ตอนที่ 5ว่าที่ภรรยา

1534 คำ
ร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามาในห้องคอนโดพร้อมกับปลดกระดุมเชิ้ตลงไปสามเม็ด สูทตัวหรูถูกเหวี่ยงลงไปพาดอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ "อุ้ย! พี่วิน" ธาวินถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าที่ภรรยามานั่งหลับรออยู่ก่อนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเขาถึงกับถอนหายใจออกมาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาที่มีร่างของภัทรานั่งเอนกายอยู่ไม่ห่าง "มาเมื่อไหร่แล้วทำไมไม่บอกพี่ก่อน?" ภัทรายันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างงัวเงีย เธอมานั่งรอธาวินอยู่นานจนเผลอหลับไป "ภัทรลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านค่ะ ก็เลยตัดสินใจนั่งรอ และก็...เผลอหลับไป" ไม่ใช่ครั้งแรกที่ภัทรามาหาเขาที่คอนโด ธาวินก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะถึงอย่างไรภัทราก็คือภรรยาในอนาคตของเขาแม้ว่าในใจของเขาจะไม่ได้รู้สึกรักใคร่อะไร แต่เรื่องบนเตียงมันก็คงไม่ต้องใช้ความรักใคร่ เรื่องแต่งงานมีทายาทให้ผู้เป็นบิดาตามคำสั่งมันก็คงต้องเป็นไปตามนั้น "หิวมั้ย?" "ค่ะ" ลูบท้องตัวเองเบาๆพรางพยักหน้า ภัทราเองก็ไม่ต่างกับธาวิน เธอเองก็มีคนรักอยู่แล้ว ไม่สิ มีคนที่ตัวเองแอบรักอยู่แล้วแม้ว่าเขาคนนั้นจะไม่เคยชายตาแลมองภัทราเลยก็ตาม แต่ในที่สุดภัทราก็ยอมตัดใจเพื่อจะแต่งงานกับหมอธาวินซึ่งเธอเองก็คิดว่ามันคงไม่ยากที่จะเปิดใจรักหมอธาวิน "อืม งั้นเราออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกเถอะ" "อย่างนั้นก็ได้ค่ะ เอ่อพี่วินคะ ของชำร่วยที่ภัทรส่งไปให้เลือกพี่เปิดดูหรือยังคะ?" "อ้อ ดูแล้ว พี่ได้หมดเลย แล้วแต่ภัทรทุกอย่าง" ความเป็นจริงแล้ว ธาวินยังไม่ได้เปิดดูด้วยซ้ำก็แค่พูดเอาใจภัทราออกไปส่งๆเท่านั้น เพราะถ้าตอบว่ายังไม่ได้ดูก็เกรงว่าจะทำให้ภัทราไม่สบายใจ "น่ารักจังเลย แต่งงานแล้วจะตามใจภัทรทุกอย่างแบบนี้มั้ยนะ" ขยับเข้ามาใกล้ร่างใหญ่มากขึ้น "เอ่อ พี่ว่าไปกันเถอะ" ธาวินลุกพรวดขึ้นทันที เขาไม่อยากจะมีซัมติงอะไรกับภัทราตอนนี้ การออกไปข้างนอกบรรยากาศน่าจะโล่งกว่าการอยู่กันสองต่อสองตามลำพัง เขาเองก็ไอ้เสือเก่าอยู่แล้วยังไม่อยากมือไวใจเร็วจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน อย่างน้อยก็อยากจะทำอะไรๆให้ถูกต้องบ้าง "โอเคค่ะ" ภัทรารู้สึกเก้อเล็กน้อย เธอแค่อยากเอาใจเขาในฐานะผู้หญิงของเขาเท่านั้น ธาวินลุกหนีก็ทำให้เธอรู้สึกโล่งไม่น้อย แม้จะเขินๆที่เหมือนถูกปฏิเสธก็ตาม ร่างผอมบอบบางสูงร้อยหกสิบห้าก้มลงไปหยิบกระเป๋าสะพายข้างพร้อมกับก้มลงจัดชุดให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะลุกเดินตามธาวินออกไป ขณะที่นั่งด้วยกันในรถ "พี่วินคะ ภัทรถามอะไรพี่วินตรงๆได้มั้ย?" "หืม เรื่องอะไร ได้สิถามมาเลย" ปรายตามามองภัทราเล็กน้อยก่อนจะหันไปสนใจกับการทำหน้าที่เป็นคนขับรถอย่างตั้งใจ "พี่วิน เต็มใจจะแต่งงานกับภัทรมั้ยคะ?" ถามออกไปตรงๆเพราะเธอเองก็จะได้ทำตัวถูกว่าต้องทำอย่างไรต่อไปในอนาคต ธาวินอึ้งไปกับคำถามนี้ เขาเองก็ตั้งใจจะพูดกับภัทราตรงๆอยู่แล้ว "บอกตรงๆเลยว่าพี่ยังไม่พร้อมจะแต่งงาน แต่..ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เต็มใจแต่งพี่ก็จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด" ธาวินคิดว่าเขาตอบตรงใจที่สุดแล้ว ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ก็ทำไปตามที่ผู้ให้กำเนิดต้องการแลกกับการที่ใบบัวได้มีชีวิตปกติและมีความสุขแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว สู้เพื่อความรัก ไม่ใช่แน่นอนเพราะใบบัวไม่ได้รักเขาตอบ เขาสู้เพื่อคนที่คนที่รักต่างหาก "ภัทรก็เหมือนค่ะ ภัทรก็หวังว่าพี่วินจะเป็นคนที่ภัทรรักจริงๆสักวัน" ตอบออกไปเสียงเศร้า ใบหน้าของคนบางคนลอยเข้ามาในสมองอย่างไม่ได้ตั้ง แต่กลับทำให้รู้สึกเจ็บปวดไม่ใช่น้อย เธอเคยไปสารภาพรักกับเขา แต่เขาบอกว่า เขาคิดกับเธอเป็นเพียงน้องสาวเท่านั้น ภัทราเลยตอบรับการแต่งงานครั้งนี้อย่างง่ายดายเพราะต้องการตัดผู้ชายคนนั้นออกจากใจไปเสียที "เอาเป็นว่าเรามาทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดดีกว่านะ" ธาวินสรุปรวบรัดไม่อยากจะเอ่ยถึงเรื่องรักๆใคร่ๆตอนนี้ เพราะมันไม่มีวันที่เขาจะรักภัทราได้อย่างแน่นอน ตัวอยู่ตรงนี้แต่ใจของเขาอยู่ที่อื่นนานแล้ว ภัทรา วินิชกุล เป็นบุตรสาวคนสวยผู้เพียบพร้อมไปหมดในทุกๆด้านของท่านเจ้าสัว เลิศพล วินิชกุล ผู้มีฐานะร่ำรวยจากการทำธุรกิจหลายอย่างในและต่างประเทศ อีกตั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของท่านวรฤทธิ์ ทรัพย์เพิ่มพูน ผู้เป็นบิดาของธาวินนั่นเอง การแต่งงานครั้งนี้เลยถือว่าได้กระชับความสัมพันธ์และเป็นหน้าเป็นตาต่อวงตระกูลไม่น้อย ท่านวรฤทธิ์เลยยอมทำทุกอย่างเพื่อให้การแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้น แม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิตของใครก็ตาม ตำรวจในบ้านเมืองนี้น่ะเหรอซื้อได้ด้วยเงินทั้งนั้นจัดการคนจนมันไม่ยากเลย ถ้าจะยากหน่อยก็พวกคนรวยด้วยกันนี่แหล่ะ แต่เขาก็ไม่โง่พอที่จะผิดใจกับคนที่มีฐานะใกล้เคียงกัน ทุกอย่างตกลงกันได้ด้วยผลประโยชน์ที่มีต่อกันและกันแค่นั้นก็จบแล้ว "นายครับ นายได้ยินที่คุณท่านพูดหรือเปล่า?" ชายร่างสูงใหญ่หนึ่งในลูกสมุนของธันวาเอ่ยขึ้น ทำให้ธันวาที่นั่งจิบไวน์อยู่อย่างสบายอารมณ์ถึงกับคิ้วขมวดชนกันด้วยความเครียด ยกขาอีกข้างขึ้นไขว่ห้างก่อนจะเอนกายลงไปพิงกับพนักโซฟาพร้อมกับถอนหายใจออกมาเล็กน้อยใบหน้าเข้มเปลี่ยนสีหน้าเป็นเข้มมากกว่าเดิมเห็นร้อยเมตรก็รู้ว่าอารมณ์เริ่มไม่ค่อยดีเท่าไหร่ "เรื่องที่จะให้ธาวินเป็นคนสืบทอดธุรกิจต่ออยู่ดีนั้นเหรอ?" "ครับ" แค่นหัวเราะหึ ออกมาในลำคอ ธันวารู้ดีว่าธาวินไม่มีทางรับตำแหน่งนี้ "นายวินไม่เอาด้วยหรอก สุดท้ายก็ต้องตกถึงฉันอยู่ดีนายอย่ากลัวไปเลยนิคม" "แต่ก็ต้องหลังจากคุณท่านตายไปแล้วนะครับ กว่าจะถึงตอนนั้นคนอื่นก็ยอมรับในตัวคุณธาวินไปแล้ว" ธันวาจ้องแก้วไวน์นิ่งก่อนจะยกขึ้นกระดกเข้าปาก จริงอย่างที่นิคมลูกน้องคนสนิทของเขากล่าวออกมา "งั้นนายคิดว่าฉันควรจะจัดการปัญหานี้อย่างไร ระหว่างองค์ราชาและรัชทายาท" เปรียบเปรยออกมาแทนการเอ่ยเรียกชื่อตรงๆ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยสายตาส่อแววแข็งกร้าวเมื่อลูกน้องของเขาเอ่ยเรื่องจัดการผู้เป็นบิดาบุญธรรมและก็น้องชายนอกไส้ "คนไหนก็ได้ครับนาย" "เดี๋ยวก่อนเถอะ มันยังไม่ถึงเวลา ให้เวลานายวินได้ตัดสินใจก่อน ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ฉันยังเห็นนายวินเป็นน้องชายเสมอ" "แต่ว่านายครับ!" เงยหน้าขึ้นไปจ้องนิคมแววตาเริ่มวาวโรจน์แสดงออกถึงความไม่พอใจออกมา "หยุดพูดเดี๋ยวนี้นิคม! ฉันเพิ่งรู้ว่านายคิดไม่ซื่อกับน้องชายฉัน คนอื่นฉันไม่สนใจแต่ห้ามทำร้ายนายวินเด็ดขาด" ชี้หน้านิคมอย่างคาดโทษถึงแม้ว่าจะโกรธเกลียดผู้เป็นพ่อเลี้ยงที่มองเขาเป็นแค่เศษขยะแค่ไหน แต่ธันวาไม่เคยคิดทำร้ายน้องชายเลยแม้แต่น้อย "ผมขอโทษครับนาย" นิคมรีบโค้งตัวเป็นการขอโทษขอโพย เขาเพียงแต่ซื่อสัตย์กับผู้เป็นนายมากเกินไปจนเกรงว่าธันวาจะเสียผลประโยชน์ ข้อนี้ธันวาก็รู้ดีว่านิคมนั้นจงรักภักดีกับตนแค่ไหนจึงไม่ถือโทษอะไร "ออกไปเถอะ" โบกมือขึ้นไล่นิคมออกไป "ครับนาย" ลับหลังนิคมออกไปแล้ว ธันวาก็กลับมาสนใจกับไวน์ในแก้วต่อ ร่างกายเริ่มโอนเอนเล็กน้อยจนเหมือนจะหลับ 'พี่ธันวามองภัทรเป็นแค่น้องสาวจริงๆเหรอคะ?' 'ใช่ ระหว่างเราเป็นได้แค่นั้นจริงๆ' บทสนทนานี้ยังดังก้องอยู่ในหูของธันวา เพราะคำสารภาพรักของภัทราผู้ที่จะมาเป็นน้องสะใภ้ในไม่ช้า เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภัทราจะรู้สึกอย่างนี้กับเขา เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่านางฟ้าจะโน้มตัวลงมาหาหมาวัด 'หมาวัดตัวนี้มันไม่คู่ควรกับเธอหรอกภัทร อยู่กับนายวินเธอจะมีความสุขมากกว่าคนต่ำต้อยอย่างพี่' ไวน์ในแก้วถูกกระดกเข้าปากรวดเดียวอีกครั้ง ก่อนที่ตาของเขาจะค่อยๆปิดลงและเผลอหลับไปในที่สุด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม