ตอนที่15 แอบซุ่ม

1357 คำ
ภัทราแอบซุ่มดักรอธันวาอยู่ตรงรถตู้คันหรูระดับวีไอพีสำหรับผู้บริหารยี่ห้อHyundai Stariaของธันวา เธอแอบสืบมาจากเลขานุการของธันวาว่าวันนี้ธันวาจะเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยรถตู้ส่วนตัว ไม่ได้ไปเครื่องบินอย่างที่ได้แจ้งเข้าไปในไลน์กรุ๊ปของบริษัท เนื่องจากภาระหน้าที่ของธันวามีความเสี่ยงไม่น้อย นอกจากเลขานุการก็จะไม่มีใครล่วงรู้การเดินทางของเขาจริงๆ บังเอิญว่าเลขาของธันวาเป็นลูกน้องเก่าของผู้เป็นบิดาของภัทราจึงทำให้การล้วงข้อมูลไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมาย "ไม่ได้ล็อก สงสัยเมื่อกี้ลุงคนขับรถลืมล็อกแน่เลย" คิดได้ดังนั้นร่างเพรียวก็แอบเปิดประตูเข้าไปในรถ ก่อนจะเข้าไปแอบอยู่ตรงเบาะหลังสุด กะว่ามาสืบเรื่องของธันวาและใบบัวเท่านั้นได้เรื่องแล้วก็จะแอบลงไป 'มาแล้ว' ธันวาเดินมาพร้อมลูกน้องและคนติดตามอีกประมานสองสามคน 'ให้ตายเถอะ ลูกน้องพี่ธันแต่ละคนหล่อเหมือนพระเอกหนังในซีรีส์' แอบมองชื่นชมผ่านกระจกรถออกไป ผู้ชายรูปร่างสูงหน้าตาเหมือนคัดมาโดยเฉพาะ ทั้งหมดสวมชุดสูททันสมัยเหมือนนักธุรกิจทั่วๆไปแต่พิเศษหน่อยก็คือไม่เพียงแต่หน้าตาหล่อยังสูงยาวเข่าดีเหมือนกันหมด ทุกคนเดินตามหลังผู้เป็นเจ้านายอย่างพร้อมเพรียงกัน ดูเผินๆเหมือนดารามาเฟียในละครก็ไม่ปาน ซึ่งความจริงก็มาเฟียนั่นแหละมาเฟียในคราบนักธุรกิจผู้ร่ำรวย "เชิญครับนาย" หนึ่งในนั้นรีบมาเปิดประตูรถให้ผู้เป็นนาย ภัทรารีบหลบลงไปนอนแอบข้างล่างใต้เบาะนั่งทันที 'ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยทำไงดีวะเนี่ย? ใครจะคิดว่าพี่ธันจะพาลูกน้องมาเยอะขนาดนี้ ลงไปก็ไม่ทันแล้วด้วย' ภัทราได้แต่ภาวนาไปตลอดการเดินทางว่าอย่าให้โดนจับได้ ไม่อย่างนั้นจบเห่แน่ นอกจากไม่ได้ข้อมูลแล้วยังทำให้ขายหน้าอีกที่แอบมาซุ่มทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้ 'ใจเย็นๆภัทราใจเย็นตั้งสติไว้รถจอดเมื่อไหร่ค่อยแอบลงไป' ได้แต่นอนหลับตาปี๋ปลอบใจตัวเองเบาๆ "นายครับ คนที่ชายแดนรายงานมาว่า คุณท่านบอกให้เร่งส่งของตอนนี้เลย ผมไม่แนะนำเลยครับตอนนี้กองกำลังกลุ่มชาติพันธ์กะเหรี่ยงกับทหารพม่าสู้รบกันอย่างดุเดือด ถ้าส่งอาวุธไปตอนนี้จะเป็นที่จับตามองและเสี่ยงต่อการโดนทางการพม่าจับได้ เพราะข่าวการทำสงครามของพม่าและชาวกระเหรี่ยงเป็นที่จับตามองของสื่อต่างๆทั่วโลก ผมเกรงว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย" มือหนายกขึ้นลูบเคราสากอย่างใช้ความคิด สมองของเขากำลังรันข้อมูลอย่างหนักเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ "เอาเถอะราเชน ฉันจะอธิบายกับคุณพ่ออีกที " "แต่หลายครั้งที่คุณท่านไม่เคยฟังนาย พอผิดพลาดก็โทษนายทุกที" นิคมเอ่ยแย้งขึ้นมา หลายต่อหลายครั้งที่ธันวาโดนตำหนิอย่างรุนแรงจากผู้เป็นนายใหญ่อย่างท่านวรฤทธิ์เพียงเพราะความเอาแต่ใจของท่านวรฤทธิ์เอง พวกตนนั้นรักเคารพและซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนายมากจนรู้สึกเจ็บแค้นแทนนายธันวาในหลายต่อหลายครั้ง "งั้นพวกนายก็ช่วยกันคิดว่าทำงานยังไงไม่ให้พลาดเถอะ ไม่พลาดฉันก็ไม่โดนตำหนิ" เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ต่อหน้าคนอื่นธันวาดูดุดันน่ากลัวน่าเกรงขาม แต่สำหรับลูกน้องคนสนิทเขาจะเป็นคนใจเย็นไม่ได้เจ้าอารมณ์เห็นลูกน้องเป็นทาสอย่างท่านวรฤทธิ์จึงทำให้ธันวากลายเป็นเจ้านายที่ลูกน้องรักมากถึงขั้นยอมถวายชีวิตคนหนึ่งเลยทีเดียว ความจริงแล้วงานเหล่านี้เป็นของธาวินที่เป็นทายาทของท่านวรฤทธิ์แต่เพียงผู้เดียว แต่ธาวินไม่ยอมสานต่อเพราะเป็นธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายถึงแม้ว่าจะมีพวกตำรวจเป็นพวกก็ตาม ธุรกิจทั้งหมดถึงต้องตกมาเป็นหน้าที่ของธันวาสานต่อให้ท่านวรฤทธิ์แทนซึ่งธันวาเองก็ทำได้เป็นอย่างดีเสมอมา ภัทรานิ่งฟังเงียบๆ ส่วนมากพูดคุยกันแต่เรื่องงาน ซึ่งภัทราเองก็รู้ว่าครอบครัวของธันวานั้นธุรกิจบางอย่างไม่ค่อยถูกกฏหมายเท่าไหร่ ซึ่ง เรื่องนี้เธอไม่ได้สนใจ เธอสนใจว่าเมื่อไหร่เขาจะพูดถึงใบบัวว่าที่ภรรยาสักที 'เฮ้อ เห็นทีการขึ้นมาครั้งนี้จะเสียเปล่า แวะปั้มเมื่อไหร่แม่งต้องหาวิธีลงไปให้ได้' รถเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงเมื่อออกห่างจากเขตเมืองหลวงเข้าสู่ต่างจังหวัด ภัทรารู้สึกว่าหนังตาของเธอหนักอึ้ง พยายามแล้วพยายามอีกที่จะไม่หลับ สุดท้ายก็ฝืนความต้องการของร่างกายไม่ได้ หนังตาของเธอค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว โรงพยาบาล "ยัยภัทรล่ะ?" ผู้สูงอายุถามผู้รับใช้ประจำตัว เมื่อเห็นว่าสามทุ่มแล้วภัทรายังไม่โผล่มาเหมือนทุกๆวัน "จันทร์โทรไปทั้งแต่ตอนเย็น คุณหนูบอกว่ามีธุระไปต่างจังหวัดค่ะ" ยายจันทร์คือหญิงวัยกลางคนอายุประมานห้าสิบปีคนรับใช้ที่สนิทของคุณย่าฉัตรผู้เป็นย่าของภัทรา "เห้อ เด็กคนนี้จริงๆเลยนะ จะแต่งงานอยู่แท้ๆ โบราณเขาบอกว่าคนจะแต่งงานอยู่ในช่วงที่เนื้อหอมเป็นพิเศษ ฉันล่ะทำได้แค่เป็นห่วง ไม่อยากให้เกิดอะไรกับยัยภัทร อย่างที่เคยเกิดกับ..." เสียงของหญิงสูงอายุสั่นเครือทำให้ประโยคสุดท้ายที่เอ่ยออกมานั้นต้องหยุดชะงักไป ทั้งๆที่ยังเอ่ยพูดออกมาไม่ทันได้จบประโยค "คุณท่านพักผ่อนเถอะค่ะ พรุ่งนี้คุณหนูภัทรก็มาแล้วค่ะ" "จันทร์ว่าหลานอีกคนของฉันยังมีชีวิตอยู่มั้ย ฉันน่ะแก่ขึ้นทุกวันหากได้รับข่าวคราวของยัยภาหลานอีกคนอีกสักครั้งก็คงจะนอนตายตาหลับ" "อย่าห่วงไปเลยค่ะคุณท่าน คุณผู้ชายไม่เคยหยุดค้นหาคุณหนูภาเลยค่ะ สักวันคุณหนูภาจะกลับมาวินิชกุลอีกครั้ง" ยายจันทร์เขยิบเข้าไปใกล้หญิงชราก่อนจะลูบมือเหี่ยวย่นเป็นการปลอบใจเบาๆ กว่ายี่สิบแล้วที่ ภานิชา น้องสาวแท้ๆของภัทราหายไป ใช้เวลาเนิ่นนานจนถึงบัดนี้ในการออกตามหาก็ไม่พบแม้เพียงแต่เงา เรื่องนี้ก็เป็นสาเหตุให้ท่านล้มป่วยเป็นโรคหัวใจเรื้อรัง และเกรงว่าจะตายไปเสียก่อนที่จะพบเจอบุตรหลานอีกครั้ง "จันทร์ก็พูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว กำลังหลอกฉันอยู่ใช่มั้ย โธ่เอ๋ย ยัยหนูของย่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ป่านนี้คงจะโตเป็นสาวแล้วสินะ" น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลรินลงมา เป็นภาพที่สะเทือนใจมาแล้วกว่ายี่สิบปีที่คุณย่าฉัตรอยู่อย่างทุกข์ระทมเพราะหลานรักหายตัวไป ป่วยทางกายยังพอรักษาหายได้แต่ป่วยทางใจนั้นมันเกินจะเยียวยา จะรักษาให้หายได้ก็ต่อเมื่อดวงใจที่หายไปกลับคืนมาอีกครั้งเท่านั้น 'โถคุณท่าน จันทร์ก็ไม่รู้จะปลอบคุณท่านอย่างไรดี' ยายจันทร์เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เพราะเป็นคนเลี้ยงดูภานิชามาตลอด ภานิชากับภัทราไม่มีมารดามีแต่ผู้เป็นย่าและพ่อมาตลอด หลังจากที่ภรรยาเสียชีวิตลงอีกไม่กี่ปีต่อมาลูกสาวคนรองก็หายตัวไปอีก ไม่ต้องบอกว่าคุณเลิศพลนั้นรู้สึกแย่แค่ไหน เพียงแต่ท่านยังเห็นว่ามีภัทราและผู้เป็นมารดาที่ต้องดูแลจึงต้องอดทนและเข้มแข็งมีชีวิตต่อไป เพื่อภัทราและตามหาภานิชาให้พบ ตราบใดที่ไม่เจอศพก็แสดงว่า ภานิชา ยังคงมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยบนโลกใบนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม