'ฮะโหล บัว บัวอยู่ไหน?'
(ใจเย็นๆ บัวสบายดี แค่อยากจะบอกว่าอย่าเป็นห่วงบัว แล้วบัวจะติดต่อมาเองนะ)
'หายไปอยู่ที่ไหน โอเค ถ้าไม่พร้อมจะบอกก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ส่งข่าวกลับมาบ้างนะ'
(จ้า ช่วงนี้บัวมีปัญหากับแม่ด้วยน่ะ หลายเรื่อง เหนื่อยอยากพักมากๆ)
'เข้าใจแล้วล่ะ งั้นหายเหนื่อยเมื่อไหร่ก็กลับมาทำงานเหมือนเดิมนะ เกรทไม่ได้ว่าอะไรเธอลาพักยาวๆได้เลย'
(โอเคฝากขอบคุณพี่หมอเกรทด้วยนะ แต่คิดว่าอีกสักพัก เธอน่ะไม่ต้องแพนิคและเป็นห่วงอะไรบัวมากรู้มั้ยพายน์ เราปลอดภัยดี)
'จ่ะ แค่รู้ว่าเธอปลอดภัยก็สบายใจแล้วล่ะ'
(งั้นแค่นี้ก่อนนะ บาย)
'จำไว้นะ ติดต่อมาบ้าง'
หลังจากวางสายจากใบบัวแล้วพริมาเองก็คลายความกังวลไปบ้างเล็กน้อย รู้สึกว่ายังมีบางเรื่องที่เพื่อนไม่ค่อยอยากเล่า แต่ก็เคารพในการตัดสินของใบบัว ไปก้าวก่ายมากเกินไปก็ไม่ได้
"อ้าววิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว?"
หมอธาวินนั่งจิบเบียร์อยู่ตรงมุมเอาท์ดอร์ในบ้านหลังใหญ่ของธันวาผู้เป็นพี่ชายซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเขาไม่มากนักและก็ห่างจากบ้านของบิดาไม่มากเช่นกัน ท่านวรฤทธิ์จงใจให้ปลูกบ้านอยู่ใกล้ๆเพื่อจะได้ง่ายต่อการเรียกใช้งาน ประหนึ่งว่าลูกก็คือลูกน้อง ทุกคนต่างมีหน้าที่รอรับคำสั่งจากผู้เป็นบิดาเท่านั้น
"โทษทีพี่ผมไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้า แค่คิดว่าอยากดื่มก็มาเลย"
"ไม่เป็นไร พอดีพี่ไปดูเรือนเล็กมาน่ะ"
"ใครจะย้ายมาเหรอครับ?"
"อืม เรียกว่าอะไรดี ว่าที่ภรรยาหรือว่าแฟนดีล่ะ"
ธาวินรินไวน์ใส่แก้วอีกใบเพราะธันวาไม่ดื่มเบียร์ก่อนจะยื่นให้ผู้เป็นพี่ชายพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างออกมา
"นี่พี่ธันจะมีเมียแล้วเหรอครับ ผมไม่เห็นจะรู้จักเลย"
"ลูกหนี้น่ะ แม่เขายกให้เป็นเมีย พี่ต้องจ่ายไปถึงหกแสนกว่าจะได้ตัวมา"
"หืม นี่พี่ยังปล่อยเงินกู้อยู่อีกเหรอครับ?"
หัวคิ้วย่นขึ้นเล็กน้อยขณะรอคำถาม เพราะธาวินไม่เคยเห็นด้วยกับธุรกิจปล่อยเงินกู้ผิดกฏหมาย
"ไม่ใช่ธุรกิจของพี่ แต่มันเป็นของพ่อ ก็เพราะนายไม่ยอมดูแลพี่ก็เลยต้องรับแทน อ่ะดูนี่ ประวัติผู้หญิงคนนี้ดีมากจนพี่คิดว่าคงจะเอามาแต่งเป็นเมียได้ ดูโปรไฟล์แล้วค่อนข้างดี หน้าที่การงานการศึกษาก็ดีที่ไม่ดีก็คือมีแม่ใจร้าย ก็แค่อยากจะดึงให้หลุดพ้นเห็นนิคมบอกว่าหาเงินใช้หนี้ให้แม่ไม่หวาดไม่ไหวแล้ว พี่ชอบในความกตัญญูของหล่อน"
ยื่นซองเอกสารให้ธาวินดู ทีแรกธาวินก็ไม่ค่อยอยากจะสนใจใคร่รู้เรื่องนี้เท่าไหร่แค่เปิดดูเล่นๆเท่านั้น แต่พอเห็นรูปผู้หญิงที่อยู่ในซองเอกสารเท่านั้นแหละ
"พี่ธันนี่มัน..."
"อืม ใบบัวผู้หญิงที่นายเคยรัก"
ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบพรางจ้องหน้าดูปฏิกิริยาของผู้เป็นน้องชาย
"ผมขอจ่ายหกแสนให้พี่เอง"
"ได้ ถ้าเธอยอม พี่จะยกเธอให้นาย"
"เธออยู่ไหน?"
ธาวินลุกพรวดจะไปเรือนเล็ก
"เอ้ยวิน! ใจเย็นๆนายค่อยมาพรุ่งนี้ก็ได้ ใบบัวยังมาไม่ถึงและอีกอย่างเธออยู่ในฐานะว่าที่เมียของพี่"
ธันวามายืนขวางไว้มองธาวินด้วยสายตาแข็งกร้าว
"ผมจะรอเจอบัว"
"นายลืมไปหรือเปล่าว่านายกำลังจะแต่งงาน ปล่อยบัวไปเถอะ นายจะยื้อเธอไปทำไมอยู่กับพี่ก็ใช่ว่าบัวจะลำบาก"
ร่างสูงทรุดนั่งลง จริงของธันวาเขากำลังจะแต่งงาน เขากำลังจะมีเมียจะเอาใบบัวไปไว้ตรงไหน อยู่กับธันวาเธอคือเมียหลวง อยู่กับเขาก็จะกลายเป็นเมียน้อยเมียเก็บ
"พี่สัญญากับผมได้มั้ย ว่าพี่จะยกย่องบัวเป็นเมียคนเดียว"
ฝืนกล้ำกลืนพูดออกมาด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
"แต่เดิมพี่ก็ไม่เคยคิดอยากจะมีเมียอยู่แล้ว แค่อยากช่วยใบบัวเท่านั้น หล่อนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เรื่องเป็นมายังไง แต่นิคมรายงานมาว่าทะเลาะกับแม่รุนแรงมากจากนั้นก็ยอมมาดีๆโดยที่ไม่ได้ขัดขืนอะไร"
"ผมไม่อยากจะเชื่อว่าบัวจะยอมขายศักดิ์ศรีเพื่อเงินหกแสน ถ้าเธอต้องการแบบนั้นผมคงซื้อเธอไปนานแล้ว"
"อันนี้ฉันก็ไม่รู้ แต่ที่ฉันรู้นายควรกลับไปได้แล้ว พี่ไม่อยากให้นายเจอกับเธอในตอนนี้"
"ผม..."
อิดออดไม่ยอมกลับ แต่ก็เห็นด้วยกับผู้เป็นพี่ชายเขาไม่ควรสานต่อกับใบบัว ความจริงแล้วเขาไม่ได้มีสิทธิ์อะไรในตัวเธอเลยด้วยซ้ำ แต่พี่ชายเขาต่างหากที่มีสิทธิ์ ใบบัวอาจจะรักใคร่พี่ของเขาก็ได้ใครจะไปรู้
"กลับไปเถอะน่า จนกว่าแกจะแต่งงานพี่จะไม่แตะต้องตัวเธอเด็ดขาด"
"สัญญาได้มั้ย?"
"อืม"
ธันวาพยักหน้าตอบรับคำสัญญา
"ขอบคุณครับ"
ธาวินลุกขึ้นเพื่อจะกลับบ้านโดยที่ไม่ได้ขับรถกลับ เพราะบ้านของเขาห่างจากบ้านของธันวาไม่มาก สามารถเดินกลับได้อย่างสบาย
"ฮะโหลพ่อครับ ผมทำตามที่พ่อสั่งแล้วครับ"
ทันทีที่ธาวินกลับไปธันวาก็โทรศัพท์รายงานผู้เป็นพ่อในทันที
ความจริงธันวาไม่ได้ต้องการแต่งงานกับใบบัว แต่นี่คือแผนของท่านวรฤทธิ์ที่ต้องการให้ธาวินตัดขาดจากใบบัวโดยที่ให้ใบบัวแต่งงานกับธันวาแทน เป็นทางเดียวที่จะทำให้การแต่งงานราบรื่น
'ผมก็มักจะได้ของเหลือจากนายวินเสมอ แต่พ่อครับ ผมจะให้พ่อบงการชีวิตผมไม่นานหรอก ทุกอย่างของพ่อก็คือของผม ผมสัญญากับพ่อว่าผมจะไม่ทำร้ายน้องชายเด็ดขาด ตราบใดที่น้องยังรักและยกทุกอย่างให้ผม ผมก็จะรักน้องเหมือนกัน รอวันไปพบท่านยมได้เลยครับพ่อ'
ธันวาส่งสายตาวาวโรจน์ยามคุยกับผู้เป็นบิดาภายในใจ อีกไม่นานหรอกที่เขาจะทำตามคำสั่งของผู้เป็นบิดาที่ไม่บังเกิดเกล้า
อีกไม่นานทุกอย่างของทรัพย์เพิ่มพูนก็จะกลายเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ธันวากำหมัดแน่นจนรู้สึกว่าเล็บของเขามันทิ่มแทงลงไปบนเนื้อจนเกิดรอยช้ำเลือดถึงได้รู้สึกตัวว่าเจ็บ