอยู่ภายในใจ “เอาเป็นว่าท่านต้องการอะไร! ถึงคอยตามข้าอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ ทำไมไม่ไปตามทางที่ควรจะไปด้วยเล่า”หญิงสาวเปลี่ยนวิธีการพูดให้แลดูเข้าใจง่ายแก่ทั้งสองฝ่าย แม่ทัพในตำนาน ซึ่งบัดนี้หวนคืนร่างกลับกลายเป็นซากโครงกระดูกแห้งกรังตามเดิม ส่ายพระพักตร์ไปมาด้วยทรงไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระองค์ด้วยเช่นกัน “เจ้าเป็นผู้ทำให้ข้ามีชีวิตหวนกลับคืนมาอีกครั้ง แต่ก็มิรู้เช่นกันว่าเพราะเหตุใดกายเนื้อของข้าเดี๋ยวหวนคืนเป็นมนุษย์สลับซากโครงกระดูกอยู่เช่นนี้ ข้านั่นก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงติดตามเจ้าเพื่อหาคำตอบ”รับสั่งออกไปตามความเป็นจริงที่ทรงเฝ้าครุ่นคิดหาคำตอบอยู่ตลอดเวลา “หนูนะเหรอ!”หญิงสาวชี้นิ้วเข้าหาตัวทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายคงไม่เข้าใจเหมือนเดิมก่อนจะเปลี่ยนถ้อยเจรจาใหม่ “ข้านะเหรอที่เป็นคนทำให้ท่านผู้เฒ่าฟื้นคืนชีพกลับมาได้...จริงอะ!!!”หญิงสาวกล่าวพร้อมถามสวนกลับไป แทนการตอบรับซากโครงกระดูกตรงหน้าเธอพยักหัวขึ้นลงติดต่อกัน ครั้นไป๋หลันฮวาเห็นคำตอบดังกล่าว ภาพกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่สวมอยู่บนคอของเธอและของอีกฝ่าย เมื่อถูกประกบเข้าหากันสิ่งที่ไม่เคยเห็นก็เกิดขึ้นตามติดมา ภาพนั้นแล่นเข้ามาในความคิดของเธอทันทีและทำให้หญิงสาวเริ่มปะติดต่อเหตุการณ์จนพอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว “ฉันพอเข้าใจแล้วว่าจะส่งเขากลับไปได้อย่างไง!”หญิงสาวรำพึงออกมา ครั้นหวังเหล่ยที่กำลังยืนหลบอยู่ด้านหลังของหญิงสาวได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มรีบเสนอหน้าสอดปากขึ้นมาทันใด “จะทำอะไรก็รีบทำเถอะหลันฮวา มีวิธีไหนส่งกลับไปได้รีบจัดการส่งไปเร็วๆ เข้า เห็นพ่อโครงกระดูกบอกตรงๆ นะว่าไอ้เรื่องกลัวตายไม่เคยกลัวหรอกวะ แต่กลัวสภาพศพก่อนตายมันจะออกมาแบบสยดสยองเหมือนไอ้เริ่นเจิ่นไม่อยากโดนฆ่าแบบนั้นจริงๆ ถ้าเกิดพ่อโมโหขึ้นมาคงรอดยาก”หวังเหล่ยบ่นรำพึงรำพัน “นายสงบปากสงบคำลงหน่อยเถอะอาเหล่ย รู้ว่าเป็นคนกลัวผีแต่ต้องไม่ขาดสติสิวะ ไม่เห็นเหรอคนเป็นผีเขายังพูดรู้เรื่องมากกว่านายที่เป็นคนเลยนะเว้ย”หญิงสาวเอ็ดเพื่อนกลับไป ร่างระหงค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาซากโครงกระดูกแห้งกรังในขณะที่กำลังก้าวเดินเข้าไปหา กระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่สวมอยู่บนคอของทั้งสองพลันสว่างวาววับขึ้นมาทันใด ก่อนจะมาหยุดยืนห่างกันประมาณหนึ่งช่วงแขนพร้อมแหงนมองอีกฝ่ายจนคอตั้งบ่าเลยทีเดียว ดวงตากลมโตคู่สวยจับจ้องอยู่ที่กระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์พร้อมเอ่ยขึ้น “ตอนที่อยู่ทะเลทรายกระดองเต่าทั้งสองชิ้นพอประกบเข้าหากัน ท่านผู้เฒ่าก็กลับมาเป็นมนุษย์และมีจารึกโบราณปรากฏออกมาด้วย ถ้าเช่นนั้นข้าคิดว่าควรจะลองใช้วิธีเดิมอีกครั้ง บางทีท่านผู้เฒ่าจะได้กลับไปในสถานที่คู่ควรสำหรับท่านก็ได้นะ” ถ้อยเจรจาของโฉมสะคราญดังกล่าวทำให้แม่ทัพหนุ่มในอดีตรับสั่งสวนกลับมาทันใด “เจ้าคิดเห็นเป็นเช่นนั้นนะหรือแม่นาง ว่าหากทำแบบนั้นแล้วข้าจะได้กลับไปในสถานที่ที่คู่ควรสำหรับคนเช่นข้า” “ไม่ลองก็ไม่รู้นะท่านผู้เฒ่า! แต่เอาเถอะเดี๋ยวข้าน้อยจะทำบุญตามไปให้ทีหลัง เอาแบบชนิดที่ว่าท่านอยู่สบายมีเงินทองใช้ พร้อมข้าทาสบริวาร บ้านพร้อมที่ดินแถมแรมโบกินี่ให้ด้วยหลายๆ คัน จะเผาตามหลังจัดหนักจัดเต็มให้เลยจะได้ไปเกิดใหม่สบายๆ”ไป๋หลันฮวาลั่นปากเป็นแม่นมั่น “ข้าหาได้ต้องการสิ่งเหล่านั้นตามที่กล่าวแม้แต่น้อย เพียงแต่กังวลว่าจะได้หวนคืนกลับไปดั่งที่คาดหวังไว้หรือเปล่าเท่านั้น และถ้าหากข้ากลับไปแล้วแม่นางจะเป็นเยี่ยงไรต่อไป”แม่ทัพในตำนานเผลอรับสั่งถามกลับไปตามความรู้สึกที่เป็นห่วงแม่มาเฟียสาวทรงเสน่ห์ที่ได้บังเอิญพานพบนั่นเอง ใบหน้าสวยคมชวนหลงใหลยิ้มออกมาแห้งๆ ครั้นได้ยินเช่นนั้นเพราะเธอก็ไม่กล้าการันตีเช่นกันว่าสิ่งที่ซากโครงกระดูกกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอจะพานพบอะไรบ้างนับต่อจากนี้ “อย่างน้อยท่านก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้งนะท่านผู้เฒ่า การเกิดใหม่ครั้งนี้ของท่านเปรียบเสมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ชาติอดีตเป็นอย่างไงให้มันผ่านไป ชาติใหม่ท่องไว้ในใจว่าต้องดีกว่าเดิมเชื่อคนอย่างไป๋หลันฮวาสินะ”หญิงสาวเอ่ยชื่อแซ่ของเธอให้แม่ทัพในตำนานทรงได้ยินอย่างชัดเจน “เกิดใหม่ในภพชาติใหม่อย่างนั้นเหรอ”รับสั่งสุรเสียงพึมพำก่อนจะได้ยินเสียงหวังเหล่ยตะโกนแทรกขึ้นมา “จะทำอะไรก็รีบทำเร็วเข้าเถิดแม่คุณ ไม่ได้มาออกเดทยืนกินลมชมวิวพระจันทร์เต็มดวงอยู่นะเว้ย!”หวังเหล่ยบอกเร่งเร้า พระเนตรกลวงโบ๋วของซากโครงกระดูกหันกลับไปทอดพระเนตรหัวหน้าแก๊งฮ่องกงอยู่เพียงครู่ ก่อนจะหันกลับมามีรับสั่งถามกลับไปอีกครา “ก่อนจะลาจากกัน ข้าใคร่อยากล่วงรู้ว่าสหายผู้นั้นของเจ้ามีนามว่ากระไร แล้วแคว้นของเจ้าตั้งอยู่ทางทิศใดของซีโจว”รับสั่งถามกลับไปด้วยความอยากรู้ และจากคำถามดังกล่าวทำให้ไป๋หลันฮวายืนงงไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเช่นนั้น “อะ...เออ..ซะ...ซีโจว..ทิศไหนของซีโจวมันคืออะไรอย่างนั้นเหรอ แล้วแคว้นนี้ของข้าที่ท่านพูดถึง หมายความว่าเมืองใช่ไหม”หญิงสาวถามกลับไป แทนการตอบรับแม่ทัพในตำนานพยักโครงกะโหลกขึ้นลงติดต่อกัน พร้อมเสียงของไป๋หลันฮวาเอ่ยสวนกลับไป “ข้าไม่รู้จักซีโจวอะไรนั่นหรอก แล้วแคว้นที่ท่านเอ่ยถึงมันคงใช้เรียกเมืองในสมัยโบราณกระมัง ถ้าเทียบกับยุคนี้ที่นี่คือเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ถ้าเป็นยุคโบราณหากจำไม่ผิดน่าจะอยู่ในเขตดินแดนของแคว้นฉู่ และบริเวณบ้านของข้าที่ท่านเห็นในเวลานี้ก็อยู่ใกล้เมืองหลวงของแคว้นนั้นแหละ ส่วนที่ท่านถามว่าเจ้าสหายปอดแหกของข้าผู้นี้มีนามว่าอะไร ไอ้หมอนี่มีชื่อแซ่จำง่ายนามว่าหวังเหล่ย” แม่ทัพหนุ่มในอดีตพยักโครงกระโหลกศีรษะขึ้นลงครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น “ไม่น่าเชื่อเลยว่าแคว้นฉู่จะสามารถเจริญรุ่งเรืองมาได้ถึงเพียงนี้”รับสั่งพึมพำพลางจ้องเขม็งไปทางหวังเหล่ย เมื่อทรงแน่พระทัยแล้วว่ามาเฟียหนุ่มหาใช่พระสหายสนิทหลี่เนี่ยนเจิน องค์ชายจากแคว้นถังแต่อย่างใด “คนผู้นี้ก็หาใช่อาเจินสหายรักของข้าแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงคนหน้าเหมือนเท่านั้นเอง ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้คนหน้าตาเหมือนราวพิมพ์เดียวกันได้เช่นนี้ แตกต่างเพียงแค่นามกล่าวขานเท่านั้น หลงดีใจว่าใช่แต่แท้จริงแล้วคือหวังเหล่ยสหายสนิทของเจ้า”รับสั่งชื่อมาเฟียหนุ่มจากแก๊งฮ่องกง ครั้นไป๋หลันฮวาได้ยินถ้อยรับสั่งขององค์ชายจากยุคอดีตเช่นนั้น เธอหันกลับไปมองเพื่อนสนิทร่วมแก๊งอยู่เพียงครู่ก่อนจะหันกลับมาถามพระองค์อีกครา “ท่านมีเพื่อนสนิทที่มีหน้าตาเหมือนกับเจ้าเพื่อนของข้าคนนี้ด้วยเหรอ” แทนการตอบรับโครงกะโหลกพยักขึ้นลงติดต่อกันเป็นการยอมรับ โดยมิได้เอื้อนเอ่ยถ้อยรับสั่งสิ่งใดออกมาอีก หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงครั้นเห็นคำตอบดังกล่าว “เออ..ท่านผู้เฒ่า”เสียงของไป๋หลันฮวาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบงัน แม่ทัพในตำนานหันกลับมาทอดพระเนตรสาวน้อยคนงามทันใดที่นางเรียกพระองค์ “ไหนๆ ท่านก็จะไปเกิดใหม่แล้ว ช่วยใช้พลังของท่านเอาเจ้ากระดองเต่าที่สวมอยู่บนคอกลับไปด้วยนะ แบบว่าไม่อยากเจออะไรที่มันพิลึกพิลั่นอีกแล้ว บอกตามตรงไอ้ที่ยืนคุยกับท่านอยู่ตอนนี้ใช่ว่าจะไม่รู้สึกกลัวเหมือนคนอื่นหรอกนะ ข้าเองก็ตกใจเป็นเหมือนกันเพียงแต่มีสติมากกว่าเท่านั้นเอง เอ้า!รีบทำสิจะตัด จะดึง จะทำลายแบบไหนช่วยจัดการด้วยเถิด”หญิงสาวเอ่ยขอร้อง และนั่นทำให้พระองค์ก้มลงทอดพระเนตรกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่สวมอยู่ในลำคอระหงของสตรีโฉมงามตรงพระพักตร์ พระหัตถ์ที่มีแต่ซากโครงกระดูกค่อยๆ เอื้อมไปสัมผัสชิ้นที่อยู่กับไป๋หลันฮวา พร้อมรับสั่งตอบกลับไป “หากแม้นเลือกได้ก็อยากกลับไปเกิดใหม่ในยุคที่ข้าเคยเป็นแม่ทัพไร้พ่ายเป็นยิ่งนัก”สิ้นสุรเสียงรับสั่งพระหัตถ์สัมผัสถูกกระดองเต่าชิ้นที่อยู่กับไป๋หลันฮวาเข้าให้พอดี ในขณะที่เธอกำลังอุทานออกมาด้วยความตกใจ ห๊ะ! ไป๋หลันฮวาอุทานออกมาได้เพียงแค่นั้น ร่างระหงถูกแรงมหาศาลกระชากเธอเข้าปะทะซากโครงกระดูกแห้งกรังโดยพลัน กระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ตรงเข้าประกบกันเป็นหนึ่งเดียวทันใด แวบบบบบ!!!! แสงสว่างเจิดจ้าบังเกิดขึ้นมาทันทีที่รวมเป็นหนึ่งเดียว ร่างระหงของแม่มาเฟียสาวคนงามหมุนคว้างไปมาพร้อมซากโครงกระดูกแห้งกรังของแม่ทัพใหญ่ในอดีตหมุนเป็นลูกข่างดุจเดียวกัน แสงสีขาวนวลลามไปทั่วบริเวณจนทุกชีวิตที่เห็นเหตุการณ์ภายในคฤหาสน์ตระกูลไป๋มิสามารถมองด้วยตาเปล่าได้ พรึ่บ!!! แสงสว่างดังกล่าวดับวูบลงไปทันใดพร้อมร่างของไป๋หลันฮวาและซากโครงกระดูกของแม่ทัพในอดีตหายไปพร้อมกัน ทั่วบริเวณมีแต่ความเงียบงันแผ่ปกคลุมโดยรอบ ในขณะที่หวังเหล่ยค่อยๆ หันกลับมามองจุดที่ไป๋หลันฮวายืนอยู่กับซากโครงกระดูก หากแต่มิปรากฏเพื่อนรักแต่อย่างใด สิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในขณะนี้คือความว่างเปล่าและบรรยากาศวังเวงเข้ามาแทนที่ ตุบ!!! ร่างสันทัดทรุดกายลงนั่งกับพื้นทันทีครั้นเห็นเหตุการณ์กลับตาลปัตรเช่นนั้น “อะไรกันนี่!ไอ้ผีบ้ามันเอาหลันฮวาไปอย่างนั้นเหรอ!มันเอาหลันฮวาไปด้วยเหรอเนี่ย!”หวังเหล่ยตะโกนก้องออกมาจนสุดเสียง ใบหน้าของหวังเหล่ยส่ายไปมาติดต่อกันด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าชายหนุ่มมิอาจปฏิเสธได้แต่อย่างใด เมื่อเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผ่านมาล้วนเกิดขึ้นจริงทั้งสิ้น “ในที่สุดไอ้ผีบ้าตัวนั้นมันก็มาเอาหลันฮวาไปอยู่กับมันจนได้ ตามมาตั้งแต่กลางทะเลทราย แถมช่วยฆ่าไอ้เริ่นเจิ่นจนตายที่แท้มันทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ หลันฮวาไปกับมัน โธ่!..ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้..ตระกูลไป๋จบสิ้นเพียงแค่นี้จริงๆ อย่างนั้นเหรอ มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิวะ! มันจะต้องไม่เป็นแบบนี้!” หวังเหล่ยตะโกนก้องออกมาจนสุดเสียง ด้วยความรู้สึกเสียใจที่มิอาจช่วยเหลือเพื่อนสนิทของตนได้แต่อย่างใด มิรู้ว่าป่านนี้เพื่อนสาวคนงามของตนจะไปอยู่แห่งหนใดกันเล่า กลับไปเกิดใหม่หรือสถิตอยู่แห่งหนใดยากนักที่ผู้ใดจะล่วงรู้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม