"นายครับ"
"ชู่!"
ธันวาส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงด้วยปากดังจุ๊ ๆ เพื่อเตือนห้ามไม่ให้นิคมส่งเสียงดัง เมื่อพบร่างของภัทรานอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงเบาะหลังของรถ หลังจากที่รถขับมาถึงที่หมาย ซึ่งก็เป็นหมู่บ้านใกล้ๆชายแดนไทยพม่า
ที่นี่เป็นบ้านสวนที่ธันวาแอบมาซื้อเอาไว้เพื่อมาพักผ่อน ส่วนบ้านใหญ่ในตัวเมืองไม่ได้ไปพักตามที่ได้แจ้งกับทางเลขานุการไว้ ไม่ใช่ธันวาไม่รู้ว่าเจนนี่เลนุการคนล่าสุดของเขาที่ผู้เป็นบิดาหามานั้นเป็นคนของใคร
"ไม่รู้เลยว่าคุณหนูภัทรแอบขึ้นมาตอนไหนครับ"
"เดี๋ยวฉันอุ้มลงไปเอง ดูท่าแล้วคงจะหลับสนิทเพราะเหนื่อย นายรีบไปเช็คดูห้องรับแขกว่าเรียบร้อยรึเปล่า"
"ครับนาย"
แท้จริงธันวานั้นรู้นานแล้วว่าภัทราแอบขึ้นมาแอบอยู่บนรถ เพียงแต่อยากแกล้งให้เธอเมื่อยเล่นๆ พรุ่งนี้ค่อยให้ลูกน้องไปส่งที่สนามบิน
"ตัวหนักไม่ใช่เล่นเลยนะยัยตัวแสบ"
ยิ้มออกมาเมื่อช้อนร่างของคนพยศขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน อยากรู้อะไรถึงขนาดต้องตามมาไกลถึงเชียงใหม่ ป่านนี้คนที่กรุงเทพฯไม่ตามหากันให้วุ่นแล้วเหรอ
"นายครับ ห้องพักเรียบร้อยแล้วครับ"
นิคมรีบวิ่งออกมารายงาน ส่วนราเชนและลูกน้องคนอื่นๆแยกย้ายกันลงไปตรวจความเรียบร้อยบริเวณรอบๆบ้าน บ้านหลังใหญ่หลังนี้รอบๆบ้านเต็มไปด้วยไร่ชา องุ่น และกาแฟ ผสมปนเปกันไป โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าธันวาแอบมาซื้อเอาไว้เป็นเซฟเฮ้าส์
ธันวานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงนอนที่มีคนร่างเล็กนอนขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหน้า เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบอกให้รู้ว่าหลับสนิทและหลับลึกถึงขนาดเขาอุ้มมาถึงเตียงยังไม่รู้สึกตัว ธันวาแอบนั่งมองกรอบหน้ารูปไข่ แพขนตาดกดำ รับกับจมูกโด่งรั้น รั้นเหมือนเจ้าของไม่มีผิด ปากอวบอิ่มรูปกระจับแดงระเรื่อเหมือนผลเชอรี่ อยากจะลิ้มลองรสชาดของเชอรี่ลูกนี้ก็เกรงว่าหล่อนจะตื่นขึ้นมา เขาเองยังไม่อยากโดนข้อหาลวนลามผู้หญิงตอนไม่มีสติเลยต้องตัดใจลุกขึ้นเดินกลับห้องตัวเองไปอย่างนึกเสียดาย
เช้าของวันใหม่
ภัทราลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นว่าไม่ใช่ห้องนอนของตัวเองก็ต้องสะดุ้งโหยงรีบลุกพรวดพราดออกจากเตียงทันที เปิดหน้าต่างมองไปรอบๆเห็นแต่ไร่ชาและไร่องุ่นสุดลูกหูลูกตา
'เอาแล้วหลับไปตอนไหนวะ โดนจับได้จนได้ทำไงดี'
เกาหัวแกร่กๆพร้อมกับเดินงุ่นง่านวนไปมาเหมือนเสือที่ติดอยู่ในจั่นหับ มืออีกข้างก็เสยผมแล้วเสยผมอีก
"ตื่นแล้วเหรอ รีบล้างหน้าอาบน้ำสิ เดี๋ยวพี่จะให้คนขับรถพาไปส่งสนามบิน"
ภัทราหันขวับไปเห็นธันวายืนกอดอกมองเธออยู่ตรงประตูของห้อง ในมืออีกข้างนั้นถือแก้วกาแฟไว้พร้อมกับยกขึ้นจิบเบาๆอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า ถ้าภัทรามองไม่ผิดเหมือนเขากำลังอมยิ้มขำเธอแปลกๆ
"แอบขึ้นรถพี่มาสืบเรื่องอะไร?"
พาเข้าเรื่องเลยอย่างไม่ให้อีกคนทันได้คิดหาข้อแก้ตัว
"อะ...อะไรคะ ภัทรไม่รู้เรื่องว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
เบนหลบหน้าพร้อมกับปฏิเสธเสียงอึกอัก รู้สึกเสียหน้า อับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ธันวาวางแก้วในมือลงบนโต๊ะตัวข้างๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้คนตัวเล็กมากขึ้น ภัทรารีบก้าวเดินถอยหลังจนไปติดกับผนังห้อง ธันวาใช้มือทั้งสองข้างตรึงเอาไว้ในสภาพที่เธอหนีไปไหนไม่ได้
"ภัทรคิดว่าพี่โง่เหรอ พี่เห็นภัทรตั้งแต่แอบขึ้นมาบนรถพี่แล้ว คนอย่างธันวาไม่มีทางปล่อยให้ใครมาทำอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆพี่ก็แค่อยากรู้ว่าภัทรจะทำอะไรถึงได้แอบขึ้นมาบนรถ ว่าไงตอบพี่ได้หรือยัง?"
'เสียงก็เข้มหน้าก็ดุ ไม่เห็นจะต้องดุขนาดนี้เลย ภัทรไม่ได้วางระเบิดรถพี่ซะหน่อย' ภัทราทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ออกมาซะให้ได้
"เอ่อ คือว่าภัทร.."
หัวใจเต้นแรงเมื่ออยู่ห่างกันแค่ปลายจมูกแถมสายตาคู่นั้นก็ดูดุดันและคมกล้าซะเหลือเกินใครจะกล้าสบตาด้วยไหว
"บอกมาตรงๆ"
ปลายจมูกโด่งก้มลงมาเรื่อยจวนเจียนจะแตะกับหน้าของเธออยู่แล้ว
"ภัทรแค่อยากรู้เรื่องของพี่กับเด็กบัว!"
หลับตาโพล่งออกมาก่อนจะหลุบวิ่งหนีออกมาจากวงแขน
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับภัทรหืม?"
คราวนี้ธันวาเพิ่มระดับน้ำเสียงเป็นเข้มมากขึ้น
"ภัทรรู้หมดแล้วว่าพี่กับใบบัวไม่ได้เป็นอะไรกัน และรู้ด้วยว่าพี่วินกับเด็กคนนั้นรักกัน ถ้าเป็นอย่างนี้ภัทรก็จะไม่แต่งงานกับพี่วิน ภัทรจะไม่แต่งได้ยินมั้ยคะ"
"จะรู้หรือไม่รู้มันเรื่องส่วนตัวของพี่ ส่วนภัทรจะแต่งงานหรือไม่แต่งมันก็เรื่องของภัทรไม่เกี่ยวกับพี่ รีบไปจัดการตัวเองแล้วกลับไปเถอะ พี่ยังอยู่ที่นี่อีกหลายวันไม่ว่างไปส่ง"
"ไม่ ภัทรไม่กลับ ภัทรจะอยู่ที่นี่กับพี่ธัน ภัทรรักพี่ธัน ภัทรจะบอกคุณย่าว่าภัทรแต่งงานกับพี่ธันคนเดียวเท่านั้น"
"พูดอะไรออกมารู้ตัวมั้ยภัทรา?"
ธันวาตะคอกออกมาอย่างไม่พอใจ
"ภัทรน่ะรู้ตัวดี พี่ธันน่ะสิเมื่อไหร่จะรู้ตัวเองสักที"
"เลิกเอาแต่ใจตัวเองสักที ภัทรกำลังจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย พี่ให้เวลาจัดการกับตัวเองสิบนาทีแล้วลงไปข้างล่าง เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีกแล้ว"
พูดเสร็จธันวาก็เดินหนีออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้คนตัวเล็กยืนหน้าจ๋อยก่อนจะตะโกนตามหลังไป
"ใจร้าย! คนใจร้าย"
น้ำตาร่วงหล่นลงมาอย่างรู้สึกเจ็บปวด เสียใจ เสียความรู้สึกไปหมด กี่ครั้งแล้วที่เธอโดนเขาหักอก กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องเจ็บปวดแต่ท้ายที่สุดก็ตัดใจจากธันวาไม่ได้อยู่ดี การหนีไปแต่งงานไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเลย
"ทำยังไงไม่ให้เรื่องมันยุ่งยากล่ะ ภัทรต้องเสียสละอยู่คนเดียวอย่างนั้นเหรอ ภัทรต้องเจ็บปวดแค่ไหนถึงจะสาแก่ใจพี่ธัน"
ตะโกนออกไปโดยไม่สนใจว่าธันวาจะได้ยินหรือไม่ เธอแค่อยากระบายความเจ็บปวดออกมาบ้างเท่านั้น แน่นอนว่าธันวาได้ยินเต็มสองใบหู เพราะเขายังยืนอยู่บริเวณหน้าห้องนอนของภัทรา
'ขอโทษนะภัทร เราไม่อาจจะรักกันได้จริงๆพี่ไม่อยากให้เรื่องความรักต้องมาฉุดรั้งให้พี่ต้องอยู่อย่างตกต่ำเหมือนหมาตัวหนึ่งอีกแล้ว'