"บัว!"
ธันวากับภัทราถอยออกห่างกันเล็กน้อยทันทีที่ใบบัวเดินเข้ามาหา หญิงสาวพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด แม้แต่น้ำตาก็ถูกซับออกไปให้แห้งเหือด
"เรียบร้อยแล้วเหรอ?"
"ค่ะ"
"งั้นภัทรลากลับบ้านก่อนนะคะ"
ยกมือไหว้ธันวาโดยไม่หันมามองหรือทักทายใบบัวเลย ท็อกซิกกับใบบัวสุดๆ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถคันหรูที่จอดอยู่ ใบบัวแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นทั้งคู่เหมือนมีเรื่องอะไรกัน แต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจเพราะว่าเธอไม่รู้สึกอะไรกับธันวาอยู่แล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดให้เป็นไปเท่านั้น
"นายวินว่าอะไรบัวรึเปล่า?"
ก้นบุหรี่ถูกโยนลงไปในถังขยะใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา
"อีกนานมั้ยคะ อีกนานมั้ยที่พวกเขาจะแต่งงานกัน บัวไม่อยากจะอยู่ใกล้พี่วินมากไปกว่านี้"
"นายนั่นมันแผลงฤทธิ์อะไรมาใช่มั้ย?"
ใบบัวกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำตาอุ่นๆที่กำลังเอ่อล้นให้กลับเข้าไป ก่อนจะเดินเคียงกับธันวากลับบ้านที่อยู่ห่างกันไม่มากเท่าไหร่กับคฤหาสน์ของท่านวรฤทธิ์
"ไม่อยากเจอก็ไม่ต้องเจอ พี่จะพยายามไม่ให้บัวพบเจอกับนายนั่นก็แล้วกัน"
"ขอบคุณนะคะพี่ธันที่ช่วยบัว"
"ไม่ต้องหรอก พี่ก็ทำตามคำสั่งคุณพ่อมาเหมือนกัน คุณพ่ออยากให้เราแต่งงานกันเพื่อตัดปัญหาเรื่องระหว่างบัวกับนายวิน"
"บัวเข้าใจท่านค่ะ เป็นใครก็อยากได้ลูกสะใภ้ที่เพียบพร้อม"
ใบบัวนึกเอะใจขึ้นมา แล้วทำไมท่านถึงไม่รังเกียจเรื่องที่เธอจะมาเป็นลูกสะใภ้คนโตของบ้าน
"กำลังจะถามอะไรพี่ หรือว่านึกสงสัยเรื่องพี่กับนายวิน พี่น่ะเป็นแค่ลูกบุญธรรมเท่านั้น คุณพ่อไม่มาสนใจพี่หรอกว่าจะมีเมียเป็นใคร แต่พี่ไม่อยากให้บัวด้อยค่าตัวเองขนาดนั้น ทุกคนเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเกิดมาในฐานะยากจนหรือว่าร่ำรวย พี่เกลียดคนที่มองคนเพียงแค่เปลือกนอกเป็นที่สุด"
แววตาของธันวายามเอ่ยคำนี้ออกมาดูจริงจังและแฝงความอำมหิตเอาไว้อย่างน่ากลัวก่อนจะเล่าต่อไป
"รู้ไหมในชีวิตพี่น่ะ พบเจอคนประเภทนี้มามาก ก็คงมีแต่นายวินที่แตกต่างออกไป พี่รักน้องคนนี้มากรู้มั้ยเพราะอะไร"
"คะ?"
ธันวายิ้มออกมาเล็กน้อย สายตาทอดมองออกไปข้างหน้า ยามที่เขาเอ่ยถึงธาวินจากคนที่ดูเย็นชาเคร่งขรึมน่าเกรงขามกลับแปรเปลี่ยนเป็นคนที่ดูอบอุ่นและอ่อนโยน
"ตอนเด็กๆพี่เกเรมากๆ ตามประสาเด็กวัยรุ่นเลือดร้อนธรรมดาๆคนนึงนั่นแหละ เวลาพี่ทำอะไรผิด ธาวินมักจะมารับผิดแทนพี่อยู่เสมอ เพราะพ่อไม่กล้าทำร้ายหรือทุบตีนายวินจริงจัง แม้ว่าท่านจะไม่แสดงออกว่ารักก็เถอะแต่อย่างน้อยธาวินก็เป็นลูกแท้ๆท่านเลยไม่กล้าลงโทษแรงๆ นายนั่นน่ะมองพี่อย่างกับพี่คือสายเลือดแท้ๆของตัวเอง ยกทุกอย่างให้พี่หมดไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือว่าสมบัติที่แม่ใหญ่มอบให้ นายวินก็เอามามอบต่อให้พี่ราวกับว่ากำลังชดเชยในสิ่งที่พี่ไม่ได้รับแทนพ่อกับแม่ใหญ่"
เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านพักของตัวเองธันวาหย่อนกายนั่งลงตรงมุมนั่งเล่นที่ตกแต่งเป็นโซนสวนหย่อมเล็กๆ ใบบัวนั่งลงข้างๆอยากจะรับฟังความอึดอัดที่ธันวาแอบเก็บไว้ในใจ เขาคงไว้ใจเธอมากถึงได้กล้าเล่าออกมาแบบนี้ อีกอย่างเธอเองก็อยากรู้ความเป็นไปเป็นมาของธาวินเหมือนกัน
"พี่ก็เลยน้อยใจคุณพ่อคุณแม่แต่รักพี่วินใช่มั้ยคะ?"
"เปล่าพี่ไม่ได้น้อยใจพวกท่านเลย..."
ธันวาหยุดไป เขากำลังนึกถึงเรื่องราวในอดีต เขาโดนมาสารพัดแม้กระทั่งโดนบังคับให้อดข้าว ถ้าต้องรู้ว่ามาอยู่ในครอบครัวคนรวยแต่มีสภาพอย่างหมาเขาก็คงอยากจะอยู่ในสถานเด็กกำพร้าอย่างเดิมมากกว่า
"พี่เกลียดต่างหาก"
ใบบัวรู้สึกตกใจที่เห็นแววตาทอประกายความโกรธเกลียดออกมาอย่างเข้มข้นเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น แต่กระนั้นก็ยังรับรู้ได้พลังงานในด้านลบที่ธันวามีต่อครอบครัวอุปถัมภ์
"เอ่อ พี่ธันคะ ไม่ว่าพี่เคยเจออะไรมา แต่บัวมั่นใจว่าพี่ธันเป็นคนดีมากๆคนนึง บัวหวังว่าต่อไปนี้พี่ธันจะพบเจอกับความสุขนะคะ ฝันร้ายมันผ่านไปนานแล้วค่ะ"
หญิงสาวไม่อยากให้ธันวารู้สึกไม่ดีหรือแค้นเคืองใดๆกับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาเลยพูดปลอบประโลมขึ้นมาหวังเพียงดึงพลังลบที่มีในใจให้เปลี่ยนเป็นด้านบวก เธอเองก็มีชีวิตไม่ต่างกับธันวามากนักแต่เธอให้อภัยพวกท่านไปหมดแล้ว อย่างน้อยพวกท่านก็เลี้ยงดูมา
"ไม่หรอกตราบใดที่พ่อยังอยู่ ทั้งพี่และก็นายวินก็มีชีวิตอยู่เหมือนหุ่นเชิดที่คอยรับฟังคำสั่งเท่านั้น"
"รวมทั้งเรื่องการแต่งงานด้วยเหรอคะ?"
"ใช่ นายวินก็แต่งเพื่อแลกกับข้อแลกเปลี่ยนบางอย่างเหมือนกัน"
"ข้อแลกเปลี่ยนอะไรคะ แล้วทั้งคู่ไม่ได้รักกันจริงๆเหรอคะ?"
ขนตาของเธอเพยิบขึ้นพรางจ้องมองอย่างสงสัย ข้อแลกเปลี่ยนอะไร แล้วทั้งคู่รักกันจริงหรือไม่เป็นสิ่งที่ใบบัวอยากรู้มากในตอนนี้
"เดิมทีนายวินไม่เคยรักหรือรู้สึกกับภัทราเป็นคนรัก เพราะเห็นกันมาทั้งแต่เด็กๆ นายวินคงเอ็นดูเป็นน้องสาว แต่คุณพ่อไม่คิดอย่างนั้น ท่านคงจะมีวิธีบีบนายวินให้สยบยอมอยู่แล้ว ตามประสาคนบ้าอำนาจ"
ธันวาไม่บอกความจริงเรื่องที่ธาวินโดนบีบคือแลกกับความปลอดภัยของใบบัว เพราะไม่อยากทำให้เรื่องราววุ่นวายใหญ่โต
และจากการที่เขาสังเกตุมาตลอดสองคนนี้ยังมีใจให้กันอย่างเต็มเปี่ยม อีกทั้งคนอย่างธาวินยอมแลกทุกอย่างได้เพื่อรักแม้แต่ชีวิตของตัวเองก็ตาม
ขอเพียงแค่ธาวินรู้ว่าใบบัวรักเขาบ้างเพียงแค่นั้นธาวินก็พร้อมชนทุกอย่างแล้วไม่เว้นแม้แต่เรื่องการแต่งงาน
"บัวว่า พวกเขาคงจะรักกันไม่ยากหรอกค่ะ"
ไม่มีคำตอบหรือคำพูดใดผุดออกมาจากปากของธันวาอีกทั้งคู่ได้แต่นั่งถอนหายใจเงียบๆอยู่อย่างนั้น ต่างคนก็เหมือนเพื่อนที่คอยปลอบและระบายซึ่งกันและกัน เหมือนพี่ชายน้องสาวมากกว่าจะร่วมเรียงเคียงหมอนเป็นคู่รัก
ใบบัวเองก็ได้รับรู้เรื่องอะไรของธาวินและธันวาในหลายๆมุม ว่าแล้วก็เถอะเรื่องของคนรวยที่เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างแท้จริงแล้วไม่ได้ดูมีความสุขอย่างคนที่หาเช้ากินค่ำไปวันๆ พวกเขามัวแต่กลุ้มเรื่องที่เหล่าคนรากหญ้าไม่มีวันเอามาใส่ให้รกสมอง อย่างเช่นเรื่องทายาทหรือการหาคู่ครองที่ต้องคัดแล้วคัดอีกตามความเหมาะสม การแข่งแย่งชิงดีชิงเด่น หากมัวเผลอพักหายใจแค่ครู่เดียวคู่แข่งก็ล้ำหน้าไปไกลโขแล้ว
"เฮ้อ"
"เป็นอะไรไปอีกล่ะ"
"บัวคิดว่าเรื่องของบัวดูเล็กไปเลยค่ะ ถ้าเทียบกับชีวิตของคนร่ำรวยล้นฟ้าที่ต้องแย่งชิงกัน"
"อืม พี่ว่ามันน่าท้าทายดีออก บัวก็ไม่ต้องนอยด์ให้มาก อีกไม่นานพี่จะคืนอิสระให้บัว ถือซะว่ามาทำงานให้พี่ชั่วคราวก็แล้วกันนะ"
ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ลงบนศีรษะเล็กเบาๆอย่างนึกเอ็นดู ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้เขาเอ็นดูได้เท่าใบบัวอีกแล้ว ภายในหนึ่งอาทิตย์ที่เธอมาอาศัยอยู่กับเขา ทำให้ชีวิตเขาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง แต่..ไม่ได้คิดกับเธอฉันท์ชู้สาวหรอก เขามองใบบัวเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสาต่างหาก ส่วนอีกคนนั้น ดื้อ พยศ ซะจนอยากจับมากำราบซะให้เข็ด
อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงความดื้อรั้นดั่งม้าพยศของผู้หญิงอีกคน ยามใดที่เจอหน้าเขาดีแต่หาเรื่องต่อปากต่อคำ จนเขาต้องเดินหนีหน้าเจ้าหล่อนอยู่เสมอ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันทั้งๆที่ใจมันก็ร่ำร้องอยากจะเจอหน้าแท้ๆ
ภาพที่ธันวาปฏิบัติต่อใบบัวอย่างอ่อนโยนนั้นทำให้คนที่เดินตามมาถึงกับหยุดนิ่งยืนกำหมัดแน่นด้วยอารมณ์ที่ร้อนรนกระวนกระวายอยู่ในใจ ยกฝ่ามือขึ้นตรึงกับต้นไม้พร้อมกับทุบออกมาแรงๆ แววตาฉายแววทุกข์ระทมอย่างชัดเจน เพิ่งจะรู้ซึ้งวันนี้ว่าอาการหึงหวงมันก็เจ็บปวดทรมานไม่ต่างกับอาการอกหักสักเท่าไหร่